การวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Research) เป็นกระบวนการค้นหาความรู้ประเภทกฎเชิงสาเหตุและผล(Causal Laws) จากเหตุการณ์ธรรมชาติ ความรู้ที่ได้ เป็นองค์ความรู้(Body of Knowledge) ประเภทกฎ ซึ่งเราเก็บไว้ในความจำระยะยาวLong-Term Memory:LTM)(โปรดดูที http://gotoknow.org/mind )
การทดลอง(Experimentation) คือ (1)การวิจัยที่นักวิจัยมีอิสระที่จะจัดกระทำกับตัวแปรอิสระ(Indipendent Variables - IV) หรือ ตัวแปรทดลอง (Experimental Variables - EV) ได้อย่างน้อย 1 ตัวแปร และ(2) ผู้วิจัยมีอิสระที่จะกำหนดว่า จะวัดตัวแปรตาม(Dependent Variables - DV) ได้เมื่อไร และที่ไหน ได้อีกด้วย แต่ถ้าจะให้เป็นการวิจัยที่สมบูรณ์กว่านี้ คือเป็นการวิจัยเชิงทดลองที่แท้จริงแล้ว จะต้องเพิ่ม (3) ผู้วิจัยมีอิสระที่จะสุ่มตัวอย่าง(Random)เข้าสู่กลุ่มทดลอง เข้าไปอีกเงื่อนไขหนึ่งด้วย เรื่องนี ท่านผู้สนใจสามารถหาอ่านได้จากตำราการวิจัยได้ทั่วไป ครับ ในหัวข้อนี้ ผมต้องการที่จะแสดงความคิดของผมเอง เกี่ยวกับการตั้งปัญหาการวิจัยเชิงทดลอง
ปัญหาการวิจัยเชิงทดลอง(Statement of Research Problems) จะมีลักษณะดังนี้
เริ่มมีปัญหา : วิธีสอนให้คนคิดสร้างสรรค์
ปรับปรุงปัญหา : (1) การศึกษาผลของวิธีสอนเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ที่มีต่อความคิด
สร้างสรรค์
: (2) วิธีสอนเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ จะมีอิทธพลต่อความสามารถด้าน
ความคิดสร้างสรรค์ หรือไม่ ?
ในขั้นเริ่มมีปัญหา ผู้วิจัยกล่าวปัญหาเป็นประโยคบอกเล่า แต่มีนัยว่า อยากรู้ ยังไม่รู้ จึงเป็นปัญหา แต่คำกล่าวของปัญหายังไม่ชัดเจน ดูประหนึ่งว่า เป็นชื่อบทความ หรืออะไรทำนองนั้น
ในขั้นปรับปรุง (1) กล่าวปัญหาการวิจัยในรูปของประโยคบอกเล่าเหมือนกัน แต่ระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร และมีนัยว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผล (Cause - Effect) อีกด้วย คือ วิธีสอนเป็นสาเหตุ(Cause) และความคิดด้านเหตุผลที่พัฒนาขึ้น เป็นผล (Effect)
ในขั้นปรับปรุง(2) กล่าวเป็นรูปประโยคคำถาม จึงเป็น ปัญหาของการวิจัยที่ชัดเจน ไม่อ้อมค้อม เพราะเป็นรูปคำถาม และเป็นการกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร คือ วิธีสอน (Cause) กับความคิดสร้างสรรค์(Effect) ซึ่งชี้ว่า การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง จะเป็นอื่นไปไม่ได้
ปัญหาการวิจัยในข้(2) จึงดีกว่า (1) ด้วยเหตุผลที่กล่าวแล้ว
ท่านเห็นหรือยังว่า แม้แต่แค่การเขียนปัญหาการวิจัย ก็ยังบอกระดับของผู้วิจัยเรื่องนั้นๆ ได้นะครับ
ไม่มีความเห็น