ฟังแต่ประเด็นที่เลือกขึ้นมาพูด บางคนคงถูกใจหรือโดยเฉพาะคุณเมีย หรือแม่บ้านหลายท่าน ทำไม่ค่อยได้กันในสมัยนี้ เพราะทุกคนล้วนมีงานนอกบ้านที่ต้องทำ กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำดึกแล้ว กลายเป็นแม่บ้านถุงพลาสติกกันไปแล้ว ระวังคุณพ่อบ้านแวะโรงน้ำร้อนน้ำชาจะหาว่าไม่เตือนค่ะ
สมัยปัจจุบันสังคมเปลี่ยนแปลงไป ครอบครัวที่ภริยายึดถือปฏิบัติเคร่งครัดตามหลักธรรมเหล่านี้ นับว่ามีปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะยึดเหนี่ยวค้ำจุนชีวิตครอบครัวไว้ให้มีความสุข ความราบรื่น มั่นคงด้วยดี และความประพฤติเช่นนี้จะไม่เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียหายแก่ชีวิตครอบครัว
พุทธโอวาทที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมสำหรับภรรยามี 5 ข้อ ซึ่งมีใจความว่า
1. พึงเป็นผู้ตื่นก่อน นอนทีหลัง เอาใจใส่คอยฟังว่าจะมีอะไรให้ช่วยทำ ประพฤติแต่สิ่งทีถูกใจ พูดไพเราะน่ารัก รู้จักปรนนิบัติ
2.คนเหล่าใดที่เป็นที่เคารพนับถือของสามี เช่น บิดา มารดา ครู อาจารย์เป็นต้น ก็แสดงความเคารพด้วย
3.เป็นผู้ขยัน เอาใจใส่งานบ้านทุกอย่าง รู้จักคิดจัดทำงานเหล่านั้นให้เรียบร้อยเหมาะสม
4.เอาใจใส่สอดส่องดูแลคนในปกครองภายในบ้าน มีใครเจ็บป่วยไข้เป็นอย่างไร คอยเอาใจใส่รักษาพยาบาล
5.รู้จักประหยัดเก็บรักษาทรัพย์สมบัติที่สามีหามาได้ ไม่เล่นการพนัน ไม่เป็นนักดิ่ม ไม่ทำลายผลาญทรัพย์สมบัติ
นอกจากนี้แล้ว ในบางแห่งทรงแสดงคุณธรรมในใจกำกับไว้เป็นข้อสุดท้ายด้วย คือ การอยู่ครองเรือนด้วยจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่คับแคบด้วยความตระหนี่เห็นแก่ตัว คุณธรรมประจำใจนี้เป็นพื้นฐานชีวิตที่สำคัญ ทำให้บ้านเรือนเป็นสถานที่ร่มรื่น เยือกเย็นเบิกบานใจ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตครอบครัว
หลักธรรมข้อต้น ๆ อันเป็นความประพฤติที่แสดงออกภายนอก อาจเปลี่ยนแปลงประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมตามยุคสมัย แต่คุณธรรมที่เป็นพื้นใจ จะยังคงรูปเป็นอย่างเดียวกันตลอดทุกกาล
-ขอบพระคุณหลักธรรมดี ๆ ที่ทรงแสดงธรรมสอนไว้ให้คนรุ่นหลังฟังเพื่อใช้ประกอบการดำเนินชีวิต
-ขอบพระคุณ พระสงฆ์ ที่เทศนาสอนหลักธรรมดี ๆ ให้คนรุ่นหลังถือนำไปปฏิบัติ
ขอบพระคุณบทความของ พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต)
ที่ให้ข้าพเจ้าได้ศึกษาและเป็นวิทยาทานต่อไปเจ้าค่ะ
สวัสดีคะ Alyunus และอาจารย์จานแดง
เห็นด้วยกับทุกท่านค่ะ แต่ละคนมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันออกไป หากหญิงควรประพฤติตามหลักแม่บ้านที่ดี และชายต่างก็ประพฤติตามหลักพ่อบ้านที่ดี โลกเหล่านี้คงไม่ต้องมีศีลกาเม มาบังคับใจอีกที จริงไหมค่ะ