โลกนี้คือละคร


ใครก็อยากได้บทดีๆ

P  

 

ชีวิตเช่นตัวละคร

ชีวิตคนเราถ้าเปรียบเช่นตัวละคร มีพระเอกนางเอก ตัวร้าย ตัวอิจฉา ใครอยากเป็นตัวอะไร ทุกคนก็อยากจะเป็นนางเอกและพระเอกกันทั้งนั้น

บทในละครที่เขาแต่งขึ้นมา เขากำกับบทได้ ว่าใครจะได้รับบทอะไร อย่างไร และทุกๆเรื่อง  ตอนสุดท้าย พระเอกกับนางเอก จะสมหวัง ทุกเรื่อง

แต่ในชีวิตวิตจริงๆ ของทุกๆคน ไม่รู้เลยว่าจะจบแบบไหน รูปแบบใด ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกบทได้ แถมการแสดง มีหลายฉาก และยังต้องแสดงเกือบทุกบทบาท มีทั้งหัวเราะและร้องไห้  สมหวังและก็ผิดหวังคละเคล้ากันไป แสดงเกือบตลอดทั้งชีวิต

และเมื่อเรารู้ว่าชีวิตคือละคร  สิ่งที่จะให้เราเป็นพระเอก นางเอกอยู่ในหัวใจทุกดวง ก็คงจะต้องใช้หลัก  ชีวิตต้องสู้

ในกระแสนำที่ไหลเชี่ยว ปลาย่อมว่ายทวนนำเสมอ ปลาที่ลอยตามนำ ก็มีแต่ปลาที่ตายแล้ว  เกิดเป็นมนุษย์ต้องมีอุปสรรค เช่นกัน เหมือนปลาที่จำเป็นต้องลอยทวนนำ  ผู้ที่ปล่อยชีวิตไปตามโชคชะตา ไปตามเหตุการณ์  ไม่ยอมดิ้นรนต่อสู้ ก็เปรียบเสมือนเป็นปลาที่ตายแล้ว

บทความนี้เพื่อเตือนสติตนเอง  แต่เห็นว่าดี  ใครอยากเตือนสติตนบ้าง  เจ้าของบล็อคไม่หวง  มีแต่ห่วงใย มิตรภาพทั้งหลาย

ชีวิตคือละคร  จะเลือกเป็นแบบไหน บทไหน ก็สุดแต่ใจจะไขว่คว้า

 

หมายเลขบันทึก: 149048เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2007 14:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แต่สุดท้าย..

ละครที่ลุ่มหลงไขว่คว้าต่อสู้ดิ้นรนเอาเปรียบกลั่นแกล้งแย่งชิงหักสวาทฆาตกรรมช้ำรักสมหวังร้องไห้ดีใจกันนั้น......

ก็ต้องจบลง

 

ทิ้งไว้แต่เพียงความว่างเปล่า.. เหมือนเดิม...

 

เจริญธรรมครับ. 

P ---นมัสการคะ  พระอาจารย์ที่เคารพ ขอกราบพระอาจารย์ 3 ครั้ง  ซึ่งขอให้เป็นตัวแทน พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์คะ 

--ดิฉันดีใจมากเลยคะ  ที่พระอาจารย์เข้ามาสั่งสอน หรือเตือนสติกันถึงเน็ทเลย  ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง  แต่ขอสนับสนุน  ให้พระอาจารย์เข้ามาเตือนสติและให้ข้อคิดเห็นได้  เพราะอย่างน้อยก็เป็นการฟังเทศฟังธรรมไปในตัว 

-- โดยเฉพาะถ้าหากว่าอาจารย์ได้มีโอกาสเข้ามาอ่านเวบเกี่ยวกับการให้ความรู้นั้น  สิ่งที่ทุกคนเราขาดไม่ได้ก็คือคุณธรรม  ศีลธรรมควบคู่กับการมีความรู้

--  ถ้าหากว่าอาจารย์ได้เข้ามาเตือนสติบ้างก็จะดี  นอกจากจะได้ความรู้แล้ว  คุณธรรม ศีลธรรม จะไปหาเอาที่วัดก็ด้วยมีแต่วันศีลวันพระ และไปที่วัด ส่วนมากก็มีแต่คนสูงอายุ ส่วนคนที่กำลังทำมาหากิน บางคนก็งมงายลุ่มหลง ไม่เข้าวัดเข้าวา หาแต่ความรู้กัน  แต่ไม่พูดเรื่องมโนธรรมหรือสิ่งให้คนได้คิดเลย

--ก็ดีคะ โดยเฉพาะบล็อคของดิฉันเป็นคนจริงจังต่อชีวิต  เลยไม่อยากมัวหลงระเริงกับความสุขที่ตนเองได้รับ ที่ตนเองมีความสุขก็ด้วยมีศีลธรรมอยู่ในหัวใจคะ และยึดถือหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงอยู่แบบไม่เบียดเบียนใคร

--  มีแต่ให้กับให้คะ ไม่มีเงินทองให้  ก็เตือนสตินี่แหละคะ  อย่างน้อยก็ทำให้บล็อคของดิฉัน มีคุณค่ามากขึ้นคะ  สาธุ สาธุคะ นมัสการคะ

P  ว่าที่บัณฑิต
 

·       โอ้ผมไม่ใช่พระหลวงปู่ครูบาอาจารย์ครับ แค่นั่งอยู่ท้ายอาสน์สงฆ์เท่านั้นเอง อิอิ

·       ใช่ครับ เดี๋ยวนี้เวลาเขารบกัน ใช้ระเบิดใช้จรวดเครื่องบินรบกันแล้ว จะมัวมานั่งกร่างคาธรรมาสน์อยู่ในวัด รอให้คนเข้ามาหาก็อย่าหวังว่าจะชนะเลยครับ

·       ศีลธรรมต้องคู่กับความรู้ครับ ขาดกันไม่ได้ทีเดียว อย่างที่เขากล่าวกันว่า ความรู้ คู่ คุณธรรม ถ้าคุณธรรมไม่มาคู่กับความรู้ ความรู้มันก็จฆ่า คุณธรรม เสียเองครับ มันจะเอาความรู้ไปคิดระเบิดฆ่ากันก็ได้

·       ธรรมะ กุศล บุญ ความดี นิพพาน ฯลฯ ไม่ได้จำเป็นต้องไปหาที่วัดเสมอไปครับ แต่ยังไงวัดก็เป็นหลักชัยในการธำรงพุทธิปัญญาของชาวพุทธ  ไปบ่อย ๆ บ้างก็ดีนะครับ ไป วัด นะครับ ไป วัด บ่อย ๆ วัดว่าตอนนี้จิตใจเราสูงขึ้นหรือต่ำลง ฉลาดขึ้นบ้างไหม มองโลกอย่างที่มันเป็น หรือมองอย่างที่เราอยากให้มันเป็น แล้วทุกข์อยู่กับมันอยู่บ้างหรือปล่าว

·       "ความไม่สมบูรณ์แบบ" คือ สัจจธรรมพื้นฐานของมนุษย์ อย่าจริงจังกับชีวิตมาก นักสัมบูรณ์แบบนิยม อยู่ในโลกไม่มีความสุขหรอกครับ ดังนั้นคนเราถ้าอยากมีความสุขมาก ๆ ก็จงอย่าไปคาดหวังอะไรให้มาก ทำเหตุของมันให้ดีก็พอ แล้วปล่อยวางในผลซะ ประเดี๋ยวผลมันก็ดีของมันเอง

·       อนุโมทนาบุญนะ

 

เจริญธรรม.

P

--นมัสการพระอาจารย์  พระอาจารย์ช่างเป็นพระที่ทันสมัยจริงๆ เพราะทุกวันนี้พระอาจารย์จะมานั่งเฝ้าเทศบนธรรมมาสจะไม่ค่อยได้ประโยชน์แก่ประชาชนแล้ว

-พระอาจารย์ต้องออกทำงาน ข้างนอก คือไปแสดงธรรมข้างนอกเลย  และเป็นการดีมาก  ถ้าหากว่าทุกโรงเรียนพุทธจัดกิจกรรมซักอย่างหนึ่ง เพื่อเตือนสติ ในหัวข้ออะไร  ที่มันทันยุคทันสมัยก็จะดีมากเลย ให้พระอาจารย์ได้มีโอกาสแสดงธรรม สอนศีลธรรมที่เด็กไม่ค่อยพากันปฏิบัติ ในการใช้ชีวิตประจำวัน

--นอกจากจะสอนเทศอบรมเด็กแล้ว  พระอาจารย์เองก็มีงานช่วยเหลือสังคม  ตั้งโรงเรียนให้ผู้ด้อยโอกาสได้เรียนฟรี  หรือตั้งโรงพยาบาลรักษาฟรี หรืออะไรก็ได้ ที่ทำไปแล้ว เป็นการเชิดชูศาสนาในเรื่องกิจกรรม

--และเมื่อพระอาจารย์มีกิจกรรมอย่างนี้  จะมีคนใจบุญสุนทาน มาหาพระอาจารย์เอง มาสนับสนุน เพราะตามจริงเศรษฐีในเมืองไทยมีมาก ถ้าเขารู้เขาอาจมาช่วยส่งเสริมเป็นมูลนิธิได้  กลัวพระอาจารย์จะดังระเบิดระเบ้อไปเลย  ซึ่งพระอาจารย์ไม่ต้องารชื่อเสียงแต่เปิดโอกาส ให้คนที่จะทำบุญ ทำได้ถูกจุด

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท