เรียนครูบา ฯ ขอส่งการบ้าน บันทึกเฮฮาศาสตร์


ผม เขียน บันทึกนี้ เพื่อมอบให้ ครูบา ฯ   จะเอาไป รวมเล่ม  เป็นเฮฮาศาสตร์ Pocket book  ได้เลยครับ

บันทึก ของ คนไร้กรอบ   เป็นดังนี้

**********************

เฮฮาศาสตร์ ….  คือ อะไร  เนี่ย ??

            ผมได้รับมอบหมาย จาก ท่านพ่อ ครูบาสุทธินันน์ ให้เขียนบันทึก  อะไรก็ได้    จะได้เอาไปรวมเล่ม อ่านกัน     และ  ก็เพราะ อะไรก็ได้  นี่แหละ   ทำให้ เปิด พื้นที่   สะโล่ง  จน ยากที่จะเขียน    ผมก็เลย เขียน นิยาม ของ เฮฮาศาสตร์ สะเลย ง่ายดี   

                ก่อนอื่น คนที่คิดคำนี้ เป็น คนแรก  และ นำมาใช้ คือ ครูบาฯ  ของเรานี่เอง  

ผม มองท่านพ่อ ครูบา ฯ  ( ในภาษาอิสาน ครูบา คือ ปราชญ์  ผู้รู้ในชุมชน  ไม่ใช่ พระสงฆ์นะครับ  อย่าไป สับสน ปะปน กับ ภาษาเหนือ ว่า คือ พระ )   ว่า ดังนี้

1) ท่านเป็น กระบวนกร   :    ซึ่ง คำว่า กระบวนกรนี้  หมายถึง Facilitator     คือ คนที่ ยั่ว  แหย่   ผลัก ไล่   (จนไปถึงขั้น ถีบ) ผู้เรียน ให้ผ่านกระบวนการเรียนรู้  ...    คนที่คิดคำว่ากระบวนกร น่าจะเป็น คุณณัฐรส วังวิญญู   หลานท่านอาจารย์วิศิษย์ วังวิญญู 

เอาคำว่า กระบวนการ (เรียนรู้)   มาผสม กับคำว่า กร    เช่น  วิทยา + กร = วิทยากร    เกษตร + กร = เกษตรกร    เป็นต้น

กระบวนการ   ที่ผมว่านี้ คือ  กระบวนการเรียนรู้ จะเป็นแบบ  เชิงประจักษ์ (Action learning)   แบบสร้างองค์ความรู้เอง (Constructionism)    แบบวงจรโนนากะ (Nonaka learning cycle) ก็ได้ ทั้งนั้น

นักเรียนรู้ และ พี่เลี้ยง (Facilitator) หลายๆท่าน  ที่ผมพาไปอยู่ ไปเรียนรู้ ที่ มหาชีวาลัยอิสานของครูบาฯ   กลับมาเล่าให้ผมฟังว่า  ครูบาฯ  มี วิธีการอันแยบยล  ทำให้ พวกเขา สนุกที่จะเรียน   พร้อมที่จะให้เมื่อถาม   แต่ ไม่ใช่ ยัดให้โดยไม่ได้ถาม   พวกเขาผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบสนุกสนาน เฮฮา (ศาสตร์)  ตั้งแต่ "คุย คิด คลิก คลำ"  ( หน้าต่างทั้ง 4 ของ โนนากะ)     

กระบวนกร  ย่อม จัดเตรียมเวที หรือ พื้นที่ หรือ ให้โอกาส (ภาษาญี่ปุ่น  เรียกว่า ba)   เตรียมกระบวนการให้ผู้เรียน ได้ ปะทะโลกความเป็นจริง (Real world) ด้วยตนเอง  ค้นพบเอง   .......นี่แหละ Tacit knowledge    คือ  เรียนรู้ ค้นพบ ผ่านการลงมือทำจริง    ครูบาฯ ท่านไม่เหมือน ครูที่ แย่งการปะทะ real world ไปจากผู้เรียน

;วันหนึ่ง  ผมโดนท่าน ครูบา ฯ  ลากขึ้นเวที   ไปพูด ที่ โรงเรียนรุ่งอรุณ  โดยไม่ได้ บอกกันล่วงหน้ามาก่อน    ผมคิดว่า นี่ ก็คือ หนึ่งในความน่ารักของกระบวนกรระดับเซียนอย่างครูบาฯ ครับ    ท่านหาเวที ให้ ลูกๆ (พวกเรา ชาวเฮฮาศาสตร์ หรือ ทุกคนก็มาเป็นสมาชิกเฮฮาศาสตร์ได้ ไม่จำกัด ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบเข้า  ไม่มีการไล่ออก  มาด้วยใจล้วนๆ)  อยู่เสมอ

ทำๆไปเถอะครับ   ขอให้เป็นเรื่องกุศล เรื่องมีประโยชน์     ผลออกมาจะ ผิด ถูก กระบวนกรอย่างท่านก็ไม่ว่าอะไร  คนเราโตๆ กันแล้ว   มันรู้กันอยู่แก่ใจดีครับ   ผิดพลาด ก็ สำนึกผิด (Hansei)   แล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ คุยกันใหม่  

2)  ท่านเป็นปราชญ์ หรือ  Knowledge maker จริงๆ    ท่านทำจริง   เล่นกับธรรมชาติจริง   เอาพื้นที่อิสาน ทุ่งกุลาร้องไห้    ที่ใครแค่ได้ยินชื่อ  ก็เผ่นแล้วครับ

ท่านมี tacit knowledge มากมาย      คนจริง ของจริง  เมื่อถ่ายทอดออกมา ย่อมเป็นของจริงเช่นกัน  แต่ คนฟัง หากไปเอาไปทำ  ของจริง ของดี ของท่าน  ก็ หายไปครับ     เป็นแค่ข้อมูลหนึ่งเท่านั้นเอง

ผมเห็นท่าน เล่น คอมพิวเตอร์  ใช้โปรแกรมต่างๆ แบบ คนสนใจ คนใฝ่รู้    ไม่น่าเชื่อ  ความกล้าแบบนี้ หายไปจากใจผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆคน 

คนเราหลายคน  เคยมีจิตใจงดงาม    แต่ เมื่อโดนบริบท  อำนาจ หน้าที่ เงิน วัตถุ ค่านิยมผิดๆ เพื่อนชั่ว คนพาล  ฯลฯ  ลวงไป   ลากไป จน ความน่ารัก ความเป็นนักเรียนรู้ หายไป     เหลือแต่  ด้านดำๆ ของ จิตใจ  แบบ เข็มขัดสั้น    ใครเตือนก็ไม่ฟัง ไม่ยอมออกจาก "ความสะดวกสบายที่เคยชิน"  ก็เลยตาบอด  ครูบาฯ เรียกพวกนี้ว่า  "โง่แล้วยังไปเอะใจ"

3) ท่านเป็นนักยุทธศาสตร์     ท่านสงบนิ่ง วางแผน วางหมาก  จัดการกับ ผู้คนแบบต่างๆ     ท่านทำให้ผมได้ฉุกคิด

ผมติดนิสัย  ตำหนิ ด่า  แย็บๆ  ด่าตรงๆ   จี้โดนใจดำ ฯลฯ  ต่อเหล่า ผู้คน ที่ หลงทาง  หลงเข้าใจผิด ว่าตนเอง คือ ใคร ?   เช่น  จบปริญญาเอกด้านการศึกษา แต่ ไม่เฉลียวใจ ว่า ตนเอง ไม่รู้จักการศึกษาเลยแม้นแต่น้อย อ้าว   จริงๆ นะ   

ท่านครูบาฯ  ท่านนิ่ง เฉยๆ    ไม่เป็น หมาบ้า แบบผม    คงเห็นผมเห่า  แล้วเหนื่อยแทน   เพราะ ใบตองแห้ง  มันแห้งไปแล้ว มันจะสดใสได้อย่างไรกัน   มันต้องฟันทิ้ง

4) อื่นๆ    ท่านผู้อ่าน  ลองไปเจอ ไปคุยกับ ครูบาฯ เอง ก็แล้วกัน  จะมี ข้อ 4 ข้อ 5 และ อีกหลายๆข้อครับ  

 

เฮฮาศาสตร์   มันเป็นกระบวนการเรียนรู้   ที่มีอะไร อะไรหลายๆอย่าง  ที่ ยาก จะเขียนออกมาเป็นวิชาการได้   

ผมขอมั่วๆ เขียนถึง เฮฮาศาสตร์  แบบ ผิดๆ ไปก่อน  (ในมุมมองของผมคนเดียว)  พอเวลาผ่านไป  ได้คิด ได้ทำ ได้ล้ม ได้ผล  มากขึ้น  ผมอาจจะกลับมาแก้ไขใหม่     ดังนี้

ก)  เป็น การรวมตัวกัน แบบ ชิวๆ  สบายๆ  เบิร์ด ๆ    เพราะ ในสภาพที่ เปิดใจ    คลื่นสมองที่อัลฟา   เราอยู่ในสภาพที่พร้อมจะเรียนรู้      สิ่งดีๆ  มีประโยชน์  เป็นกุศล ย่อมเกิดขึ้นได้

บรรยากาศ การรวมตัวกัน ผ่าน เว็ป gotoknow ของ เหล่า Blogger ทั้งหลาย   เป็นการรวมตัวกันแบบ ไม่หน้ากากมากั้น  ไม่มี โหมดเอาตัวรอด    เป็นโหมดปกติ  เหมาะกับการเรียนรู้จริงๆ

ข) เป็นการเรียนรู้แบบใหม่  คือ  ไม่รู้ว่า ใครสอนใคร  ไม่มีใครเป็นวิทยากร   การเรียนรู้เกิดขึ้นเอง ในตนเอง  แบบ เนียน นุ่ม ลึก    ไม่มี คำศัพท์ ตามมาอธิบายให้วุ่นวาย

ค) เรียนรู้เป็นทีม  จาก คนหลากหลายอาชีพ   ครู  อาจารย์  มนุษย์เงินเดือน  กระบวนกร  เจ้าของกิจการ ข้าราชการ เกษตรกร  ฯลฯ   แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแบบไม่รู้ตัว

ง) อื่นๆ  ......  ท่านผู้อ่าน  มาร่วมวงด้วยสิ   จะได้ คิดข้อ นี่ออกไงล่ะ   ผมเปิดพื้นที่ให้แล้วนะ  หลายท่าน อย่าเพิ่งหมั่นไส้  ว่า   พวกเฮฮาศาสตร์  คือ อะไร   ทำอะไรกัน   ภาษาแปลกๆ  ทำอะไรแปลกๆ  ….  มันไม่มีอะไรจริงๆ ครับ    เราเริ่มต้นที่ ไม่มีอะไร  แล้ว จบลงที่ ไม่มีอะไร   นี่แหละ ไตรสิกขา

 

คำสำคัญ (Tags): #no tag
หมายเลขบันทึก: 142201เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2007 23:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • บรรยากาศ การรวมตัวกัน ผ่าน เว็ป gotoknow ของ เหล่า Blogger ทั้งหลาย   เป็นการรวมตัวกันแบบ ไม่หน้ากากมากั้น  ไม่มี โหมดเอาตัวรอด    เป็นโหมดปกติ  เหมาะกับการเรียนรู้จริงๆ

  • นกเห็นด้วย ๆๆ เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ อิอิ...

·     วันสงกรานต์ ชวนให้ สำราญจิต

·     ชวนลิขิต ให้มวลมิตร คิดสร้างสรรค์

·     สงกรานต์นี้ ชวนทำดี  ดีทุกวัน

·     ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมกันสร้าง พลังใจ

·     สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

  • มีหลาย ๆ คนในเหล่านักการ อยากพูดคุยกับอาจารย์อีกครั้ง หลังจากได้พูดคุย เมื่อตอน KM ที่ มน.
  • ดีใจค่ะ...ที่จะได้พบอาจารย์อีกครั้ง...

ขอบคุณค่ะ สำหรับ บันทึก "เฮฮาศาสตร์"

อ่านบันทึกอาจารย์แล้ว จริงๆ ในใจอยากร่วมก้วน..กระบวนทัศน์ นี้ค่ะ

แต่ด้วยหลากหลายเหตุผล ที่พยายามจะฝึกตน ...บางครั้งเลยต้องยอมอยู่นิ่งๆ เพื่อพิจารณาตน...หยุดความอยากของตน ... พอเริ่มเห็น เริ่มรู้..สงบลงได้บ้าง ..ก็เลย แอบมาเขียน..อ่านความเห็นผู้อื่นบ้างค่ะ

สนใจแนวคิด "เฮฮาศาสตร์" เพราะ เห็นว่า การเรียนรู้ที่ยั่งยืนนั่นต้องมาจากจิตใจที่มีความสุข มีความยินดี มีความกระหายใคร่รู้ที่จะเรียนรู้...เรียนรู้เพื่อพัฒนาตนค่ะ

แต่มุมมอง ที่ได้เรียน ได้สัมผัสมา... ก็ยังเห็นว่า ..ผู้นำทางการศึกษาของเรา (ส่วนใหญ่) ยังพยายามที่จะสร้างให้ "การศึกษาเป็นเลิศ ด้วยการยึดติดกับกรอบ..กับชื่อ..การศึกษาไทย จึงพยายามที่จะตามชาติตะวันตก .. หากพูดคำไทย เอาหลักการคนไทยมาอ้าง ก็บอกว่า ไม่เป็นสากลบ้าง เชยบ้าง อะไรเหล่านี้นะคะ.

อยากให้ การจัดการศึกษาของไทยเรา...มี Trend หรือ แฟชั่น ของ เฮฮาศาสตร์ มากขึ้นค่ะ... แต่จะทำยังไง เมื่อการจัดการศึกษา ณ ตอนนี้ ... แนวคิดหลัก คือ ศึกษาเพื่อสนองกิเลส คือ มีงานที่ดีๆ (เงินเดือนเยอะๆ) ในหมู่สังคม. ไม่ได้เป็นการเรียนด้วยใจ. การเรียนรู้ มันก็พัฒนาไปตามลำดับนะคะ ... ความสุขก็เช่นกัน คนที่ได้สุขที่ประณีตแล้ว เขาก็จะไม่ชอบสุขที่หยาบๆ แต่ในเมื่อคนเรามันต่างกัน. คนตัวเล็กๆ ไม่สามารถที่จะจัดสรร จัดการสภาพแวดล้อมอะไรได้.. ^*__*^

รู้สึกจะเขียนมากไปแล้ว ^*__*^ เพราะจริงๆ แค่อยากบอกว่า ชื่นชมกับแนวคิด "เฮฮาศาสตร์" ค่ะ

ที่ทุ่งสักอาศรมเราใช้แนวทางปฏิบัติการเรียนรู้แบบ "ชีวิตเป็นศูนย์กลาง [Life Center]" ครับ

.

ครูกานท์

ทุ่งสักอาศรม

พอล่า เกี่ยวติดมาด้วยค่ะ รับสอนลูกหลาน สักคนไหมคะ อาจารย์

อ่านจากหนังสือยังคิดหนัก ข้อคิดดีๆ เอาไปลองทำตามแล้ว สบายใจ สุขใจยิ้มได้กับปัญหา หากเจอตัวจริงเราจะงงอ.ไหมนี่

สวัสดีค่ะ

  • ติดตามเรื่องราวชาวเฮฮาศาสตร์ด้วยความสนใจ
  • ในบริบทแห่งการศึกษาธรรมเขียนได้ชวนติดตาม
  • จบลงด้วยไตรสิกขาน่าสนใจยิ่ง
  • แล้วจะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ
บัณฑิต ปราชญาบัณฑิต

ณ ปัจจุบันนี้ มีผู้ที่จบการศึกษาสูงๆ มันเยอะแยะไปหมด แต่อยากเรียนถามว่า มีผู้มีความรู้เยอะ เท่ากับผู้ที่จบการศึกษาสูงๆ บ้างหรือเปล่า เพราะเห็นคนมุ่งเน้นที่ปริญญากันมากมาย แต่ไม่นึกถึงความรู้ที่จะได้รับ เพราะคิดว่าไอ้ที่นำมาสมัครงานคือใบปริญญาไม่ใช่ความรู้ เเล้วอย่างนี้เราจะช่วยสังคมได้อย่างไรบ้างครับ ตามแนวทางของ เฮฮาศาสตร์

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท