ปักษ์แรก พฤศจิกายน 2550

ประชาสัมพันธ์งานห้องสมุด

Jเคล็ดลับการกินของสาวหุ่นดี  J
* เพิ่มผัก ถ้าอยากผิวสวยและรูปร่างฟิตเฟิร์มแบบ น้องฟ้า-นาตาลี เกลโบวา อดีตมิสยูนิเวิร์ส หวานใจ ภราดร ศรีชาพันธุ์ ต้องเพิ่มผักทุกมื้อ นาตาลีบอกว่าไม่ว่าจะเป็นผักดิบหรือผักสุกก็มีแคลอรีน้อย แต่กินพื้นที่ในกระเพาะมาก ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทั้งยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยระบบการย่อย และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
* วันละ 2 มื้อ ซูเปอร์โมเดล ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม เผยเคล็ดลับในการกินรักษาเชฟว่า จะไม่กินอะไรหลังหกโมงเย็น ลูกเกดเริ่มวันด้วยมื้อเช้า เธอชอบดื่มน้ำผัก-ผลไม้ที่คั้นแยกกากกับขนมปังโฮลวีต      มื้อกลางวันสามารถกินได้ตามต้องการ แต่ถ้าเลือกได้จะกินก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเบาท้องกว่าข้าว นับๆ ดูแล้วลูกเกดจึงกินเป็นเรื่องเป็นราวแค่วันละ 2 มื้อเท่านั้น
กำลังลด ต้อง ‘งด’ ก่อน* ข้าวทุกชนิด ไม่ว่าจะข้าวสวย ข้าวเหนียว ข้าวต้ม แม้แต่ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ ซึ่งแม้จะมีประโยชน์มาก แต่ตอนที่กำลังลด ต้องงดก่อน ได้น้ำหนักที่พอใจเมื่อไหร่ค่อยกลับมากินข้าวกล้อง
* แป้งทุกชนิด ไม่ว่าจะขัดขาวหรือไม่ขัดขาว นอกจากนี้ไม่เฉพาะขนมปัง แต่ยังรวมถึงขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว พาสต้า และวุ้นเส้นด้วย
* น้ำตาลทุกชนิด รวมทั้งน้ำตาลเทียม ซึ่งแม้จะไม่ให้พลังงานแต่ก็จัดเป็นอาหารขยะประเภทหนึ่ง เมื่อกินเข้าไปก็รังแต่จะไปเพิ่มภาระให้ร่างกาย ทำให้รู้สึกหิวบ่อยยิ่งขึ้น
* ผลไม้ทุกชนิด แม้ผลไม้หลายชนิดจะไม่มีรสหวาน แต่ก็ประกอบด้วยแป้ง ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ เช่นเดียวกับข้าว ซึ่งแม้ไม่หวานแต่ก็มีแป้งมาก
* ถั่วทุกชนิด ถั่วประกอบด้วยโปรตีน 1 ส่วน แป้งอีก 1 ส่วน การกินถั่วมากๆ จึงเพิ่มปริมาณแป้งให้กับร่างกายโดยไม่รู้ตัว ช่วงที่กำลังลดให้ได้น้ำหนักตัวที่พอใจจึงควรเลี่ยงถั่วทุกชนิด รวมทั้งน้ำเต้าหู้ด้วย อย่างไรก็ตามเต้าหู้ ซึ่งผ่านกระบวนการที่สกัดแป้งออกไปหมด เหลือเพียงส่วนของโปรตีนล้วนๆ นั้นสามารถกินได้
* นม และผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด แม้จะเป็นนมจืด หรือเพลนโยเกิร์ต เพราะในนมวัวมีน้ำตาลแลคโตสเป็นส่วนประกอบอยู่ ส่วนนมพร่องไขมันนั้นก็ถูกนำไขมันออกไปเพียงส่วนเดียว ยังเหลือคอเลอเตอรอลสูงๆ และไขมันอิ่มตัวที่ทำให้อ้วนได้อยู่ ช่วงนี้ควรงดไปก่อน ที่มา : สุขภาพ. [ออนไลน์].  สืบค้นได้จาก  http://women.sanook.com/   work/www/www_44771.php  วันที่ 21 ตุลาคม   2550

แนะนำหนังสือใหม่     

   30  สูตรอาหารมังสวิรัติ{โดย เสาวภรณ์  วังวรรธนะ และคณะ <p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">                การรับประทานอาหารมังสวิรัติรับประทานได้ตลอดทั้งปีไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงทานเจอาหารมังสวิรัติรับประทานไข่  และนมได้ซึ่งทำให้ไม่ขาดสารอาหาร</p> 31  เมนูอาหารสำหรับเด้กอ่อนเพื่อลูกน้อยที่คุณรัก {โดย  เสาวภรณ์  วังวรรธนะ  <p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">                อาหารเด็กอ่อนจะช่วยให้คุณแม่เข้าใจถึงเรื่องอาหารเสริมของลุกน้อยมากข้น รู้ว่าเมื่อไรที่ลูกน้อยต้องได้รับอาหาร  อาหารอะไรที่ลูกน้อยควรจะรับประทาน  หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจเรื่องดังกล่าวมากขึ้น และถูกต้องตามหลักโภชนาการ</p> หลากหลายเมนูสมุนไพร เพื่อสุขภาพ {โดย  สุคนธ์  แคแสด, บรรณาธิการ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: left" class="MsoNormal" align="left">                หลาย ๆ คนย่อมต้องเคยสัมผัส หรือใช้สมุนไพร ละเครื่องเทศมาก่อนอย่างแน่นอน  ฉะนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเห็นถึงความสำคัญ และได้แนะนำวิธีการใช้สมุนไพรต่าง ๆ มาทำเป็นอาหาร  ชา  ด้วยความสนุกสนาน และความเพลิดเพลินใจ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: left" class="MsoNormal" align="left"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center"></p> น้ำมันมะกอก  ป้องกันมะเร็ง                 น้ำมันมะกอก นอกจากจะช่วยให้หัวใจแข็งแรงแล้วยังช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วย  หลังจากนักวิจัยในสเปนทดลองน้ำมันมะกอกผสมกับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดแผลพุพองในระบบการย่อยอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร  พบว่าน้ำมันมะกอกช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียได้ถึง  8   ชนิด  โดยแบคทีเลีย  3  จาก     8 ชนิด เป็นเชื้อโรคที่ยาปฏิชีวนะไม่สามารถฆ่าได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ซึ่งรับประทานน้ำมันมะกอกเป็นประจำจะมีสุขภาพดี                และควรเลือกน้ำมันมะกอกที่บนฉลากมีคำว่า Virgin หรือ Extra Virgin เพราะเป็นน้ำมันมะกอกที่ได้จาการสกัดครั้งแรก จึงมีสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ มากที่สุด <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: left" class="MsoNormal" align="left">ที่มา :  “รู้ทันโรค”.  แพรว.  ปีที่ 29.  ฉบับที่ 675.  วันที 10 ตุลาคม 2550. หน้า 40.</p>

อยู่ใกล้สายไฟแรงสูงเมื่อเด็ก เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง ตอนโต นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทัสมาเนีย ในออสเตรเลีย และจากมหาวิทยาลัยบริสทอล ในอังกฤษ ตรวจดูฐานข้อมูลผู้ป่วย 850 ราย ในทัสมาเนียที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งไขกระดูก ระหว่างปี พ.ศ.2515-2523 ได้พบว่าคนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณที่สายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านเป็นเวลานาน อาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นในการเป็นโรคลูคีเมีย (เม็ดโลหิตขาวมาก) ต่อมน้ำเหลือง และโรคอื่นที่เกี่ยวข้อง ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร“อินเทอร์นัล เมดิซิน เจอร์นัล”  แจ้งด้วยว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้กับแนวสายไฟแรงสูงประมาณ 300 เมตร จนถึงตอนอายุ 5 ขวบ มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น 5 เท่า ในขณะที่คนที่อยู่ห่างในระยะเท่ากัน ในช่วงระหว่าง 15 ปีแรก มีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งตอนโตเป็นผู้ใหญ่ 3 เท่า
ศาสตราจารย์เรย์ โลเวนธัล แห่งมหาวิทยาลัยทัสมาเนีย กล่าวว่า หลักฐานต่อผลกระทบทางสุขภาพเรื่องพิษภัยในระยะยาวยังไม่เป็นที่สรุปได้ และแนวทางในระดับนานาชาติที่มีอยู่ว่าให้จำกัดการ เข้าใกล้สายไฟแรงสูงนั้นก็ยังอยู่บนพื้นฐาน ของความเป็นไปได้ที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพระยะสั้น มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งในระยะยาว.
ที่มา : สุขภาพ. [ออนไลน์].  สืบค้นได้จาก http://women.sanook.com/health/tips/    tips_43799.phpวันที่ 25 ตุลาคม  50.

</span><p style="margin: 0cm 0cm 0pt -1cm; text-indent: 1cm; text-align: center" class="MsoNormal" align="center"></p> <p align="center">กิจกรรมห้องสมุดประชาชนอำเภอพานทองปักษ์แรก  ประจำเดือนพฤศจิกายน  2550 </p> <p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> </p> <div style="text-align: center"></div></span><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center"></p> <p align="center">อีเมล์และเว็บบล็อกห้องสมุดประชาชนอำเภอ</p> <p align="center">พานทอง                   </p>

  อีเมล์  : hppt://[email protected]             

  เว็บบล็อก  : hppt://gotoknow.org/file/phantong

 

</span></span></font></span>                  

</span>