เมื่อผมปฏิเสธเพื่อนแล้วเกิดไม่สบายใจ


คิดใหม่ว่าจะทำเท่าที่ทำได้ เพื่อร่วมด้วยช่วยกัน แต่ทั้งนี้ต้องไม่ขืนใจตัวเองในสิ่งที่ไม่ควรทำ

     วันนี้ค่ำ ๆ หน่อย เพื่อนจากยะลา “คางคูด 47” เป็นบัดดี้ของผมสมัยเรียนที่ วสส.ยะลา ได้โทรศัพท์มาหา เพื่อบอกเล่าเรื่องราว และเชิงขอช่วยให้ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับเพื่อนอีกคนที่ปทุมธานี (พรก 47) เพื่อผลักดัน เรื่อง พ.ร.บ. วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ..... แต่ผมได้ปฏิเสธไปเนื่องจากสิ่งนี้ผมได้เคยแสดงออกไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ค่อยได้รับการตอบสนอง ผมจึงเลือกเดินทางตามโจทย์ที่เคยเสนอคือ “เพื่อนหมออนามัยมากกมาย ก็มีศักยภาพ แต่จะทำอย่างไรให้สังคมได้รับรู้บ้าง?” ไม่ใช่รู้สึกแปลกแยก แต่ผมมองเห็นความไม่พร้อมในการทำงานเป็นทีม ซึ่งทีมใหญ่มาก ผู้ประสานในจังหวัดเองก็มีความมุ่งมาดทางการเมืองพ่วงท้ายมากเกินไป ผมจึงได้เลือกแนวทางใหม่ที่จะดำเนินการให้หมออนามัยมีความมั่นใจในศักยภาพของตนเองก่อน

     เมื่อได้เห็นบทความเรื่องค่าตอบแทนกำลังคนในระบบสาธารณสุขยุคปัจจุบัน เป็นธรรมแล้วหรือ? มีคนแสดงความคิดเห็นโดยคุณ "DN เอ" ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเขียนบันทึกนี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนหัวเรื่องที่กำหนดคือ “เมื่อผมปฏิเสธเพื่อนแล้วเกิดไม่สบายใจ” และคิดใหม่ว่าจะทำเท่าที่ทำได้ เพื่อร่วมด้วยช่วยกัน แต่ทั้งนี้ต้องไม่ขืนใจตัวเองในสิ่งที่ไม่ควรทำ ขั้นต้นอยากจะได้นำข่าวสารนี้มาเผยแพร่ไปก่อน ดังนี้

     ด่วนที่สุด….เชิญตัวแทนหมออนามัยทั่วประเทศพบ รมว.สธ. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2549 (คลิ้กดูรายละเอียด)  ท่านพินิจ จารุสมบัติ รมว.สธ. ยินดีมาพบปะหมออนามัยทั่วประเทศ วันพฤหัสบดี ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2549 ณ ห้องประชุมไพจิตร ปวะบุตร สป. (ตึก 7 ชั้น 9 ) เพื่อรับฟังปัญหาและความก้าวหน้าการขับเคลื่อน พ.ร.บ. วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน รวมถึงเรื่องหัวหน้า สอ. ซี 7 การกระจายอำนาจ ฯลฯ จึงขอเชิญหมออนามัยทั่วประเทศ มาพร้อมเพรียงกันที่ ห้องไพจิตร ปวะบุตร เวลา 09.00 น.

สอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณฤทธิ์เดช คำแพงศรี 01-3803128
คุณนิรุจน์ อุทธา 01-8739692
หรือ…
สมาคมหมออนามัย 02-5901946

     แต่ผมคนหนึ่งสัญญากับตัวเองว่าไม่ไป เพราะไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า ยังมีวิธีการอื่นอีกมากมาย ที่ทำแล้วประชาชนไม่เดือดร้อน และได้ผลมากกว่า ผมอาจจะคิดสวนทาง แต่ไม่สวนใจตัวเอง เท่านี้ก็มีความสุขแล้วครับ

หมายเลขบันทึก: 14356เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2006 02:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

ผมสนับสนุนคนที่เป็นตัวของตัวเองครับ    เราเป็นเพื่อน เป็นแนวร่วมกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำอะไรเหมือนๆ กัน

วิจารณ์

   ในความเป็นเพื่อนไม่มีคำว่าเสียใจ  ที่เพื่อนมีความรู้สึกแปลกแยกเพราะผมกับท่าน  มักมีความเห็นแตกต่างกันเสมอแต่อยู่ในพื้นฐานของคำว่า " เพื่อน "  ผมไม่เคยนึกเสียใจเลยแต่จะเสียดายโอกาศมาก  หากเราไม่ได้เป็นเพื่อนรักกัน  สิ่งที่ผมคิดและเห็น   เกิดขึ้นบทความที่เจ้าของบล็อก  เคยเขียนเป็นบทความขึ้นมาเอง  เหมือนกับวันหนึ่งที่ท่านได้ลงมือเริ่มทำอะไรเราเห็นและเห็นคล้ายกับเพื่อนเรา แต่มีกระแสบางคนมองเพื่อนเราว่าหัวรุนแรงแต่สิ่งที่ผมมองเห็นคนที่เขาพูดกล่าวหาเพื่อนผม  มันไม่ใช่  หากวันหนึ่งเป็นเรื่องที่เขาคิดว่าตัวเขาถูก เขาจะไม่ยอมรับความเห็นผู้อื่นเลย(บนพื้นฐานของตนใต้บ้านเรา)มักมองเห็นว่าเมื่อมองเห็นไม่เป็นมุมเดียวกันไม่รักกันไม่เป็นเพื่อนกัน(ไม่จริงกัน)  ผมมองว่าความเห็นที่แตกต่างกันยอมจะเกิดสิ่งที่เป็นทางออกต่างกัน  ทางออกต่างกันบางครั้งก็ยังเขาคิดผมยังมองว่า "ดีกว่าที่เราคิดอีกแต่คนมักถือตนเองเป็นใหญ่ " ผมยังมองต่อไปว่าวันนี้สิ่งที่ท่านรู้และได้ดำเนินความคิดจนเป็นบทความขึ้นมานั้น    มันน่าจะถูกดำเนินการต่อไปได้  สิ่งที่ผมคิดคือเมื่อตรงนี้มันพอที่จะทำอะไรได้บางก็น่าจะทำ    ช่วยกันกับเพื่อนๆที่มีแนวคิดเดียวกัน   วันนี้จริงอยู่   ท่านอาจถือเทียนขนาดใหญ่เท่าเทียนพรรษาท่านก็จุดที่เดียว ถ้าคนไม่มาดูบ้าน(สว่างอยุ่แต่ส่วน)แต่ถ้าหากทุกคนรู้และช่วยกันจุดเทียนในบ้านกัน(หว่างทั่งประเทศไทย)ถ้าหากไม่ช่วยกันมันก็เหมือนเดิม(เขาทางเขา)แล้วจะให้คนที่มีความสามารถและเป็นที่พึ่งพาอาศัยของชาวบ้านออกไปนอกระบบกว่านี้หรือ!

ท้ายที่สุดวันนี้...ยังดีใจหากท่าน(เจ้าของบล็อก)ยังคงเป็นนักที่จะคิดและเขียนต่อไปผมมองว่าวันหนึ่งมันคงมีค่าและจะปรากฏสิ่งดีๆแก่สิ่งท่านพยายามคิดและจะเสียใจอย่างยิ่งหากวันหนึ่งท่านหยุดที่จะคิด

ดิฉันเชื่อและศรัทธาในการตัดสินใจของคุณชายขอบ..ซึ่งไม่ได้อยู่บนพื้นฐานที่ยึดเอาตนเองเป็นที่ตั้ง แต่หากเป็นการตัดสินใจด้วยเหตุและผล ด้วยความศรัทธาและอุดมการณ์ที่มี และผลประโยชน์อันมาจาก.."เพื่อให้เกิดความเสียหาย
น้อยที่สุด..แต่เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด"
นี่แหละค่ะคือการที่เราได้เรียนรู้จากการปฏิเสธค่ะ

ขอสอบถามหน่อยนะว่าจุดมุ่งหมายการที่เข้าพบ รมต.มีประโยชน์มากน้อยอย่างไรมีผลอย่างไรและผู้ดำเนินการต้องการอย่างไรน่าจะแจ้งรายละเอียดให้ชัดเจนและหลังจากการเข้าพบเรา(หมออนามัย)จะได้ผลสำเร็จนั้นอย่างไร.

การเข้าร่วมน่าจะเชิญทุกหน่วยงาน,ปลัดกระทรวง,นักข่าว,ตัวแทนหมอนามัยทุกฝ่ายเข้าร่วม. เชิญอดีตปลัด,อดีต รมต.มาพบพูดคุยร่วมกัน

     ขอบคุณครับสำหรับอาจารย์หมอวิจารณ์ ได้แรงใจและความมั่นใจขึ้นอีกเยอะครับ

     กัลยาณมิตรท่านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณ Dr.Ka-poom คุณ paula และคุณต้นอ้อ ขอบคุณที่ติดตามและไดร่วม ลปรร.กัน คนเขียนจะอยากเขียนต่อ วัดจากตัวผมเอง เมื่อเห็นอย่างนี้

     คางคูด 47 เพื่อนรักได้อ่านก็เหมือนได้ฟังเพื่อนพูด เห็นไปถึงสีหน้าและแววตาเพื่อนเลย (จำได้เสมอ) สิ่งที่เพื่อนเขียนทำให้เห็นภาพย้อนหลังไปที่ สอ.ต.ฉลุง ที่ ๆ เราออกฝึกงานด้วยกัน ยังนึกขอบคุณเพื่อนอยู่ตลอดเวลาว่าเพื่อนให้เกียรติเพื่อนเสมอ และเราเคารพความเป็นเพื่อนของกันและกันตลอดมา อันนี้แหละที่ผมเชื่อเสมอมาว่า "เพื่อนรัก" คือ ความหวังดีต่อกัน จึงได้แคร์เพื่อนมาก และเป็นบันทึกนี้ แล้วจะเขียนถึงเพื่อน ถึงป้าพันธ์ ถึงพี่ดม และทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องกับเราที่ สอ.ต.ฉลุง อยากชวนเพื่อนว่า "เราน่าจะพบกันเพื่อทบทวนสิ่งดี ๆ ร่วมกันนะ" ยังไงก็ขอให้เพื่อนและชาว จว.ยะลา จว.ที่เพื่อนรักมาก ได้พบสันติสุขเร็ว ๆ และขอให้ปลอดภัยครับ

     ประเด็นที่คุณต้นอ้อถาม รบกวนเข้าไปหารายละเอียดได้ตาม Link นะครับ เพราะผมได้ตัดสินใจอย่างนี้แล้วครับ "แต่ผมคนหนึ่งสัญญากับตัวเองว่าไม่ไป เพราะไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า ยังมีวิธีการอื่นอีกมากมาย ที่ทำแล้วประชาชนไม่เดือดร้อน และได้ผลมากกว่า ผมอาจจะคิดสวนทาง แต่ไม่สวนใจตัวเอง เท่านี้ก็มีความสุขแล้วครับ"
     วิทีชีวิตคนเราต่างกันคำฟูดต่างกันผมมักจะความคิดที่แตกต่างเสมอจากเพื่อนผมคนนี้ซึ่ง ขณะนี้ผมมีคู่ใจของผมเขาก็เป็นคนลักษณะคล้ายเพื่อนอีกนี้และแต่(มักมองโลกแง้ลบสักหน่อย)บทพื้นฐานคนที่ใช้ชีวิตที่อำเภอเบตง(พื้นที่ดั่งกล่าวยุกก่อนคนต้องเอาตัวรอดเพราะเต็มไปด้วยความไม่ปลอดภัย)ครอบครัวเขาอบรมมาแบบนั้นแต่ก็ไม่พรืออยู่แล้ว  บางสิ่งบางอย่างอยู่กันเพราะมันมีดุลยภาพซึ่งกันและกัน  แต่สิ่งที่ผมมองปัญหาวันนี้หาก พวกเราไม่ตระหนักถึงปัญหาของเราเองเราคงจะไม่เกิดการเปรียนแปลงวันนี้ทั่งผมและท่านก็ตระหนักถึงปัญหาอันนี้  แต่หมออนามัยอีกกี่ร้อยกี่พันคนที่ไม่ธุระไม่รู้และไม่เห็นและไม่รู้ทำพรือ!ยังลุย    เราก็ได้แต่บอกคนให้เท่าแต่ฟังเฉยๆไม่คิดอีทำไรนั้นและเพื่อน    ที่ผมมองและคิดว่าถึงเวลาแล้วยังอย่างน้อยก็ช่วยกันปลุกขึ้นมาเพื่อกลุ่มชนอันที่พึ่งภาพของพี่น้องประชาชนระดับรากหญ้าซึ่งเป็นคนไทยที่รักของเรา

เรื่องไปเยียมป้าเราคิดถึงป้าเสมออยากจะไปกราบป้าสักที่เหมือนกันแต่ถ้าไปแต่ส่วนนั้นเพื่อนไปแล้วไม่พบใครนอกจากบังอะไรผัวพี่ดานั้นใจนั้นอยากจะคุยหลายเรืองร่วมทั้งลูกสาวป้าด้วยแล้วค่อยตุยนอกรอบดีกว่าน่ะเพื่อนน่ะ

 รักเพื่อนเสมอคางคูด47

     ชอบคำนี้ของเพื่อนมาก "บางสิ่งบางอย่างอยู่กันเพราะมันมีดุลยภาพซึ่งกันและกัน" ผมมองว่าทุกสิ่งด้วยซ้ำ เราจึงควรมองหาดุลยภาพนั้น เพื่อนเอ๋ย และรักษาไว้ ฉะนั้นที่เพื่อนกล่าวถึงในข้อคิดเห็นนี้ จึงใช้คำนี้ของเพื่อนนั่นแหละจัดการรักษาเอาไว้ เชื่อเถอะและเป็นสิ่งที่เพื่อนมองเห็นเองอยู่แล้ว "ครอบครัวเป็นหน่วยเล็ก ๆ ที่มีพลานุภาพต่อชีวิตและสังคมมาก"

     ส่วนเรื่องป้าพันธ์ ผู้มีพระคุณยิ่ง เพื่อนกำลัง set วันที่เราจะไปกราบป้าพร้อมกันสักวัน เราต่างคนต่างไปกันมาหลายปีแล้ว คงจะประมาณ เมษาฯ นี้ เตรียมตัวด้วยนะ

     รักเพื่อนเสมอ รักจะนำสันติสุขมาให้เพื่อน ขอให้เชื่อในรักที่บริสุทธิ์

" แต่ผมคนหนึ่งสัญญากับตัวเองว่าไม่ไป เพราะไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า ยังมีวิธีการอื่นอีกมากมาย ที่ทำแล้วประชาชนไม่เดือดร้อน และได้ผลมากกว่า ผมอาจจะคิดสวนทาง แต่ไม่สวนใจตัวเอง เท่านี้ก็มีความสุขแล้วครับ"

เป็นข้ออ้างเท่านั้นแหละผมว่านะ วิธีการอื่นมีอะไรบ้างครับยกตัวอย่างให้ทราบหน่อย ผมมองยังไงก็ยังเห็นว่าคุณยังคิดแบบปัจเจกและค่อนข้างมีอัตตาอยู่เหมือนเดิม ผิดหวังในบางสิ่งที่ไม่เป็นไปตามความคิดของตัวเองจึงเกิดการปฏิเสธอย่างรุนแรง แต่เพื่อปฏิเสธการปฏิเสธนั้นจำเป็นต้องหาเหตุผลสนับสนุนและลดความรุนแรงในความรู้สึกนั้นๆ

ถ้าคิดอย่างที่ว่าในเครื่องหมายคำพูด ว่าเท่านี้ก็มีความสุขแล้วครับ รู้ไม๊ว่าสังคมจะเป็นอย่างไรต่อไป?

ธรรมชาติของจิตมักจะไหลลงต่ำครับ ฉะนั้นการตามใจหรือความรู้สึกของตัวเอง จึงไม่ควรกระทำ AAR น่าจะบอกอะไรบ้างนะครับ ยกจิตให้สูงขึ้นอีกหน่อย

ด้วยจิตคารวะ หากใช้ถ้อยคำรุนแรงกรุณาให้อภัยครับ

 

"...มีวิธีการอื่นอีกมากมาย ที่ทำแล้วประชาชนไม่เดือดร้อน..."

การต่อสู้และเรียกร้องบนความชอบธรรม..ตามหลักอหิงสา..และปัญญา...

Nagative Thinking ===>  Positive  Thinking

ข้ออ้าง                      ===> เหตุผล

อัตตา                        ===> ความเข้าใจในตนเอง

วิธีการอื่น                   ===> บ่งบอกถึงความมีปัญญา

การตามใจ/ความ

รู้สึกของตัวเอง             ===> การเคารพในตนเอง                                        (อาจเหตุผลหรือไม่มีเหตุผลก็ได้)

การตามใจ/ความ

รู้สึกของตัวเอง             ===> การเคารพในตนเอง                                        (อาจเหตุผลหรือไม่มีเหตุผลก็ได้)

.................................................................................

ผู้รู้สึกอยากนอนอยู่เฉยๆ ไม่ทำงาน(แต่อยากได้ตังค์) รู้สึกอยากตีหัวคนที่ผมเกลียด อยากมีsexกับคนที่ไม่ใช่ภรรยา ฯลฯ

ทำไมผมถึงไม่ยอมทำตามความรู้สึก/ตามใจของตัวเองครับ หรือผมไม่เคารพตัวเอง?

ทำไมต้องมี Nagative Thinking เพราะมันต้องการให้มี Positive  Thinking   ไงครับ

 

เรียน...คุณบุญมี..ด้วยความเคารพในตัวตนและเจตนาที่ดีงาม

อย่างไร..คุณก็ยังจมอยู่ในความเป็น Negative Thinking..."ผมรู้สึกอยากนอนเฉยๆ ไม่ทำงาน (แต่อยากได้ตังค์) รู้สึกอยากตีหัวคนที่ผลเกลียด อยากมีsexกับคนที่ไม่ใช่ภรรยา ฯลฯ ..."  ด้วยความศรัทธา...การที่คุณถามว่า...คุณเคารพในตัวเองหรือไม่นั้น?..คุณเท่านั้นที่จะตอบได้..อย่างชัดเจนโดยเที่ยงธรรม(ชาติ)

     เหตุผลจริง ๆ ลึก ๆ หนึ่งเรื่องจากหลาย ๆ เรื่องที่ผมไม่เล่นด้วยคือผมไม่ศรัทธาการเมือง (ขณะนั้น) พอ ๆ กับที่ผมไม่ศรัทธาคนที่เข้ามาแสดง คห.อย่างไม่สร้างสรรค์ เป็นเชิงลบอย่างคุณ...ที่แม้ชื่อผมก็ไม่อยากเอ่ยถึงครับ 

     หลายครั้งที่ผมอยากตอบโต้ แต่ Dr.Ka-poom เตือนสติไว้ว่าไม่ควร... และผมเลือกที่จะเชื่อเพราะเขาหวังดีกับผมมาตลอดอย่างต่อเนื่อง Dr.Ka-poom ทำให้ผมเย็นลงได้มากในการที่จะออกมาไล่ฟาดฟันกับ...และอยากจะบอกคุณ...ว่าผมทำอยู่อีกเยอะในส่วนที่คุณไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย...เพื่อยกระดับหมออนามัย แล้วจะผิดอะไร ผมก็เป็นหมออนามัยทั้งตัว หัวใจ และวิญญาณ

     จะเกินไปที่ผมได้ปล่อยให้ Dr.Ka-poom สหายของผมหมออนามัย ในคราบพยาบาลที่มีจิตใจเยี่ยงหมออนามัยคนหนึ่งที่มีคุณค่า ด้วยการเคารพตัวตนและความเป็น "คน" ซึ่งแม้แต่ตัวคุณ...เอง ก็ยังไม่เคารพตัวคุณเองเลย เที่ยวออกมาจัดการอยู่กับ "คนที่ไม่รู้จักตัวตนเอง" อย่างคุณ...

     ผมจึงขอออกมา (อีกครั้ง) และอยากบอกคุณว่ากลับตัวกลับใจคิดอะไรเชิงบวกเสียบ้าง สังคมนี้ยังต้องการคุณอยู่ ขอเพียงคุณสำนึกสักนิด แล้วไม่ต้องบอกใคร บอกใจคุณเองนั่นแหละว่า "สำนึกแล้วครับ"

เข้ามาเยี่ยมเยียนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ยินดีครับพี่! แล้วจะได้แลกเปลียนเรียนรู้กันต่อ ๆ ไปนะครับ...ผีแห้ง 47

ด้วยความเคารพในสิทธิของการคิด

เมื่อก่อนผม ค่อนข้างจะใจร้อน วู่วาม ทำอะไรต้องได้ "ดั่งใจ" มาวันหนึ่งก็เรียนรู้ว่า ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ มีความเป็นไปของมัน ตามวิถี ต้องใช้ความเข้าใจ ใช้ปัญญา ไตร่ตรอง เพื่อที่ว่าจะไม่ได้เสียใจคราหลัง "เราได้ทำดีที่สุด"

ผมชื่นชมในความเป็นตัวตนของพี่ชายขอบ และ วิธีคิดของ Dr.Ka-poom ทุกอย่างมีทางออกที่ดีเสมอ อยู่ที่เราจะเลือกทางออกแบบไหน ที่สำคัญ ต้องใช้ปัญญา ครับ

คุณจตุพร

     ขอบคุณมากที่เข้ามา ลปรร.และ ตอกย้ำความมั่นใจที่มีอยู่แล้วครับ

วันหนึ่งนั่งอยู่ที่ระเบียงห้องพักได้ยินเสียงนกซึ่งฟังครั้งแรกคิดว่ามีเสียงเดียว... แต่เมื่อมันร้องขึ้นอีกหลายครั้งจึงสามารถแยกแยะได้ว่ามีหลายเสียงและสอดรับเป็นท่วงทำนองที่น่าฟัง

เสียงนกที่ได้ยินทำให้เกิดความคิดว่า...เมื่อใดก็ตามที่เราเปล่งเสียงเพียงโน้ตเดียว ทำนองเดียวซ้ำๆมักไม่ก่อให้เกิดความสนใจ... แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนท่วงทำนอง  เปลี่ยนตัวโน้ต ร้อยเรียงประสานกันหลายๆเสียงร่วมกับท่วงทำนองเดิม...กลับทำให้กระตุ้นความสนใจและใส่ใจที่จะฟังมากขึ้น 

ด้วยเหตุนี้เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการความใส่ใจจากผู้บริหาร...เราจึงควรที่จะเปล่งหลายๆเสียงที่มีความแตกต่างกันในแต่ละตัวโน้ต..แต่สอดประสานกันด้วยท่วงทำนองที่สอดคล้องเพื่อให้ผู้บริหารได้สะดุดในสรรพเสียงที่ได้ฟังและเกิดความใส่ใจตามมา...ขอเอาใจช่วยหมออนามัยที่เป็นที่พึ่งของคนในชุมชนให้สามารถบรรลุจุดมุ่งหมายได้โดยประสานสรรพเสียงที่แตกต่างในตัวโน้ต...แต่สอดคล้องในจุดหมายให้ดำเนินไปสุ่สิ่งที่มุ่งหวังได้ในที่สุด

ด้วยความเคารพต่อหมออนามัยทุกท่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท