ความแตกต่างระหว่าง นักวางแผน กับ นักบงการ
ประเด็นการทำงานพาลให้คิดอีกแล้วครับ วันนี้ผมมีประเด็นบางเศษเสี้ยวของกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะการทำงานที่ต้องร่วมงานกับคนหลากหลายระดับ หลากหลายความสามารถ บางครั้งก็เสมือนว่าหลากหลายการบังคับบัญชา และหลากหลายแนวความคิด(คิดบงการ) รวมอยู่ด้วยกันก็มี
เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่การทำงานสักอย่างที่ต้องมีหลายวิธีการดังที่กล่าวแล้วข้างต้น หากผู้อ่านท่านลองใช้ความคิดแยกแยะประเด็นให้ดี ในเรื่องของการเป็น นักวางแผน กับ นักบงการ พอสรุปได้ดังนี้
นักวางแผน : นักวางแผนจะคิดและวิเคราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความเป็นไปได้ของภารกิจที่จะต้องปฏิบัติล่วงหน้าไว้ก่อน เพื่อให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงนำสู่การปฏิบัติได้มากที่สุด ...คนปฏิบัติงานก็ยินดีและสบายใจมากกว่า เพราะไม่ต้องคอยกังวลกับการ "จี้" แต่สบายใจกับการติดตามความสำเร็จของงานชิ้นนั้นๆ ไปพร้อมๆ กัน อย่างมีทิศทางที่ชัดเจน ...ยังพอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
นักบงการ : นักบงการชอบที่จะสั่งการ ชี้ให้ต้องทำโน่น ต้องทำอย่างนี้ โดยไม่คำนึงถึงความเป็นไปได้ ชอบใช้ความคิดของตนเป็นใหญ่ ทั้งที่ตนไม่ได้ตระหนักถึงว่าควรใช้บทบาทใดกับการทำงานชิ้นนั้น คิดและชี้โดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงของข้อมูลเพื่อประกอบการคิดพิจารณาไตร่ตรองเพื่อใช้ร่วมกับภารกิจให้ดีเสียก่อน มองไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์ ...คนปฏิบัติก็ลำบากทั้ง
ใจกาย ลำบากทั้งใจ เพราะมองไม่เห็นทิศทางที่ชัดเจนเลยแม้แต่น้อยนิด
ถ้าจะเขียนต่อคงยืดยาวมากกว่านี้ เอาเป็นว่าพอให้เห็นเพียงเท่านี้ก่อนครับ
....องค์กรไหนมีคนชอบวางแผน ความสำเร็จก็ย่อมใกล้ความจริงมากกว่ามีนักบงการ
...แต่ที่สำคัญ ขาดไม่ได้เลย องค์กรท่านต้องมีผู้สนับสนุนที่ดี มีนักปฏิบัติที่ดี เป็นมืออาชีพพอควร และปัจจัยอื่นที่เอื้อต่อการทำงานดีๆ เมื่อรวมกับนักวางแผนดีๆ ผลงานย่อมสำเร็จลุล่วงด้วยดีเป็นทวีคูณแน่นอนครับ
ความเห็น (5)
- อย่างนี้เละครับ แบบ วงการพัฒนาที่แท้จริง
- คือเป็นเจ้านายของตัวเราเอง และเป็นผู้บังคับบัญชา ของตนด้วย
- ขอบคุณครับผม สุดยอดมากเลยครับผม
ขอบคุณครับ... รักชาติ ท. บ. พล ทหาร ที่ร่วมสร้างสรรค์
ไม่รู้ ไม่ชี้
คล้าย ๆ อย่างนี้ใช่ไหมครับ
..ไม่รู้ แล้วไม่ชี้ คงไม่เป็นไร
แต่ถ้าไม่รู้ แล้วมาชี้ คงน่ากลัว
แต่รู้ แล้วไม่ชี้ ยิ่งแย่กว่า อิ อิ
(ลอกคำของคนอื่นมาครับ ฮา)
วิษณุ งิ้วงาม
นักวางแผน หรือนักบงการ บางครั้งบางขณะบุคคลมีภาพที่เด่นชัดทางด้านพฤติกรรม แต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบางสถานการณ์ ดังนั้น ภาพรวมของบุคคลเกือบทั้งหมดจะมีพฤติกรรมในลักษณะผสมผสาน ขึ้นอยู่กับบุคคลใดจะมีลักษณะนักวางแผนมากหรือนักบงการมากกว่ากัน
ทุกสังคมก็จะปะปนด้วยบุคคลที่เป็นนักทั้งหลาย ขึ้นอยู่กับจะมีบุคคลที่เป็นลักษณะไหนมากกว่ากัน แต่ผมว่าปัจจุบันคนไทยรักสบายเกินไปกันมากขึ้น การเป็นนักบงการสบายกว่านักวางแผน จึงทำให้บุคคลที่มีลักษณะนักบงการมากกว่าเยอะขึ้นไปด้วย ถ้าที่ไหนมีแต่คนรักสบาย ไม่ชอบทำเอง ชอบใช้คนอื่น ที่นั่นกำลังแย่แน่ๆ
แต่ไม่มีอะไรสายเกินไปสำหรับสังคมไทย ถ้ายังมีคนไทยอยู่ ถ้าเล็งเห็นว่าต้องแก้ไข ก็ช่วยกันแก้ไข โดยเริ่มต้นจากตนเอง และจะช่วยคนอื่นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ