หลักการทรงงาน"ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"ตอนที่ 7


ข้อมูล สำนักงาน กปร. งานนิทรรศการ 60 ปี ครองราชย์

      ติดค้างกันมาหลายวัน สำหรับการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนี้มาว่ากันต่อด้วยเศรษฐกิจพอเพียง

        เศรษฐกิจพอเพียง

             เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี  ตั้งก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและเมื่อภายหลังได้ทรงย้ำแนวทางการแก้ไข เพื่อให้รอดพ้นและสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆดังปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ได้พระราชทานไว้ดังนี้

         "...เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางดำรงอยู่และปฏิบัติตน ของประชาชนในระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหาร  ประเทศให้ดำเนินการไปในทางสายกลาง  โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวหน้าต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์  ความพอเพียงหมายถึง ความพอประมาณ  ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร  ต่อมามีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน  ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบและความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆมาใช้ในการวางแผน  และการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ  โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ  นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ  ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริตและให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม  ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทางด้านวัตถุ  สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี

        ความซื่อสัตย์  สุจริต  จริงใจต่อกัน

            "...คนที่ไมมีความสุจริต  คนที่ไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่ายไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้  ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น  จึงจะทำงานสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ที่แท้จริงได้สำเร็จ.."

                     พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2522

            "...ผู้มีความสุจริตและบริสุทธิ์ใจแม้จะมีความรู้น้อยก็ย่อมเป็นประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมได้  มากกว่าผู้ที่มีความรู้มากแต่ไม่มีความสุจริต  ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ

                        พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2533

             "...ผู้ว่า ceo ต้องเป็นคนที่สุจริต  ทุจริตไม่ได้ ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียว  ก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป..."

           "....ข้าราชการหรือประชาชนมีการทุจริต  ถ้ามีการทุจริตแล้วบ้านเมืองพัง  ที่เมืองไทยพังมาเพราะมีทุจริต

                          พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 3  ตุลาคม  2546

   วันนี้จบไว้แค่นี้ก่อน ตอนหน้า ทำงานอย่างมีความสุข  ความเพียร รู้รักสามัคคี ซึ่งจะนำเสนอเป็นตอนจบ....สวัสดีครับ

หมายเลขบันทึก: 149416เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2007 20:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ

  ในที่สุด พี่เกษตรยะลา ก็นำจิ๊กซอของตัวเอง ออกมาต่อ บนผืนดินที่เรียกว่า ประเทศไทย อย่างมากมาย ความสุข ความเจริญ จะบังเกิดแก่ ชาติบ้านเมือง ด้วยพระราชดำรัสนี้ค่ะ

  สวัสดี..น้องหมอ

  • Pใกล้วันที่ 5 ธันวา มาเรื่อย
  • เร่งทำ ความดี เพื่อพ่อหลวง
  • แต่ได้กับตัวเอง..เต็มๆ
  • ขอบคุณ..
  • สวัสดีครับคุณพี่เกษตรยะลา
  • มาตามเก็บความรู้เศรษฐกิจกิจพอเพียงครับ
  • และนำพระราชดำรัสไปเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตครับ
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับพี่ ไมตรี เกษตรยะลา

  • บทเพลง พ่อแห่งแผ่นดิน คือคำตอบสุดท้ายครับ
  • ขอบคุณ ครับ

  สวัสดีครับ  P อ.บัวชูฝัก

  • แนวทางการทรงงานพระเจ้าอยู่หัว
  • เป็นแนวทางปฏิบัติของข้าราชการ
  • และประชาชน
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ Pหนุ่มร้อยเกาะ

  • ความเป็นอัจฉริยะ ต้องพระเจ้าอยู่หัว
  • รอบรู้ทุกเรื่อง กลั่นกรองเป็อย่างดี
  • ก่อนเผยแพร่ เพื่อเป็นแนวทาง
  • แก่ข้าราชการและพสกนิกร
  • ขอบคุณมาก

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆชุดนี้ครับ ตามอ่านอยู่เรื่อยๆครับ เข้าไปทักทายบ้างไม่ได้ทักบ้างครับ

  สวัสดีครับ P ท่านอัยการ

  • บทความดีมีความหมาย
  • ใชเป็นแนวการปฏิบัติ จะเกิดผลดีแก่ชาติ
  • บ้านเมือง และตัวเองครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • กรุงเทพราตรี  ..จบแล้วยังครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท