
ลำนี้ล่ะชื่อ "สุรินทร์" เราจึงโดนแซวว่าเพราะมีคนจากสุรินทร์มา เครื่องเลยดื้อไม่ยอมบิน (ฮา) ช่างบังเอิญจริง จริ๊ง
ต้นเดือนที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสเติมเต็มสีสันให้ชีวิตอีกครั้ง เมื่อได้ร่วมเดินทางกับคณะ สรส.(สถาบันเสริมสร้างการเรียนรู้สู่ชุมชนเป็นสุข) ไปร่วมงานตลาดนัดความรู้สู่ชุมชนเป็นสุข ภาคใต้ ซึ่งจัดที่ศูนย์เทศบาลทุ่งท่าลาด อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช การเดินทางจากกรุงเทพนั้น คณะได้เลือกใช้บริการโดยเครื่องบิน “นกแอร์” เวลาที่กำหนดเป็นเที่ยวบินแรก เวลา 0630 น. ดิฉันพร้อมคณะพร้อมกันที่ดอนเมืองก่อนเวลาเพื่อจัดแจง โหลดกระเป๋า เช็คอิน เรียกว่ามีความพร้อมไม่ต้องรีบร้อน เพราะบริหารเวลาจากที่พักมาดอนเมืองเป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ประกาศเชิญผู้โดยสารที่จะเดินทางไปนครศรีธรรมราช เที่ยวบินที่ DD 7804 ขึ้นเครื่องได้ที่ประตู 67 คณะเราประมาณสิบกว่าชีวิต ขึ้นเครื่องตามระเบียบ ดิฉันได้ที่นั่งหมายเลข 42 วันนี้อากาศค่อนข้างปิด ฟ้ามืด สลัว หลังจากพนักงานบนเครื่องหน้าตาสะสวย สาธิตการใช้อุปกรณ์บนเครื่องเสร็จเรียบร้อย เสียงทีปีกเครื่องด้านซ้ายตรงกับที่ดิฉันนั่งก็ดังขึ้น “ครืด ครืด” แรก ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เข้าใจว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์ปกติ ไม่นานเกิน 5 นาที เสียงนุ่ม ๆ ของกัปตันก็ดังขึ้น “ สวัสดีครับ ผมกัปตัน.... มีความจำเป็นขอเรียนให้ผู้โดยสารทราบว่าขณะนี้มีเหตุขัดข้องในระบบควบคุม จึงขอบินกลับไปเช็คที่ดอนเมืองก่อน” หลายคนที่นอนหลับอยู่ ตาก็เบิกกว้างขี้น (โดยเฉพาะน้องอุแห่ง สคส.ที่ร่วมเดินทางไปด้วย) บางคนนั่งนิ่งเรียกสมาธิ สำหรับดิฉันนะเหรอ แฮะ แฮะ ยกมือพนมไหว้พระวอนสิ่งศักดิ์ช่วยลูกด้วยเถอะ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
เมื่อเครื่องลงจอดที่รันเวย์ ใจค่อยชื้นมาหน่อย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าขอให้ผู้โดยสารเอาสัมภาระบนเครื่องลงด้วย ประมาณ 08.00 จะประกาศให้ขึ้นเครื่องอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็แจกคูปองให้ไปรับประทานอาหารซึ่งมีมูลค่าเพียง 60 บาท เดินไปห้องอาหารที่เขาจัดไว้ คนเยอะมาก ถ้าสั่งอาหารจานเดียวมาทานคงต้องรออีกนาน จึงเอาไปแลกแซนวิสมา ได้ 1 ชิ้น (เขาคิดมูลค่าตามคูปองเลยค่ะ 60 บาท) น้ำก็แลกไม่ได้นะคะ กลับมานั่งรอหน้าประตูทางขึ้นเครื่อง รอแล้วรอเล่า แปดโมงก็แล้ว เก้าโมงก็แล้ว ..........รอแล้วก็รอ.....คณะที่ไปบ้างก็เดินไปเดินมา บ้างก็นั่งสัปหงก เพราะตื่นตั้งแต่ตีสาม บ้างก็โทร.แจ้งญาติ บ้างก็บ่น เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ที่ต้องนั่งรอที่ดอนเมือง ทำให้เราได้มีโอกาสสังเกตพฤติกรรมของผู้คนได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะ สำหรับตัวเองก็ได้ฝึกความอดทนที่จะต้องรอคอย (อย่างไม่เครียด) ด้วยการตามดูจิตทุกขณะ ว่าสิ่งใดหากเราควบคุมไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเครียดไปทำไม ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีครรลองของมันก็แล้วกัน ประมาณเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ประกาศให้ขึ้นเครื่องอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนเครื่องให้แล้ว และการเดินทางก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเวลา 12.35 น. คณะเราก็ถึงสนามบินนครศรีธรรมราช แต่ตอนนี้ท้องร้องจ๊อก ๆ หิวข้าวกันหน้าซีดเซียวแทบทุกคน บันทึกหน้าจะพาไปกินข้าวกลางวันมื้อแรกที่สุดแสนจะอร่อยที่ อ.พระพรหม