นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ มีโครงการพัฒนาชุมชนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรฯ ได้มาติดต่อประสานงานที่โรงเรียนบ้านจันรม (ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปติดต่อที่ศูนย์เกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์มาแล้ว..ได้รับคำแนะนำให้ติดต่อที่โรงเรียนโดยตรง) เราจึงได้ทราบรายละเอียดว่านักศึกษากลุ่มนี้จะจัดฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ให้กับน้องๆ นักเรียนประถมศึกษา (ช่วงชั้นที่ 2) และคณะครูโรงเรียนบ้านหนองกง ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
หลังจากคุยกันในรายละเอียดเข้าใจและนัดหมายวันเวลาแล้ว ต่างคนก็แยกย้ายกันเตรียมในส่วนที่เกี่ยวข้อง
........
.......
วันถัดมากลุ่มนักศึกษาได้นำรายการวัสดุที่ซื้อเตรียมไว้มาให้ตรวจดูว่ายังมีอะไรขาดเหลือหรือเปล่าจะได้หามาเพิ่มเติม วันงานจะได้ไม่ต้องวิ่งหากันใหม่
ปรากฏว่าวัสดุที่นักศึกษาเตรียมไว้ให้หลายๆ อย่างล้วนเป็นส่วนประกอบจากสารเคมีทั้งนั้น ไม่เป็นไปตามที่ได้คุยตกลงกัน ซึ่งแตกต่างจากสูตรของโรงเรียนบ้านจันรมที่ได้คิดค้นดัดแปลงสูตรเอาไว้ โดยเราพยายามตัดส่วนผสมที่เป็นสารเคมีออกทั้งหมดเพื่อให้เป็น "เกษตรอินทรีย์" อย่างแท้จริง
..."แหะแหะ...หนูคงต้องไปซื้อมาใหม่แล้วค่ะ".....
"ใช่สิจ๊ะ...เราต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมีไม่ใช่หรือ...."
นักศึกษาก็เลยต้องเอาของที่ซื้อมาไปเปลี่ยนใหม่อีกรอบ....
......
......
ถึงวันอบรมแล้ว...
ครูกั๊ตและลูกศิษย์ ... นักเรียนในโครงการจำนวน 3 คน (คณะครูที่โรงเรียนเรียกนักเรียนชุดนี้ว่าศิษย์เอกของครูกั๊ตค่ะ) ซึ่งจะเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ขึ้นรถกระบะพร้อมคนขับรถที่รู้ใจ (อิอิ) ออกเดินทางไปโรงเรียนบ้านหนองกง ตำบลนอกเมือง ตั้งแต่เช้า เพราะว่ายังไม่เคยเห็นเลยว่าโรงเรียนอยู่ตรงไหน รู้เพียงว่าออกสายเลี่ยงเมืองสุรินทร์เลี้ยวเข้าไปอีกไม่ไกลก็ถึงโรงเรียน
..... ......
.....
เส้นทางเข้าโรงเรียนต้องขับรถหลบหลุมเล็กน้อยค่ะ...เป็นห่วงว่านักเรียนที่นั่งมาด้วยจะกินรถกันจนเมาไปก่อนที่จะได้งานเหมือนกัน...แต่โชคดีที่ใช้เวลาเดินทางไม่มาก..ประมาณ 15 นาทีเราก็ถึงที่หมาย
พี่ๆ นักศึกษาเตรียมสถานที่เรียบร้อยแล้วค่ะ...เราเอาของลงจากรถจัดเตรียมเข้าห้องประชุมเสร็จ....คนพร้อม..ของพร้อม...ลุยกันเล้ย...
ชั่วโมงแรกของการฝึกอบรม...เราเริ่มปูพื้นฐานกระบวนการเรียนรู้ด้วยหลักการกว้างๆ เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์เพื่อให้น้องๆ นักเรียนได้รู้จักและทำความเข้าใจเสียก่อน
หลังจากนั้นเราเริ่มกล่าวถึงแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์เป็นอย่างไร
การทำน้ำหมักชีวภาพ......ประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพด้านการเกษตร...และน้ำหมักชีวภาพที่เรานำมาแปรรูปผลิตภัณฑ์ซึ่งจะแนะนำกันในวันนี้...ทำอย่างไร..แตกต่างจากน้ำหมักที่ทำเพื่อไปใช้ในการเกษตรอย่างไร..พร้อมกับการเล่าวิธีการทำน้ำหมักชีวภาพเล็กน้อย (เนื่องจากทีมงานไม่ได้เตรียมวัสดุการทำน้ำหมักไว้ให้จึงทำได้เพียงเล่าให้ฟัง..แต่ไม่ยากที่นักเรียนจะทำความเข้าใจค่ะ)
......
.......
และในที่สุดก็มาถึง High Light ของการฝึกอบรมค่ะ
การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักชีวภาพ
น้องๆ นักเรียนให้ความสนใจ และออกอาการตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการชมและร่วมฝึกปฏิบัติการการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักชีวภาพโดยการถ่ายทอดของวิทยากรพี่นักเรียน...ทีมงานจัดให้นักเรียนเข้าแถวกันยาวเหยียดเพื่อจะได้ร่วมสร้างความรู้ที่สัมผัสได้ด้วยสองมือตนเอง
หลังจากการสาธิตและร่วมฝึกปฏิบัติจบลง...เป็นช่วงการซักถามปัญหาค่ะ..บรรยากาศมีความเป็นกันเองอย่างมาก...น้องๆ นักเรียนซักถามปัญหา..พี่นักเรียนตอบคำถาม....
คณะครูและผู้บริหารโรงเรียนเองก็ให้ความสนใจซักถามปัญหาไม่แพ้กัน...พี่นักเรียนทีมวิทยากรก็ตอบคำถามซะจนหาทางลงจากเวทีไม่เจอค่ะ...เริ่มเมามันซะแล้ว....
ที่น่าสนใจก็คือ...เวทีนี้...เป็นเวทีแรกของวิทยากรทีมนี้ที่ได้ออกมาทำหน้าที่เพื่อนช่วยเพื่อนค่ะ...เป็นเวทีแรกหลังจากที่เขาได้เรียนรู้..ฝึกปฏิบัติ..ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก...แล้วได้มาถ่ายทอดความรู้..ได้แบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้...ระหว่างนักเรียนกับนักเรียน..นักเรียนกับพี่นักศึกษา..นักเรียนกับคณะครูและผู้บริหาร (นักเรียนภูมิใจเป็นพิเศษค่ะ) รวมถึงครูกั๊ตเองซึ่งทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกในกิจกรรมครั้งนี้ก็ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูเช่นกัน และได้ฝากข้อคิดไว้กับคณะครู ผู้บริหารโรงเรียนให้สานต่อกิจกรรมนี้ไว้สืบต่อไปโดยการส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียน เพื่อครอบครัว เพื่อชุมชน เพื่อแผ่นดินและเพื่อโลกใบนี้นี่เรารัก
งานนี้ยุติลงด้วยความประทับใจ..และความอิ่มเอมใจของทีมวิทยากรที่ทำได้เกินความคาดหมาย....
เด็กๆชักจะติดใจในการเป็นวิทยากรซะแล้ว..เอ๊....เวทีต่อไปเราจะได้ไปที่ไหนน๊า.....ต้องลับฝีปากไว้ซะแล้วค่ะ...เด็กๆ คุยตลอดทางกว่าจะถึงโรงเรียน...
ถือว่าเป็นการเปิดตัวออกสู่ชุมชนได้อย่างสวยงาม (สำหรับครั้งแรก)...และเป็นการเปิดโอกาสการเรียนรู้ให้กับตนเอง เช่นเดียวกับการก้าวเข้าสู่สังคม GotoKnow ซึ่งเป็นสังคมที่เปิดกว้าง ความคิดหลากหลาย สัมพันธภาพที่ไร้พรมแดน......มีมุมมองแปลกๆ ที่บางครั้งเราเองก็ไม่เคยให้ความสนใจ เพราะถือว่าไม่สำคัญ ตอนนี้กลับมาคิดใหม่แล้วค่ะ...รู้อย่างนี้มา GotoKnow ตั้งนานแล้ววววว......
ขอปรบมือเป็นกำลังใจให้กับอาจารย์และน้อง ๆ นะคะ ^_^
สวัสดีค่ะ เนปาลี
สวัสดีค่ะน้องกั๊ต..Gutjang ..
แล้วต้อมจะเข้ามาขอเก็บเกี่ยวความรู้ในบันทึกนี้ไปใช้บ้างนะคะ ในวันข้างหน้าที่ต้อมจะไปเป็น "เกษตรกร" น่ะค่ะ เป็นอาชีพในฝันน่ะค่ะ ครูขา
และขอขอบพระคุณที่เข้าไปอ่านบันทึกต้อมค่ะ ^_^ ดีใจจัง
สวัสดีค่ะพี่ครูอ้อย สิริพร กุ่ยกระโทก
สวัสดีค่ะ เนปาลี
สวัสดีค่ะอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง
สวัสดีครับครูรัตน์
สวัสดีค่ะครูกั๊ตจัง
สวัสดีครับ ครูกั๊ต
. (1) การฟัง เมื่อเวลา ผ่านไป 24 ชั่วโมง จำได้ 5% (.2 )การอ่าน เมื่อเวลา ผ่านไป 24 ชั่วโมง จำได้ 10% (3 ) การเขียน(ฟัง จด) เมื่อเวลา ผ่านไป 24 ชั่วโมง จำได้ 20%( 4.) การแสดงให้ดู (สาธิต) เมื่อเวลา ผ่านไป 24 ชั่วโมง จำได้ 30% (5.) การแลกเปลี่ยน(พูดคุย) เมื่อเวลา ผ่านไป 24 ชั่วโมง จำได้ 50%( 6). การทดลองทำ(ฝึกปฏิบัติ) เมื่อเวลา ผ่านไป 24 ชั่วโมง จำได้ 70%(7). การสอนคนอื่น เมื่อเวลา ผ่านไป 24 ชั่วโมง จำได้ 90%
ฝากครูกั๊ต บอกลูกศ้ษย์ครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ โกศล คงสมปราชญ์
สวสัดีค่ะคุณครู หญ้าบัว
สวัสดีค่ะ RAK-NA