แบกเป้......เบิ่งลาวใต้


วิถีชีวิตชุมชน และความหลากหลายทางชีวภาพ

แบกเป้......เบิ่งลาวใต้

วันที่ 22 ตุลาคม 2550

ออกจากที่พักเวลา 07.00 น.เพื่อจากเดินทางไป น้ำตกคอนพะเพ็ง ระยะทาง 150 ก.ม. เพื่อจะไปเที่ยว น้ำตกคอนพะเพ็ง ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของแม่น้ำโขง สองข้างทาง เห็นความสวยงามของผืนป่า ฉันเชื่อว่าในอดีตน่าจะเป็นผืนป่าที่สมบูรณ์ แต่คงถูกบุกรุกเป็นที่ทำกิน หรือด้วยเหตุผลอื่นใดไม่ทราบเพราะไม่มีใครให้ข้อมูล แต่ที่สันนิษฐานอย่างนี้ก็เพราะว่าสังเกตเห็นตอไม้จำนวนมากมายมหาศาลที่ถูกขุดขึ้นมาวางเรียงรายสองข้างถนนและตอไม้เหล่านั้นก็ถูกตีตรา สอบถามคนขับรถได้ความว่า ตอไม้เหล่านั้น เป็นของรัฐบาลและจะถูกส่งผ่านเข้าเวียดนามและสู่ประเทศจีนต่อไป อีกอย่างหนึ่งป่าบอกความสมบูรณ์ของผืนป่ายังคงอยู่ก็คือแม่น้ำที่รถผ่านดูเป็นแม่น้ำสายใหญ่ใสสะอาดหลายสาย ฉันมาถึงน้ำตกคอนพะเพ็งเวลาประมาณ 09.00 น. ใช้เวลาวิ่งรถประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าเป็นบ้านเราคงไม่ถึง แต่นี่ดูคนขับรถมีวินัยและปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วได้ดีเยี่ยม น้ำตกคอนพะเพ็ง เป็นจุดสิ้นสุดของแม่น้ำโขง ความงานของธรรมชาติช่างเป็นใจซะนี่กระไร ดูจากข้อมูลของแผนที่แล้วจะมีความสูง B 103 ม.จากระดับน้ำทะเล ซึ่งพื้นที่ทั่วไปของคอนพะเพ็งจะอยู่ที่ความสูง 200 ม. จากระดับน้ำทะเล พูดพึงน้ำตกคอนพะเพ็ง นอกจากจะสวยงามแล้ว ความหลากหลายทางชีวภาพ ตามซอกหิน ซอกผา ของชนิดพันธุ์ทั้งพืช ทั้งสัตว์ จากการสังเกต แต่ไม่กล้าลงไปสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะว่าเสี่ยงเกินไป ดื่มด่ำกับควายสวยงามของธรรมธรรมชาติ ที่นี่ยังเป็นแหล่งขายของฝาก/ของที่ระลึก ที่มาจากจีน ฉันและเพื่อนเลยตัดสินใจซื้อของฝากไปให้คนที่บ้านกันที่นี่ราคาไม่แพงนัก คนจนๆอย่างพวกเราซื้อไดสบายๆ เดินมาจนเหนื่อยแวะพักกินไอติม คนหนึ่งแท่งรวมทั้งคนขับรถตู้ด้วย เป็น 6 แท่ง ในราคา 180 บาท แพงมากๆในความรู้สึกเพราะเป็นสินค้านำเข้าจากไทย

        ฉันเดินทางกลับจากคอนพะเพ็ง เวลา 11.00 น. เพื่อเดินทางกลับประเทศ ไทยโดยผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองทางช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนั่งรถกับจังหวัดน่าน โดยรถยนต์โดยสารช่อเม็ก-พิบูลมังสาหาร ใช้เวลา 1 ชม. จากสถานีขนส่งพิบูลมังสาหาร ถึงสถานีขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี อีก1 ช.ม ปรากฎว่าตั๋วรถที่จะเดินทางกลับ อุบล-เชียงใหม่ เต็มทุกที่นั่ง จำเป็นต้องนอนพักที่ กรีนปาร์ค อุบลราชธานีอีก 1 คืน และเดินทางกลับน่านในวันต่อมา กลับถึงน่านบ้านเฮา เวลา 08.00 น. ของวันที่ 24 ตุลาคม 2550

                  ไปลาวครั้งนี้ฉันได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะ นอกจากตาม ดูวิถีชีวิตของชุมชนแล้ว ยังเห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่โครงการBRT.เราให้ความสำคัญ การเดินทางแบบค่ำไหนนอนนั่นมันทำให้อยากจะย้อนอดีตไปสัก 10 ปี เพราะมันสนุกจริงๆ แต่ควรจะต้องไปกับคนที่รู้ใจ/เข้าใจกันจริงๆไม่เช่นนั้นจะทะเลาะกันก่อนกลับบ้าน เพราะการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นตลอดเวลา ชนิดที่เรียกว่าค่ำไหนนอนนั่น ทำให้ฉันและเพื่อนเรียนรู้ในการปรับตัว ปกติฉันเองกินยากอยู่ยาก แต่พอไปเจอเหตุแบบนี้มันสร้างสีสันให้กับชีวิตไม่น้อยเลยที่เดียว ขอบคุณโครงการBRT ที่ให้โอกาสพวกเรา               

         ประสบการณ์ 5 วันที่อยู่ในสปป.ลาว ทำให้รู้ว่าค่าใช้จ่ายถึงแม้ว่าค่าเงินกีบจะถูกกว่าเงินไทย แต่เวลาไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น น่าจะใช้เงินกีบ มากกว่าเงินไทย และถ้าจะไปเที่ยวแนะนำว่าให้วางแผนและไปที่ละแขวงแล้วเดินทางกลับ เพราะแต่ละแขวงมีระยะทางที่ห่างไกล จะมีแขวงที่น่าสนใจ ได้แก่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ จำปาศักดิ์ ซึ่งจะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายแล้วแต่ความชอบ ถ้ามีโอกาสจะไปเบิ่งลาวเหนือ แล้วจะมาเล่าให้ฟังเด้อ                          

 

หมายเลขบันทึก: 146135เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2007 15:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

  สวัสดีครับ

  • แวะมาอ่านแล้ว
  • ขอภาพด้วย
  • ปีหน้าจะไปมั่ง
  • ขอบคุณมาก
แอ่วจนลืมหมู่เฮาจาวคค.ขข.เลยน้อ บ่แวะเอาของมาฝากน้องๆ เลยน้อ

-เปิด blog ใหม่แล้ว..หลังจากไปเพิ่มทักษะมา มีหลายอย่างที่จะแลกเปลี่ยน และมีคนฝากบอกมาว่า ..หลังจากไปแบกเป้.งเบิ่งลาวใต้มาก็หายไปเลย..

-ทดสอบ ! มาแวะกันบ้าง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท