ศิริเขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2549 09:20 น. ()
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2555 14:24 น. ()
ถือว่าเป็นสมาชิกใหม่ของห้องเคมี แม้ว่าจะไม่ใช่คนใหม่ หน้าใหม่ แต่อย่างไร และเป็นที่คุ้นเคยรู้จักกันทั่วทั้งภาคแล้ว สำหรับพี่เพ็ญแข ซึ่งนับว่าได้ช่วยงานได้อย่างมากมายทีเดียว แม้จะได้มาช่วยแค่ครึ่งวัน แต่ทุกคนก็มีความเห็นตรงกันว่า ช่วยให้งานจุดรับสิ่งส่งตรวจ flow ไปได้ดี พี่เพ็ญแขเป็นคนเรียนรู้งานเร็วมาก (พี่เขาบอกว่าถนัดอยู่แล้วเรื่องยิง Barcode มาจาก Center) เราแทบจะไม่ต้องสอนงานอะไรมากเลย พอว่างจากจุดรับสิ่งส่งตรวจพี่เขายังช่วยลงทะเบียนให้อีกต่างหาก แม้จะไม่ใช่งานที่ถนัด แต่พี่เขาเรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ พร้อมที่จะช่วยและเรียนรู้ตลอดเวลา
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังมีอยู่ที่แม้จะระบายจุดรับสิ่งส่งตรวจแล้วแต่งานยังคงไปกองอยู่ที่ จุดวิเคราะห์ผล หรือการตรวจโดยใช้เครื่อง H.917 เปรียบเสมือนคอขวด ก็ไม่ได้ช่วยให้งานออกผลได้เร็วมากนัก แต่มีข่าวดีว่าหน่วยได้สั่งซื้อเครื่องใหม่แล้ว 1 เครื่อง (แต่ไม่ทราบว่าจะมาเมื่อไร???)
ความเห็น
พี่เพ็ญแขคนที่ขยันมากเลยครับ
แต่ไม่รู้ตลอดไปหรือเปล่าเพราะห้องเคมีงานมากจริงๆ (แกบ่นให้ฟังครับ)
พี่เพ็ญแขเป็นคนที่ขยันมากเลยครับ
แต่ไม่รู้ตลอดไปหรือเปล่าเพราะห้องเคมีงานมากจริงๆ
(พี่แกบ่นให้ฟังครับ)
มองจากคนวงนอกนะครับ
ซึ่งอาจจะไม่เข้าใจระบบงานห้องเคมีคลินิกนัก
แต่ทำไมเราไม่ลองคิดระบบการไหลของงานใหม่ แล้วใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
อาจทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้นก็ได้นะครับ
การเพิ่มคนเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น
ในส่วนตัวผมคิดว่าการใช้เทคโนโลยี่เข้ามาช่วยคนทำงานให้มากขึ้น
น่าจะเป็นทางออกของปัญหาระยะยาว
แต่ต้องระวังอุปสรรคใหญ่เรื่องหนึ่ง คือการเคยชินกับระบบงานเดิม
และการยึดติดกับงานเดิม
ทำให้บางครั้งเราคิดอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมได้ไม่มากนัก
เพราะใจคอยจะดึงเข้ามาสู่งานเดิม
ยังไงก็ขออวยพรให้ผ่านพ้นปัญหาไปด้วยดี
หากถึงที่สุดแล้วก็ขอให้คนไข้ลดลงก็แล้วกัน
จะได้พอมีเวลาหายใจหายคอกันบ้าง
อ่านแล้วก้อดจะขอร่วมคุยต่อไม่ได้ ในฐานะคนวงในแต่ไปอยู่นอกเสียนาน
จะเห็นว่าเรามีเทคโนโลยีมาช่วยแต่ยังไม่เรียกว่าแบ่งเบาภาระงาน
คงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ อย่างการใช้ barcode
ทำให้เราไม่ต้องอ่านลายมือแพทย์ แต่ปรากฎว่าเรายังต้องยิง barcode
เพื่อพิมพ์ใบออกมาติดเบอร์ที่ใบและ tube
(ไปๆมาๆเหมือนเพิ่มมากกว่าลดงานนะคะ อันนี้) แถมเรายังต้องใช้คน key
ใบเนี่ยเข้าระบบอีกที (อันนี้ยิ่งตลกใหญ่)
เพราะจุดนี้น่าจะเป็นจุดแรกที่ผ่านเข้ามาอย่างไฮเทค
แต่เราต้องทำแบบคนล้วนๆ นั่ง key ใบเช้าละ 500-600 ราย
จากนั้นงานส่วนใหญ่ที่ใช้เครื่อง Hitachi ก็เป็นคนล้วนๆ key
เข้าเครื่องอีกเหมือนกัน ยังดีที่ได้เห็นว่า
ผลออกจากเครื่องได้โดยตรงเลย
คนแค่นั่งตรวจสอบว่าผลสมควรแก่การรายงานออกไปหรือไม่
(แต่ก็อีกแหละว่าต้องมานั่งเช็คด้วยว่า ชื่อ HN test ward ถูกต้องไหม
เพราะบางทีคน key เข้าก็เมาใส่ HN เพื้ยนไปตัวนึง กลายเป็นคนไข้อีกคน
ก็ยังมีเกิดได้)
ปัญหาก็คือ ตรงจุดที่ควรใช้เทคโนโลยีที่สุด (key ใบเข้าระบบ)
กับที่สอง (ให้เครื่อง Hitachi อ่าน barcode ทำ test ไปเลย)
เรายังไม่สามารถจะทำให้เกิดขึ้นได้
และไม่ทราบว่าจะต้องผลักดันอย่างไรจึงจะทำให้เกิดได้
พวกเราคนทำงานก็เลยต้อง work around the problems แบบนี้แหละค่ะ
เห็นทุกคนทำงานแล้วก็ไม่อยากจะทิ้งไปไหนเลย
รู้สึกว่าเราหายไปตั้งนานในขณะที่เพื่อนๆต้องทำงานงกๆกันแบบนี้
พยายามช่วยคิดอยู่เหมือนกันว่าจะทำอะไร (ในส่วนที่ทำได้)
เพื่อให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น
ความหวังที่ว่าคนไข้จะลดลงนี่ รู้สึกว่าจะเป็นไปได้ยากมากค่ะ
คงยากพอๆกับการจะทำให้นายกฯยอมตอบคำถามเกี่ยวกับจริยธรรม คุณธรรม
โดยไม่เอาแต่อ้างว่ามีคนเลือกเข้ามาเยอะแยะอยู่แบบนี้
ไม่ฟังว่าคนเค้าถามอะไรเลยล่ะค่ะ (อดไม่ได้อีกแล้ว เรา)