<hr>
ทริปการเดินทางไปสามชุกครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการถามของพี่บี๋ว่า …ไปตลาดสามชุกมั้ย
แล้วเราก็นัดหมายกันอย่างง่ายจนไม่น่าเชื่อ เหมือนถามว่าไปเซเว่นมั้ย อะไรทำนองนั้น
สมาชิกในทริปนี้มี 6 คน พี่บี๋ น้องกริช น้องวิชญ์ ปุ๊ก จุ และตัวผู้เขียนเอง เราออกเดินทางกันประมาณ 10 โมงครึ่ง
มาตามเส้นทางบางบัวทอง ออกสุพรรณตรงไปตามถนน 340 สุพรรณ-ชัยนาท ใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเราก็มาถึงสามชุก
ต้องขอบคุณเครื่อง GPS ที่คอยส่งเสียงหนวกหูให้เราตกใจกัน Navigator คนนี้เลยปิดเสียงตั้งแต่ยังไม่พ้นกรุงเทพฯ ^ ^
“ตลาดสามชุก” ตั้งอยู่ที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เป็นตลาดเก่าแก่ที่เป็นห้องแถวไม้ 2 ชั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน
รายล้อมด้วยบรรยากาศของบ้านเรือนรวมถึงเรื่องราวของผู้คนในอดีต โดยแทบไม่มีการดัดแปลงเสริมแต่ง
เมื่อยุคสมัยที่ตลาดสามชุกเฟื่องฟู ชาวบ้านจะนำของพื้นเมือง รวมทั้ง เกลือ ฝ้าย แร่ สมุนไพร มาแลกเปลี่ยนซื้อขาย
ให้กับพ่อค้าที่เป็นชาวเรือ ต่อมามีโรงสีไฟขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง ตลาดสามชุกก็กลายเป็นตลาดข้าวที่สำคัญ
มีการค้าขายกันอย่างคึกคัก โดยแต่ละปีมีการเก็บภาษีได้จำนวนมาก และนายอากรคนแรกของที่นี่ชื่อ “ขุนจำนง จีนารักษ์”
ซึ่งปัจจุบันบ้านของขุนจำนงก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นประจำตลาดสามชุกนั่นเอง
บรรยากาศในตลาดวันนั้นเป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากเป็นวันหยุด ผู้คนเยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับน่าอึดอัด
ให้บรรยากาศตลาดที่ซื้อขายของกันจริงๆ เจ้าของร้านค้าที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน บ้างก็ยังอยู่ที่นี่
บ้างก็อยู่กรุงเทพฯ และกลับมาดูกิจการเฉพาะวันหยุด เมื่อเดินลึกเข้าไปในตลาดก็เลยพบศาลเจ้า ยิ่งทำให้แน่ใจขึ้นว่า
ที่นี่ต้องเป็นชุมชนจีนเก่าแน่นอน
เราแวะดับกระหายด้วยน้ำอัดลมโบราณสารพัดรสชาดให้เลือก ผู้เขียนเลือกน้ำโคล่า แต่รสชาดแปลกพิลึก
น้ำมะนาวซ่าส์ที่น้องวิชญ์กินอร่อยที่สุด แบ่งกันดูดพิสูจน์คนละจ๊วบ น้องกริชเลยโพสต์ท่าให้ถ่ายเป็นที่ระลึก
มันเที่ยงเศษแล้วพวกเราก็เริ่มมองหาร้านเพื่อฝากท้อง เดินผ่านร้านข้าวอบหม้อดิน มีตั้งไว้ให้ทดลองชิมก่อนซื้อ
สมาชิกในก๊วนก็ต้องทดสอบอย่างแน่นอน (เพราะหิวไง) หม้อละยี่สิบบาทเท่านั้น ให้หม้อกลับไปด้วยเลย
เจ้าของร้านใจดีมาก กุลีกุจอบอกให้ลูกหยิบแผนที่ตลาดมาให้ เขาทำแจกนักท่องเที่ยวโดยทุนของตัวเองนะนั่น
ตอนนี้เห็นอะไรก็น่ากินไปหมด เป็ดย่าง เป็ดพะโลหน้าตาชวนให้น้ำลายไหล
ยังไม่ได้ลงเอยที่ร้านไหน ก็มาเจอร้านขายขนมโบราณบ้านแม่หน่อย มีขนมดอกจอก ขนมกง ขนมอีกสารพัด
รูปร่างแปลกตาหาดูยาก ที่สะดุดตาคือน้องหมีที่ทำจากขนม ต้องยอมรับว่าขยันจริงๆ ไอเดียสร้างสรรมาก
ขนมประเภทแปลกๆ ที่ไม่ค่อยได้เจอก็มีให้เห็นกันตลอดทาง อย่างกระจับที่เคยกินเมื่อตอนเด็กๆ
แล้วก็ไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว น้องปุ๊กซื้อกลับมาหนึ่งถุงใหญ่ ต้องเตือนว่าอย่าเอาปากกัดเพราะต้องระวังพยาธิที่เปลือกมัน
แวะซื้อทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง กลับไปฝากคนที่บ้าน ราคาสมคุณภาพ อร่อยใช้ได้ ไม่หวานเกินไป
แถมเห็นกรรมวิธีหยอดฝอยทองด้วยกรวยใบตอง ดูดี ไฮโซค่ะ แถมเจ้าของร้านก็ใจดีบอกเราว่าฝากของไว้ได้นะ
จะได้ไม่ต้องถือ เจอคนน้ำใจงดงามอีกแล้ว
ในที่สุดหลังจากการเสาะหาและรอคอยคิวยาวนาน พวกเราก็ได้สยบเสียงพยาธิในท้องด้วยบะหมี่เจ๊กอ้าว
รู้สึกอายเล็กน้อยพอประมาณ เพราะมากัน 6 คน สั่งบะหมี่มา 10 ชาม ซึ่งขนาดก็ไม่ได้เล็กเลยนะนั่น หุ หุ อายแต่ก็กินหมด
ทองม้วนนั้นซื้อไว้ก่อนมากินก๋วยเตี๋ยวและฝากเขาไว้เพราะคนขายบอกว่าฝากเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวแตกหมด
ดูสิ น้ำใจงามอีกแล้ว หลังจากนี้ยังมีให้ประทับใจมาขึ้นอีก เพราะตอนมาเอาคืนปรากฎว่าเขาหยิบถุงของปุ๊กที่ใส่ขนม
อีกอย่างไว้ให้คนอื่นไป เจ้าของบอกว่าจะไปซื้อคืนมาให้ แต่คุยไปคุยมาเขาเลยใช้ค่าขนมให้เพราะร้านอยู่เยื้องๆ ไป
เดินไปซื้อเองได้
พี่บี๋ซื้อตั๋วเข้าชมร้านบ้านโค้กให้คนละใบ ไปดูของสะสมเกี่ยวกับโค้กสารพัด วันนี้ผู้เขียนเลือกเสื้อใส่ได้ถูกจริงๆ สีแดงเข้ากันมาก
จากบ้านโค้ก เราก็เดินชมไปเรื่อย จนมาเลือกซื้อของเล่นที่หน้าโรงแรมอุดมโชค เจ้าของก็ใจดีบอกว่า
ขึ้นไปชมโรงแรมเก่าด้านบนได้ ยังไม่ได้รื้อทิ้ง เก็บไว้ในสภาพเดิม เลยขึ้นไปดูกับน้องกริช แหง่ะ เหมือนบ้านผีสิงเล็กน้อย
กลัว เลยรีบๆ ลงมา
จากนั้นก็เดินไปที่ละซอยจนหมด มีตั้ง 5 ซอย เดินจากเที่ยงจนถึงห้าโมงครึ่ง ได้ของติดไม้ติดมือกันไปคนละหลายอย่าง
จุกับปุ๊กซื้อตุ๊กตากระดาษกลับไปฝากเพื่อนให้ระลึกความหลังอีกคน
นำบรรยากาศมาให้ชมอีกสักรูปเพื่อให้ร่วมรู้สึกไปกับผู้เขียน ต้องบอกว่าทริปนี้ประทับใจทั้งสถานที่ ของกิน ของเล่น
และน้ำใจของผู้คนที่นี่ มีมากกว่าการเป็นคนทำมาค้าขาย เขามีความรู้สึกร่วมในการเป็นเจ้าของตลาดสามชุก
มีความภาคภูมิใจ และบริการนักท่องเที่ยวอย่างดีเต็มความสามารถ ไม่มีอาการหน้าบูดให้เห็น แม้กระทั่งคนล้างชามในร้าน
ที่แน่นขนัดก็ยังอารมณ์ดี ทุกคนมีจิตสำนึกที่ช่วยกัน แนะนำร้านกันเอง ไม่มีการกั๊ก การบริหารจัดการดีตั้งแต่ที่จอดรถ
ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ข้อมูล นี่แหล่ะคือความประทับใจที่ได้ไปพบมา จนอยากจะนำมาบอกต่อ
ในความรู้สึกของผู้เขียนตลาดนี้เป็นมากกว่าตลาดเก่าโบราณที่ควรค่าแก่อนุรักษ์ไว้ เลยขอให้สมญานามที่นี่ว่า
"สามชุก... ตลาดร้อยปีที่มีชีวิต"
ก่อนจบ ตบท้ายด้วยรูปรวมมิตรของผู้เขียนหน้าร้านทองเก่าที่กลายเป็นร้านโชว์ไปแล้ว ตัวร้านจริงย้ายไปอยู่อีกที่
ที่นี่รับผลิตตามสั่งอย่างเดียว เจ้าของร้านก็ทำงานไปคุยกับพวกเราไป ไม่มีอาการรำคาญแม้แต่น้อย ขอบพระคุณมากๆ นะค้า ^ /\ ^
ขอบคุณน้องจุที่ยอมเป็นสแตนด์อินให้ทำถ่ายภาพทำแผนประกอบคดี ส่วนมอเตอร์ไซต์นี้จากร้านบ้านโค้ก
เอาไว้หนีตอนปล้นร้านเรียบร้อย 555
โป้งงงงด้วยล่ะ ทำต้อมน้ำลายไหล TT_TT
ซูซาน
เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับบันทึกเล่าเรื่องมากครับ ชื่นชมเสมอนอกจากอ่านได้อรรถรสแล้ว ยังได้เห็นมุมถ่ายภาพสวยๆ
มีคนเคยชวนผมไปที่ตลอดสามชุกเหมือนกันครับ จำไม่ได้ว่าใคร เห็นภาพแล้ว มีโอกาสอยากไปครับ
ซูซานบอกรายละเอียดวิธีเดินทางเพิ่มอีกหน่อยครับ
พี่ซูซาน
อยากไปบ้างจังเลยค่ะ ยังไม่เคยไปเลย
นี่ ๆ .... แอบเห็นนะ พี่ซูซานทำหน้าเด็ก ตอนถ่ายรูปด้วย ฮ่าๆ
แซงหน้าคนอยู่อยุธยาซึ่งใกล้กว่า แต่ยังไม่เคยไปเลยค่ะ แค่เฉียดไปเฉียดมา อ่านแล้วทำให้ต้องตั้งใจไป จะได้ทำเลียนแบบ ชิมทุกร้านเลยล่ะ คุ้มค่าน่าไปเยือนจริงๆ
พี่tag คิดถึงนะคะที่(อิ อิ ด้วยคำแนะนำบางส่วนที่พอจำได้ ไม่กล้าบอกว่าน้องซูซานช่วยเพราะ กลัวทำขายหน้าอาจารย์)
สวัสดีจ๊ะ
สุพรรณนี่เคยไปบ่อย สามชุกนี่ กลับแค่ไปผ่านๆ น่าจะไปเที่ยวเป็นเรื่อง เป็นราวกว่านี้ค่ะ
ที่เป็นห่วงคือ----ประตูระบายน้ำที่สามชุก และโพธิพระยา ซึ่งระบายน้ำได้ไม่มากนัก จึงควรปรับปรุงให้ระบายน้ำได้ มากขึ้น โดยขุดคลองผันน้ำใหม่ตามแนวคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง
สุพรรณเป็นที่ราบลุ่ม เวลาน้ำมาก เสี่ยงน้ำท่วมค่ะ
พี่ศศินันท์
ตอนนี้น้ำก็ระดับสูงน่ากลัวเหมือนกัน เกือบถึงถนนด้านหลังตลาดแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะน้องซูซาน
น่าไปเที่ยวจังเลย ดูแล้วมีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย ... แล้วคนท้องถิ่นก็มาซื้ออาหารการกินด้วยรึปล่าวค่ะ
ตลาดนี้เน้นนักท่องเที่ยวรึปล่าวค่ะ หรือคนท้องถิ่น
ฮึ! ฮึ! ยังงอนนนนนนนอยู่ แต่ถ้ามีขนมมายื่นให้ก็..หยวน ๆ โหสิให้ (( แต่หน้าบังงออยู่ ))
ก็คนยิ่งหิว ๆ อยู่ แล้วก็มีขนมหน้าตาน่ากินมาวางยั่วน้ำลาย ชิชิ โอยยย อะไรก็น่ากินไปหมดเลยนะเนี่ย อยากไปมั่ง สิ้นปีนี้..ถ้ามีโอกาสต้องไปมั่ง อิอิ เดินทางไปตามเส้นทางที่คุณแนะนำได้แน่ ๆ นะ ใช่ป่ะ ไม่หลงนะคะ ^_^
สวัสดีค่ะคุณลิตเติ้ลแจ๊ส
หวัดดีครับ
ช่างบรรยายเหลือเกินเหมือนลงไปเดินเองแน่ะ
บรรยายเสียจนหิวด้วย เป็ดน่าหม่ำมั่กๆ ฮึฮึ
ภาพได้บรรยายกาศด้วย น่าเที่ยวสักหน อืมม์ แล้วจะไป....
น้องเล็กแก้มยุ้ย ที่รัก
น้องซูซานค่ะ แอบวิ่งฉิ่วผ่านบ้านเขา จะงอแงอย่างเด็ก ๆ บ้าง น้องซูซานนำภาพบรรยากาศมาให้ชมได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ถ้าท่านบรรหารนายกรัฐมนตรีคนที่ 21ของประเทศไทย ท่านมาเห็นภาพท่านคงชื่นใจนะค่ะ ภาพบรรยากาศของสามชุกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี พี่ขอบขอบคุณน้องซูซานแทนคนสุพรรณบุรีทุก ๆ คนคะ
คุณติ๋วที่รัก อย่าให้ถูกหิ้วปีกนะค่ะ ไ ก่ต้องอยู่อย่างไก่ น้องซูซานทำให้สามชุกมีชีวิต ชีวาจริง ๆ คราวหน้าไปส่งลูกสาวแล้วแวะนะค่ะ คึดฮอดหลาย
โห... ไปเชียงใหม่แป๊บเดียว หายไปวันเดียวเอง เหมือนตนยุคเลย ^ ^
เห็นรูปกับของฝากแล้วต้องบอกว่าน่าไปมาก น้องนำเสนอได้ราวกับเป็นรายการทีวีดีๆ เลย present เก่งมาก เล่นเอาเราน้ำลายหกไปด้วยเลย
ตอนนี้ยังอยู่ internet cafe ที่เชียงใหม่อยู่ รอเวลาขึ้นเครื่องน่ะ
เมื่อวานเจอศิษย์พี่ใหญ่ กับอ.ศิริพรแล้ว น่ารักมากๆ ทั้งคู่เลย ไปกินร้าน stefano's ได้กิน fettucini blue cheese อร่อยดีไปอีกแบบ แล้วก็กินกะหรีปั๊บอิตาเลี่ยนด้วย กินจนจุก แถมด้วย strawberry tiramisu แต่ว่าคุยเพลิน ลืมถ่ายรูปอ่ะ
คิดถึงเราด้วยนะ เสียดายไม่ได้มา ไม่งั้นคงสั่งอาหารได้เยอะกว่านี้อีก อิอิ
ผมทานข้าวที่สามชุกมาเกือบ 7 ปี เพราะเมื่อก่อนทำงาน R&D ที่นั่น
อยากแนะนำเพิ่มเติมว่าข้าวห่อใบบัวที่ร้านหรั่งก็อร่อย ได้แวะทานหรือเปล่า
ด้านหน้าร้านกาแฟโบราณ จะมีร้านขนมไทย รสชาติเยี่ยม ผมกับเพื่อนตั้งชื่อว่า....ร้านหยิ่ง...ถ้าไม่ถึงบ่ายสองโมง ร้านนี้ไม่ขายครับ ต่อให้มีคนมายืนคอยก็เถอะ
ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้ง หาโอกาสไปเที่ยวที่บึงฉวากด้วยนะครับ อยู่ที่อำเภอเดิมบางนางบวช
แวะมาเที่ยวสามชุกบ้างครับซูซาน ^__^
มาที่นี่สงสัยกลับไปน้ำหนักขึ้นแน่ๆ ท่าทางของจะอร่อยๆ ทั้งนั้น
ผงซักฟอก "เปาบุ้นจิ้น" นี่ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเหลือแค่ "เปา" เฉยๆ เพราะโดนฟ้องข้อหาเอาหน้าดารามาใช้โดยไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ แต่สโลแกนยังคงเดิมคือ "คุณภาพซื่อสัตย์ ราคายุติธรรม" อะไรปานนั้น
ท่าขับมอเตอร์ไซด์รูปท้ายๆ นี่เท่มั่กๆ เสื้อแดงทำให้โดดเด่นซะด้วย ;-)
พี่ชิว: วันก่อนเพื่อนพึ่งไปเที่ยวสามชุกตามคำโฆษณาของเรา กลับมาเล่าว่าไม่ผิดหวังเลย อิ่มเปรม สนุกมาก บรรยากาศไม่เฟคด้วย แต่เสียดายไม่ดูบ้านโค้กเพราะเสียตังค์ โธ่เอ๋ย ไม่ยอมถามเขาว่าเท่าไหร่ ไปเสียเที่ยว แค่ห้าบาทเอง ถ้าถามก็ได้ดูแล้วค่ะ ร้านที่ซูซานถ่ายรูปกับมอเตอร์ไซต์นั่นแหล่ะ
พึ่งรู้ว่าท่านเปาโดนฟ้อง มีงี้ด้วย ปกติมีแต่คนมาฟ้องท่านเปา งานนี้โดนซะเอง เหอๆๆ แต่ชอบโลโก้ของเดิม คลาสสิคดีค่ะ ที่บ้านเคยใช้ด้วย เล่าแบบนี้ก็รู้เลยว่ารุ่นไหน บอกได้แค่โตมากับยุคที่รายการทีวีเริ่มตอนสี่โมง เวลาเปิดสถานีมาพร้อมกับเพลง "บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ" ยุคนั้นแหล่ะค่ะ ทีวีที่บ้านเป็นตู้บานเลื่อนขาวดำ โบมั่กๆ
บ้านเกิดเราเองหล่ะ...ภูมิจายสุดๆ
พี่ซูซานค่ะ ก้อยตามมาจาก อนุทิน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับคนสุพรรณอย่างก้อยค่ะ....^^
"ยูเนสโกมอบรางวัลอนุรักษ์ดีให้ชุมชนสามชุก – ตลาดเก่าร้อยปี จ.สุพรรณบุรี ปี 52 ดีจังเลย ชอบที่นี่ ขนมอร่อย ผู้คนมีน้ำใจ ไม่เฟค เคยเขียนบันทึกไว้ด้วย "สามชุก...ตลาดร้อยปีที่มีชีวิต" ขุดบันทึกเก่ามาฝากซะเลย"
อยากให้ร่วมอนุรักษ์ ตลาดสามชุก ให้คงอยู่อย่างนี้ตลอดไปค่ะ..
ปล.ทองหยอดน่าทานมากๆ เห็นแล้ว............อิอิ
ขอบคุณนะคะสำหรับบันทึกที่ทำให้คนสุพรรณอ่านไปยิ้มไป...