โลกตะวันตกได้พัฒนาระบอบประชาธิปไตยกับระบอบทุนนิยม(ซึ่งไม่ใช่ระบอบเดียวกัน) ราว 400 - 500 ปีมา ทุนนิยมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ประชาธิปไตยล้มลุกครั้งแล้วครั้งเล่า
ด้านประเทศไทย ทุนนิยมเริ่มพัฒนามาตั้งแต่สมัยร.5 (ร้อยกว่าปีมาแล้ว) แต่ประชาธิปไตยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ( 75 ปี) ทุนนิยมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ประชาธิปไตยล้มลุกครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ระบอบทุนนิยมแซงหน้าประชาธิปไตยไกลลิบลิ่ว
ผลก็คือ
1. นายทุนไทย (ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว) สามารถซื้ออำนาจรัฐได้ทั้งนั้น
2. ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ยินดีให้เสียงสนับสนุนใครก็ตาม (ไม่ว่าดีหรือชั่ว) ที่อวดว่าจะเอาใจใส่ ปลดทุกข์ ส่งเสริมการทำมาหากินของเขา เพราะเขาถูกเอารัดเอาเปรียบและถูกหลอกลวงครั้งแล้วครั้งเล่าจนสิ้นศรัทธาในระบอบการปกครองทุกระบอบ
สถานการณ์เมืองไทยในปัจจุบันถึงทางสองแพร่ง และทั้งสองทางก็ลื่น "ขอให้คนไทยทุกฝ่ายคิดให้ดีและเลือกทางสร้างสรรค์" อย่าปล่อยบ้านเมืองลื่นไหลตามประเทศฟิลิปปินส์และพม่า
: จาก มติชน สุดสัปดาห์
น่าสนุกออกที่เมืองไทยเป็นที่เล่นสไลด์
สวัสดีครับคุณครูวิไลย์
หากจะวิเคราะห์ปรากฎการณ์การเมืองไทย ณ วันนี้ก็คงไม่ต่างจากเมื่อวาน และวันวาน จึงมองการเมืองไทยในอนาคตได้ว่า..ก็ไม่ต่างจากวันนี้
ขอขอบคุณนะครับที่มีสิ่งดีๆมาสะกิดหัวใจประชาธิปไตย..สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากนะคะคุณเอก ผอ.ชนะ และคุณรักชาติ ที่ร่วมแสดงความคิดเห็น