เทโวโรหณะ
อากาศยามเช้า
ในช่วงต้นฤดูหนาว
ที่เชียงใหม่นี้ช่างสดชื่นแจ่มใส ความปิติชุ่มเย็นในใจบังเกิดขึ้นทุกครั้งยามที่หวนรำลึกนึกถึง "บุญ" ที่ได้กระทำ
เวทีมหกรรมวิชาการงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.ภาค) ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ ตุลาคม ที่จัดขึ้น ณ อาคารหอประชุมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากจะเน้นย้ำให้เรามั่นใจถึง “ศักยภาพ” และ “พลัง” ของชุมชนท้องถิ่น และทำให้เราได้มีวันเวลาอันอบอุ่นร่วมกันกับเพื่อนพ้องน้องพี่ในแวดวงคนขับเคลื่อนงานชุมชนแล้ว ยังทำให้เรามีโอกาสได้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร “เทโวโรหณะ” ในดินแดนล้านนาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งขุนเขาและน้ำใจของผู้คนอันแสนงดงาม
วันเทโวโรหณะ คือวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก หลังจากเสด็จขึ้นไปจำพรรษาอยู่ในดาวดึงส์พิภพครบไตรมาสและตรัสพระอภิธรรมเทศนาโปรดพระพุทธมารดาในเทวโลกตลอด ๓ เดือน ครั้นออกพรรษาแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสด็จกลับมายังโลกมนุษย์ โดยเสด็จลงทางบันไดสวรรค์ที่ประตูเมืองสังกัสสนคร อันตั้งเหนือกรุงสาวัตถี
ด้วยพุทธานุภาพ มนุษย์ เทวดา และสัตว์นรกต่างมองเห็นซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน... วันนั้นจึงเป็นวันที่การลงทัณฑ์ในนรกระงับชั่วคราว... เป็นวันที่สงบเยือกเย็นของโลกทั้ง ๓ ...พระพุทธองค์ได้แสดงพระธรรมเทศนาโปรดเทวดาและมนุษย์ นำมาซึ่งมรรคผลนิพพานแก่มนุษย์และสรรพสัตว์เป็นจำนวนมาก
วันที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้นตรงกับวัน “มหาปวารณา” คือ วันเพ็ญเดือน ๑๑...ซึ่งเป็นวันออกพรรษา ในวันรุ่งขึ้นของวันออกพรรษาจึงมีการตักบาตรเทโวโรหณะ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเสด็จลงจากเทวโลกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ภาพของพระภิกษุสามเณรนับร้อยรูปที่มาเป็น “เนื้อนาบุญ” ในพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะเมื่อยามเช้า ยังคงจำหลักในมโนสำนึก เราน้อมระลึกถึงพระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ...ช่างมีบุญจริงหนอที่ได้เกิดมาในร่มเงาบวรพระพุทธศาสนา...ได้เรียนรู้เส้นทางสีขาวที่นำพาไปสู่ความเป็น “อิสระ” และ "เสรีภาพ" อันแท้จริง...หลุดพ้นจากเครื่องร้อยรัดและพันธนาการทั้งปวง ...เส้นทางแห่งการปลดปล่อยผู้คนให้ออกจาก “คุก” ที่มองไม่เห็น...
เราได้เริ่ม “วันใหม่” ในวันนี้ด้วยการสั่งสมบุญ...ได้ตักบาตร...ได้ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน...ได้สวดมนต์และได้เจริญสมาธิภาวนา....อีกทั้งยังได้อุทิศกุศลผลบุญซึ่งเป็น “บุญ” ประการหนึ่งใน "บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ"
อิทัง เม ญาตินัง โหตุ
สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญกุศลนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า
ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุขเถิด
......
และขอผลแห่งบุญที่ได้ทำนี้
จงมีแด่ท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ
ความเห็น (6)
สวัสดีครับ อาจารย์ตุ้ม
อาจารย์สบายดีนะครับ แหม! เปิดอ่านก็ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลทันทีเลย อาจารย์คงได้ซึมซับบรรยากาศบุญทานทางเหนือนะครับ ผมมีชักพระทางใต้มาฝากครับ ชักพระก็คืออัญเชิญพระพุทธเจ้ากลับสู่โลกมนุษย์ดังที่อาจารย์ว่าแหละครับ รูปที่เห็นเป็นเรือพระที่จัดโดยวัดข้างบ้านผม ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ เด็กๆ ก็มาร่วมจับเชือกออกแรงชักพระ เวียนไปตามซอยต่างๆ ผ่านหน้าบ้านใครก็ออกมารับเรือพระ ได้บุญกุศล รูปนี้ผ่านซอยหลังบ้านผมครับ
สวัสดีค่ะครูนง
ภาพบรรยากาศงานบุญ "ชักพระ" ที่ภาคใต้ให้ความปิติและชุ่มชื่นใจมากเลยค่ะ ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเราที่คิดกิจกรรมนี้เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนแห่งบุญในวันเทโวโรหณะลึกซึ้งจังนะคะ...ขอบพระคุณครูนงมากเลยค่ะ
อนุโมทนาบุญกับครูนงด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ยุวนุช
สาธุค่ะ ให้อาจารย์มีส่วนในบุญทุก ๆ บุญที่ตุ้มได้ทำในช่วงเข้าพรรษา ๓ เดือนนี้ด้วยนะคะ และขออนุโมทนาบุญที่อาจารย์ได้ทำด้วยเช่นกันค่ะ ...ให้อาจารย์ยุวนุช "สวย รวย ฉลาด สมปรารถนา ดวงตาเห็นธรรม" เช่นนี้ไปทุกภพทุกชาติ ...ตราบกระทั่งถึง "พระนิพพาน" นะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ตุ้ม
เข้ามาเยี่ยมเยือนค่ะ ขออนุโมทนา บุญด้วยค่ะ เมื่ออ่านเรื่องราวทำให้นึกถึงภาพในอดีตที่เคยไปร่วมตักบาตรเทโวโลหณะ "ข่วงประตูท่าแพ" จังหวัดเชียงใหม่ ดูภาพแล้วประทับใจ รวมทั้งอิ่มบุญไปด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณอนงค์
สาธุค่ะ ....ภาพและเรื่องราวที่ดีงามจะประทับอยู่ในใจและฝังอยู่ในความทรงจำมิรู้ลืม...หากนึกขึ้นมาคราใดก็จะปลื้มใจครานั้น....มาช่วยกันทำความดี เพื่อที่ภาพดี ๆ จะได้เข้าไปอยู่ในใจผู้คน...เป็น "สื่อสีขาว" ที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่งดงาม...
มีโอกาสจะขอแวะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนพ้องน้องพี่ที่มหาสารคามบ้างนะคะ