การประชุมวิชาการ "วิวัฒน์ของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ : สมดุลสร้างกับซ่อมสุขภาพ" ได้เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวานนี้ สิ่งดีๆ ที่ได้รู้จากการประชุมครั้งนี้ ก็คือได้เห็นศักยภาพของเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่ให้บริการปฐมภูมิ ซึ่งพัฒนาการบริการสุขภาพสำหรับประชาชนกลุ่มต่างๆ ได้อย่างน่าชื่นชม แม้จะต้องทำงานท่ามกลางความขาดแคลนของทรัพยากรทั้งกำลังคน ข้าวของเครื่องใช้ งบประมาณ ฯลฯ ดิฉันคิดว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้มีอยู่อย่างมากมายคือ "หัวใจ" และ "สมอง" ผลงานที่นำมาบอกเล่า เห็นได้ว่าเขาทำงานด้วยหัวใจ ใช้สมองคิดแก้ปัญหาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย ไม่ใช่ความต้องการของตนเองหรือผู้มีอำนาจสั่งการ
กลับมาเรื่องของเบาหวาน คุณเพ็ญภักดิ์ ผดุงจิต นักกายภาพบำบัด โรงพยาบาลชุมพวง ได้ส่งเรื่องเล่ามาให้ทีมงานหลายวันแล้ว เป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนวิธีการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยจากแบบ "กลุ่มใหญ่" เป็น "กลุ่มย่อย" เพราะประเมินแล้วพบว่าผู้ป่วยไม่ชอบวิธีการแบบเดิม ในภาพรวมแล้วผู้ป่วยยังควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้ดี
หลังการปรับเปลี่ยน แม้จะยังไม่รู้ว่าผู้ป่วยจะควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นหรือไม่ แต่ก็มีเสียงจากผู้ป่วยบอกว่าการให้ความรู้แบบกลุ่มย่อยนี้ดีกว่าแบบเดิม
คุณเพ็ญภักดิ์ยังได้บันทึกคำพูดคุยของกิจกรรมกลุ่มย่อยในวันหนึ่ง ที่ดำเนินการร่วมกับคุณผกามาศ คงวิชา พยาบาลประจำหน้าห้องตรวจ มาอย่างละเอียดยาว ๓ หน้ากระดาษ ดิฉันขอคัดลอกมาลงเพียงบางส่วนนะคะ
วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘
"ให้ความรู้แบบกลุ่มย่อย ที่ชุมพวง"
การให้สุขศึกษาที่โรงพยาบาลชุมพวง เดิมจัดให้สุขศึกษาเป็นกลุ่มใหญ่ สัปดาห์ละ ๒ วัน คือวันอังคารและพุธ ซึ่งเป็นวันบริการคลินิกเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานเฉลี่ยวันละ ๙๐ ราย โดยกำหนดหัวข้อเรื่องแต่ละสัปดาห์ จัดตารางปฏิบัติงานสำหรับทีมผู้ให้ความรู้ เช่น ความรู้ทั่วไปโรคเบาหวาน การใช้ยา อาหารเบาหวาน การออกกำลังกายและการดูแลรักษาเท้า การดูแลรักษาปากและฟัน กำหนดให้ครั้งละ ๑/๒ - ๑ ชั่วโมง
หลังให้สุขศึกษาได้ระยะหนึ่ง ได้ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจของบริการคลินิกเบาหวาน พบว่าในส่วนบริการช่วงการให้สุขศึกษา มีข้อเสนอแนะจากผู้ป่วยว่าการให้สุขศึกษาเป็นเรื่องเดิมๆ เคยฟังแล้ว ไม่อยากฟัง สถานที่บริการ เด็กเสียงดัง เนื่องจากในวันพุธตรงกับวันบริการคลินิกสุขภาพเด็กดี เด็กเล่นเสียงดัง ไม่ได้ยิน โอกาสพูดคุยซักถามไม่มี รวมทั้งการควบคุมระดับน้ำตาลโดยภาพรวมของผู้ป่วย ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
ทีมคณะกรรมการจึงได้ปรึกษาหารือกัน และปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดกลุ่มให้ความรู้เป็นแบบกลุ่มย่อย เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ครั้งแรกคัดเลือกผู้มีระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) เกิน ๑๔๐ มก.เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไป มาเข้ากลุ่มเจาะลึกถึงพฤติกรรมกิจวัตรประจำวัน ผู้ป่วยไม่คิดว่าตนเองต้องควบคุมลดน้ำตาลลงเท่าที่ควร
ต่อมาจึงได้จัดกลุ่ม ครั้งละ ๑๐ ราย มีผู้ที่มีสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี ทั้งผู้ที่กินยาอยู่ และผู้ที่คุมอาหารโดยไม่ต้องกินยา ครั้งละ ๑-๒ ราย เพื่อให้ช่วยเล่าประสบการณ์การดูแลตนเอง ให้กลุ่มเกิดแรงจูงใจ ในการอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลที่ปกติ
การทำกลุ่มวันนี้ มีผู้ป่วยเบาหวาน ๑๐ ราย และญาติผู้ดูแลผู้ป่วยอีก ๒ ราย การเลือกกลุ่มครั้งนี้มีผู้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีปกติ ควบคุมอาหารโดยไม่ได้กินยา ๑ ราย และมีผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลยังไม่ได้ดีตั้งแต่ ๑๖๓-๒๙๘ มก.เปอร์เซ็นต์ มาเข้ากลุ่มในห้องให้คำปรึกษาแนะนำ
ผกามาศ "วันนี้ทราบหรือไม่คะ ทำไมคุณป้า คุณตา คุณยายถึงต้องมาคุยกันในห้องนี้" |
".....วันนี้หมอบอกน้ำตาลขึ้นหลาย" ป้าเนาบอก |
"เบาหวานยายก็หลาย" ยายหวังบอก |
"ว่าแต่น้ำตาลฉันขึ้นหลายเท่าไหร่หมอ หมอบอกแล้วก็ลืม" ยายหวังถามต่อ |
ผกามาศ "ของคุณยายหวังนี่ วันนี้ ๒๖๗ นะคะ มีใครยังไม่ทราบไหมคะว่าวันนี้น้ำตาลตัวเองเท่าไหร่กันบ้าง เดี๋ยวจะบอกใหม่แล้วกันนะคะ ของป้าเหงี่ยม ๘๒ ยายมี ๑๔๘ ป้ามะลิ ๑๓๘ ป้าเนา ๑๖๓ ลุงสมาน ๙๘ คุณทองมี ๒๔๔ ยายสำลี ๒๑๘ ลุงสนั่น ๒๙๘ ป้าวัน ๑๐๒" |
ผกามาศ "คราวนี้เราจะมาคุยเป็นรายบุคคลเลยนะคะว่าใครไปทำอะไรมาบ้าง น้ำตาลถึงได้ขึ้นได้ลงอย่างนี้ เริ่มจากยายหวังก่อนละกัน ครั้งก่อนแค่ ๑๑๘ เองนะ คราวนี้ยายกินอะไรมาทำไมน้ำตาลถึงได้สูง" |
"ลูกหลานมาจากกรุงเทพ เขาซื้อผลไม้มาฝากเลยกินหลาย" ยายหวังตอบ |
ผกามาศ "ผลไม้กินได้นะคะยาย แต่ต้องจำกัดปริมาณ แล้วยายกินอะไรบ้างคะ" |
"ก็กินส้มทีละ ๒ ลูก กล้วยน้ำว้า ๒ ลูก" ยายหวังตอบ |
................................ |
ผกามาศ "แล้วป้าเหงี่ยมล่ะคะ วันนี้น้ำตาลดีนะ ๘๒ เอง ทำอย่างไรถึงคุมน้ำตาลได้" |
"ยายก็คุมอาหาร ออกกำลังอย่างที่หมอบอกนั่นแหละ หมอที่อนามัยเขาพาออกกำลังกาย รำกระบองทุกเช้า หมอบอกให้ปั่นจักรยานแทนขี่มอเตอร์ไซด์...." |
............................... |
คุณเพ็ญภักดิ์ ทำหน้าที่ให้ความรู้เรื่องการดูแลเท้า สอนการบริหารเท้า ให้ผู้ป่วยทำไปพร้อมๆ กัน "ทุกคนทำได้ดีมากค่ะ พอจะจำท่าบริหารเท้าได้ไหมคะ ถ้าจำไม่ได้ก็ให้ดูในสมุดประจำตัวของตัวเองนะคะ ด้านหลังจะมีท่าออกกำลังกายต่างๆ อยู่และให้ทำตามนะคะ" |
"แบบนี้ดีเนาะหมอ แต่ก่อนตอนหมอพูดข้างนอก ฟังหมอไม่ค่อยได้ยิน ได้ยินแต่เสียงเด็กร้อง ตอนนี้อยู่ในห้องกันไม่กี่คน รู้สึกว่าเข้าใจดี" ลุงสนั่นกล่าว |
เพ็ญภักดิ์ "ขอบคุณค่ะ มีใครจะเพิ่มเติมอีกไหมคะ ถ้าไม่มีจะได้พาไปตรวจกับหมอใหญ่ ก็ขอขอบคุณทุกคนนะคะที่มาร่วมเข้ากลุ่มในวันนี้ เจอกันครั้งหน้าให้น้ำตาลเหลือ ๑๒๐ นะคะ....ตามมาทางนี้เลยค่ะ เดี๋ยวจะพาไปตรวจกับหมอนะคะ" |
ผู้เล่าเรื่อง คุณเพ็ญภักดิ์ ผดุงจิต นักกายภาพบำบัด โรงพยาบาลชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ๓๐๒๗๐ โทร.๐๔๔-๔๗๗-๒๘๑ |
น่ารักดีคะอยากได้ข้อมูลที่มากกว่านี้ค่ะ อยากอ่านให้มากกว่านี้
น่าจะมีข้อมูลให้มากกว่านี้