BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

คนปักษ์ใต้ เขียนภาษากลาง


คนปักษ์ใต้ เขียนภาษากลาง

เมื่อ ๕-๖ ปีก่อน ผู้เขียนไปประชุมที่นครนายกประมาณ ๑๐ วันที่ธรรมสถานแห่งหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้)... ก็มีท่านมหาฯ รูปหนึ่ง พักอยู่กุฏิใกล้ๆ... ในยามว่าง ท่านมักจะนำหนังสือมาอ่านเล่นนอกกุฏิ ซึ่งเป็นหนังสือนิยายเก่าๆ เช่นของไม้ เมืองเดิม เป็นต้น... ในฐานะคนรักการอ่าน ผู้เขียนจึงเข้าไปทำความรู้จักและชวนคุย....

ท่านอยู่ทางภาคอีสานตอนใต้ใกล้เขมร จะเป็นอุบล  บุรีรัมย์ หรือศรีษะเกษ นี้แหละ (ไม่แน่ใจ)... ท่านเล่าว่า จบ มจร. และตอนนี้เป็นอาจารย์ทำหน้าที่ครูใหญ... ประเด็นสำคัญก็คือ ท่านเล่าว่า พูดและเขียนภาษาไทยไม่ค่อยถูก จึงต้องมาเพิ่มพูนด้วยการอ่านหนังสือจำพวกนี้ี้ .... เมื่อแรกได้ยิน ผู้เขียนก็ไม่ค่อยเห็นด้วย น่าจะเป็นคำแก้ตัวมากกว่า....

แต่เมื่อผู้เขียนมาเป็น บล็อกเกอร์ นี้เอง จึงเริ่มตระหนักว่า ความผิดพลาดในการเขียนตัวสะกดคำต่างๆ ของผู้เขียน โดยเฉพาะคำที่เขียนผิดบ่อยๆ อาจเป็นเพราะผู้เขียนเป็นคนปักษ์ใต้ และมีระบบคิดเป็นภาษาใต้ก็ได้ กล่าวคือ ปัญหาพื้นฐาน น่าจะคล้ายคลึงกับที่ท่านมหาฯ รูปนี้ให้ความเห็นมา...

เฉพาะคำที่ผู้เขียน พอจะนึกได้ว่าเขียนหรือพิมพ์ผิดบ่อยๆ เช่น

  • ซื้อ          ---  ซื่อ
  • เปียก       ---  เปลียก, เปรียก
  •  ชาย       ---  ใช้

ซึ่งหลายๆ ครั้งหลังจากกลับไปอ่านทบทวน พบว่าคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดนั้น น่าจะเป็นเพราะระบบคิดเป็นภาษาปักษ์ใต้นั่นเอง ซึ่งตามปกติผู้เขียนพิมพ์สัมผัส (ไม่มักจะดูแป้น) ถ้าพิมพ์ผิดแป้น คำไม่น่าจะผิดทำนองนี้

จึงนำมาเล่าสู่กันอ่าน เผื่อว่าใครจะเป็นอย่างนี้บ้าง 

อนึ่ง ตามความรู้สึกส่วนตัว ผู้เขียนจะใช้ระบบคิดเป็นภาษาปักษ์ใต้ตลอด เมื่อภาษาความคิดถ่ายทอดมาเป็นภาษาหนังสือ ความผิดพลาดของคำเหล่านั้น คงจะติดมาจากภาษาความคิด... นี้คือข้อคาดหมายของผู้เขียน ไม่แน่ใจว่าใครจะเคยมีความคิดทำนองนี้บาง...

.........

นอกเรื่องนิดหน่อย ประมาณสิบปีก่อน ผู้เขียนเคยไปอยู่มาเลเซียที่วัดแห่งหนึ่งในสลัมบัน (เลยกัวลาลัมเปอร์ไปประมาณสามสิบกิโล)... มีอาจารย์เกษียณชาวจีนคนหนึ่งมาสอนภาษาอังกฤษให้ยามว่าง...

ท่านเล่าว่า เมื่อท่านอยู่ในกลุ่มที่พูดมาลายู ระบบคิดท่านจะเป็นภาษามาลายู... หรืออยู่ในกลุ่มของผู้ที่พูดภาษาอังกฤษ จีนแต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน ท่านก็จะมีความคิดเป็นภาษานั้นๆ (ในมาเลเซีย คนพูดได้ ๓ ภาษาขึ้นไป หาได้ไม่ยาก บางคนพูดได้เกือบสิบภาษา เพราะกลุ่มชนมีหลากหลาย)

ท่านแนะนำว่า ให้ผู้เขียนหัดคิดเป็นภาษาอังกฤษ ผู้เขียนก็ลองอยู่พักหนึ่ง โดยดูโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษ (โทรทัศน์มาเลย์ มีหลายภาษา)  อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และเวลาความคิดจะแล่น ผู้เขียนก็สลัดความคิดตามภาษาปักษ์ใต้ให้พ้นไปแล้วพยายายามหัดคิดด้วยคำว่า I think that......

ปรากฎว่า ผู้เขียนเคยฝันเป็นภาษาอังกฤษครั้งหนึ่ง (และครั้งเดียว) ในชีวิต... แต่เมื่อกลับมาสงขลา ทุกอย่างก็เหลือเพียงความทรงจำ...

...... 

ตามที่เล่ามาก็เพียงอยากทราบว่า คนปักษ์ใต้อื่นๆ ที่ใช้ภาษาปักษ์ใต้เป็นระบบคิดนั้น เคยสังเกตว่า ท่านเคยเขียนภาษากลางผิดเพราะเกิดจากระบบคิดที่ใช้ภาษาปักษ์ใต้ตามที่ผู้เขียนเล่ามาบ้างหรือไม่ ?

หมายเหตุ : สาเหตุที่ผู้เขียนได้เล่าในบันทึกนี้ เพราะ ผู้เขียนไปเปิดอ่านบันทึก หนึ่งปีบน GotoKnow  ซึ่งผู้เขียนเคยฝากร่องรอยไว้ เมื่ออ่านอีกครั้งพบว่า ในความเห็นของผู้เขียน คำว่า น้องชาย เขียนผิดเป็น น้องใช้ .... ซึ่งผู้สนใจลองไปตรวจสอบได้

หมายเลขบันทึก: 141256เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2007 22:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 23:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
(ข้อความ) แต่ก็เข้าใจนะครับพระอาจารย์
P

Conductor

เวลาปักษ์ใต้พูดกรุงเทพฯ ไม่ชัดหรือเพี้ยนๆ รู้กันว่า พูดทองแดง หรือ แหลงทองแดง ...

ส่วนอาตมาบอกกับเพื่อนๆ ว่าเป็น ตะกั่ว กล่าวคือ ถูกกว่าทองแดง....

บางครั้งความผิดซ้ำๆ ซากๆ รู้สึกเบื่อตัวเองเหมือนกัน..

เจริญพร 

น้องเขยผมเป็นคนพัทลุงครับ ไม่ทองแดงเพราะว่ามาเรียนกรุงเทพหลายปี แต่ลึกๆ คง "ระแวง" อยู่เหมือนกัน พอเจอหน้ากันใช้วิธีหัวเราะสู้อย่างเดียว ;-)

นมัสการท่านP

                 ผมมีความคิดเช่นท่านเหมือนกัน พยายามเขียนตามความคิดเป็นภาษาใต้ ให้อ่านเป็นสำเนียงใต้ แล้วแปลเป็นภาษากลางให้คนภาคอื่นอ่านแล้วเข้าใจความคิดของเรา ศึกษาวัฒนธรรมของเรา

                 คนใต้พอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนใต้เช่นกัน ก็เริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่าแหลงแล้วไม่มีทองแดง ก็เลยแหลงใต้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ให้มันหรอยไปถึงหัวอ๋ก ครับท่าน

P

Conductor

อาตมาก็อยู่กรุงเทพฯ หลายปี นอกนั้นเหนือหรืออีสานก็เคยไปอยู่เหมือนกัน... แม้สำนวนอาจใช้ภาษากลาง ได้คล่อง แต่สำเนียงแก้ไม่ได้...

อาจเป็นเพราะไม่อยากจะแก้ก็ได้... (ดอกเตอร์บางท่าน แม้ไปอยู่เมืองนอกหลายปีก็ยังแก้ไม่ได้ หรือเขาคงคิดว่าไม่จำเป็นต้องแก้) 

ส่วน ตัวอาตมา พอเริ่มเป็นพระเถระ เริ่มจะต้องพูดเป็นทางการ เช่น เทศน์ บรรยาย หรือเวลาประชุม ฯลฯ ก็มีน้องหลวงรูปหนึ่ง (พระบวชใหม่) แนะนำว่า มีข้อบกพร่องที่สำเนียงทองแดง  ... และบอกวิธีแก้ ซึ่งเขาสามารถแก้ไขได้ผล คือ ให้ท่องและพูดกับตัวเองอยู่เสมอว่า...

  • งกงก เงิ่นเงิ่น
  • งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข

โดยให้พูดสองสำนวนนี้สลับกัน หลายๆ เที่ยว แล้วบังคับเสียงให้ถูกต้อง...ใครสนใจก็เอาไปฝึกได้ ไม่สงวน...

แต่ อาตมาฝึกอยู่ครึ่งวัน ก็เลิก...

เจริญพร

bullet ที่สอง มีอสรพิษติดมาด้วยนะครับ แต่พระอาจารย์คงเห็นแล้ว เลยเลิก
P

คำสุวรรณ์

เข้าไปดูประวัตินายช่างแล้ว จบเทคนิคหาดใหญ่... หลวงพี่ก็เคยเรียนเทคนิคหาดใหญ่เหมือนกัน โดยเรียนช่างก่อสร้าง เรียนๆ ออกๆ อยู่ 4 ปี แต่ไม่ได้วุฒิปวช. (.........) ดูตามประวัติการทำงานแล้ว นายช่างคงจะเป็นรุ่นพี่....

ตามที่นายช่างว่ามาถูกต้องเลย แหลงภาษาเดียวก็เป็นพวกเดียวกัน...

อีกอย่างหนึ่งก็คือ หรอย เหมือนกันก็เป็นพวกเดียวกัน...

เคยมีประสบการณ์ตอนอยู่ภาคเหนือ เจ้าอาวาสท่านหนึ่ง เตรียมปลาตัวโตๆ ต้มยำ เพื่อฉันกับข้าวเหนียว ทำนองเอาใจ... หลวงพี่ฉันนิดเดียว เพราะรู้สึกคาว ไม่ค่อยถูกปาก... รู้สึกว่าท่านจะแปลกใจนิดๆ ที่หลวงพี่ไม่ค่อยชอบ (ทำให้เกิด ช่องว่าง ในความเป็นเพื่อนเกิดขึ้น)... ส่วนพระ-เณรรูปอื่นๆ ฉันกันอย่างมีความสุข...

ประสบการณ์ครั้งนั้น จึงได้ข้อคิดว่า หรอยไม่เหมือนกันก็มิใช่พวกเดียวกัน ... ทำนองนั้น 

เจริญพร 

 

นมัสการหลวงพี่ครับ เขียนไม่ค่อยมีปัญหาครับ เพราะคุ้นกับตัวหนังสือ แต่พูดนี่ ยังไงก็หลุดครับ ;)
P

ธ วั ช ชั ย

นอกจากระบบคิดที่ใช้ภาษาใต้ทำให้เขียนผิดแล้ว...

หลวงพี่มักจะติดศัพท์มาจากภาษาบาลีเดิม จึงมักจะเขียนต่างไปจากหลักความนิยมภาษาไทยปัจจุบัน....

และบางครั้งก็รู้มากเกินไป จึงเขียนตามคำบาลีบ้างสันสกฤตบ้าง หรือตามหลักนิยมภาษาไทยบ้าง กล่าวคือ มั่ว ...

ดังเช่น ตอนเขียนวิทยานิพนธ์ อาจารย์ติงว่า ปกติ หรือ ปรกติ ให้เลือกเอาตัวเดียวเท่านั้น ตัวไหนก็ได้ เพราะหลวงพี่ใช้มั่ว....

สรุปว่า ภาษาไทยยากที่สุดในโลก (...........)

เจริญพร 

 

จากระบบคิดแบบคนใต้------>สู่ระบบเขียนคนภาคกลาง

เพี้ยนไปบ้างคงไม่พรือมั่งครับท่าน

มีเสน่ห์ออก

เพราะว่าถ้าจะไม่ให้เพี้ยนหรือทองแดงหรือตะกั่วมั่ง มันเข็ดลิ้น เหนื่อย เกร็ง-------> ชีวิตไม่เป็นสุข

ผมพยามสื่อระบบคิดแบบคนใต้สู่ระบบเขียนคนกลาง ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าสื่อไปโดยผิดพลาดคลาดเคลื่อนอย่างไรหรือไม่ แต่คิดว่าคนอ่านเขาคงจะรู้ว่าเราคือคนใต้ จางกลิ่นไอภาษาบางกอกไปมั่งก็ไม่เป็นไร

ผมจึงไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้

หลวงพ่อปัญญานันทะท่านเทศน์สำเนียงพัทลุง คนฟังทั้งประเทศมาแล้ว

ต่อไปไม่แน่คือท่าน BM.chaiwut  ก็ได้นะครับ

-------------------------------------------------------------------

  • ซื้อ          ---  ซื่อ
  • เปียก       ---  เปลียก, เปรียก
  •  ชาย       ---  ใช้

-------------------------------------------------------------------

3 คำข้างบน สงสัยอยู่คำเดียวว่า เปี่ยก ----> ทำไม เป็น เปลียก ,เปรียก ไปได้

ร่วมสนุกกับหลวงท่านครับ

P

ครูนงเมืองคอน

ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เขียนผิดพลาดบ่อย....

ตั้งแต่เขียนบล็อกมานี้ ได้วิธีตรวจคำที่ง่ายที่สุด กล่าวคือ คำไหนไม่แน่ใจก็ถาม google.com ถ้ามีใช้เยอะ แสดงว่าใช้ได้...

แต่มีบางคำ ดังเช่นเมื่อคืน ชื่อจังหวัด ศรีษะเกศ หรือ ศรีษะเกษ ... ลองถาม google.com ดู ปรากฎว่ามีทั้งสองคำ แต่คำหลังคือว ศรีษะเกษ มีใช้มากกว่า จึงเอาคำหลังมาใช้...

อีกคำหนึ่งเกิดขึ้นแลกหัวรุ่ง คือ มั่งคั่ง หรือ มั่งคั้ง คำนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ก็เลือกใช้คำแรก เพราะถ้ามัวไปถาม google.com จะไปบิณบาตไม่ทัน (...............)

เจริญพร 

นมัสการท่านP

                  การเขียนgotoknow เป็นการช่วยในการเขียนไทยให้ถูกต้องด้วย ผมใช้ปทานุกรมของอาจารย์ เปลื้อง ณ นคร สำหรับหาคำเขียนที่ถูกต้องครับ ส่วนพิมพ์ตกหล่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ

                 ผมได้อ่านประวัติท่าน ได้ทราบว่าท่านเป็นรุ่นน้องผมที่คอหงส์ประมาณ ๘ ปี ครับ ท่านเปลี่ยนทิศทางการศึกษาแล้วสำเร็จผลดี เป็นตัวอย่างที่น่านับถือในความมานะพยายาม ตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็กในยุคปัจจุบันครับ

                 และได้ทราบว่าท่านพื้นเพเดิมอยู่ที่คูขุด ผมเองพื้นเพเดิมของพ่ออยู่ที่พังเหม็ด ตรงหลักกิโล(ถ้าจำไม่ผิดประมาณหลักที่ ๓๒ หรือ ๒๓ นี่แหละ) ก่อนถึงทางเข้าคูคุดประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ เมตรครับ ส่วนแม่พื้นเพเดิมอยู่ยางเอนก่อนถึงสามบ่อ (นามสกุลผมท่านคงผ่านตามาบ้าง)

                 วัดยางทองอยู่ตรงไหนครับท่าน ผมนึกไม่ออก (น่าจะอยู่หน้าตชด.ก่อนถึงวัดอุทัย)เมื่อก่อนจำได้หมดชื่อวัดในเขตบ่อยาง ตั้งแต่หน้า ตชด.จนถึงวัดแหลมทราย(สมัยเรียนหนังสือผมอยู่วัดโรงวาสครับ)วันหน้าถ้าได้ไปสงขลาจะได้ไปนมัสการท่านครับ

P

คำสุวรรณ์

เห็นนามสกุลของนายช่างก็คุ้นๆ อยู่... ครั้งแรกที่เห็นก็พยายยามนึกว่าใครนามสกุลนี้ที่เคยรู้จัก แต่ก็ยังนึกไม่ออก...  

พังเหม็ด หลักกิโล ๓๒ หน้าอำเภอ ๓๓ นับจากท่าแพ...

ตามที่นายช่างกะประมาณ ก็น่าจะประมาณนั้น... เพราะอาตมาเข้าเรียนในปี ๒๔ ...ส่วนนายช่างเริ่มทำงานปี ๒๒-๒๓...

กล่าวได้ว่าอาตมาอยู่ทันยุคสุดท้ายที่คอหงส์ยังเป็นป่าอยู่... เพราะถนนยังสองเลนแบบเก่าที่ตัดผ่านสวนยาง หลังเทคนิคยังไปหาทุเรียนกินอยู่เลยในยามว่าง... เพิ่งมาเริ่มขยายถนนใหม่ก็ตอนใกล้ๆ จะออกจากเทคนิคเข้าวัดแล้ว... และหน้าเทคนิคก็เปลี่ยนสภาพบ้านนอกมาเป็นชานเมืองและกลายเป็นสังคมเมืองดังเช่นปัจจุบัน... (ส่วน ลุงนำ หน้าเทคนิคยังคงอยู่หลังจากอาตมามาบวชแล้วอีกหลายปี)

ลยตชด. (ค่ายรามคำแหง) ก่อนถึง วัดอุทัย คือ วัดศาลาหัวยาง... ส่วน วัดยางทอง อยู่ตรงข้ามสถานีดับเพลิง ถนนนางงาม ห่างจากวิกหลักเมืองประมาณ สองร้อยเมตร (แต่วิกหรือโรงหนังหลักเมือง รื้อไปสิบกว่าปีแล้ว) ... สองวัดนี้มีคนจำผิดหรือสลับกันเสมอ...

ชีวิตก็ไปเรื่อยๆ ตามกรรม ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะเป็นนักวิชาการวิชาเกินเค้าเลย (.......)...ญาติผู้ใหญ่หลายท่านก็เคยปรารภว่า เด็กๆ ไม่มีทีท่าว่าจะบวชไม่สึกเลย...  ส่วนความอยากรู้อยากเห็น และนิสัยที่ไม่ค่อยจะยอมรับใครง่ายๆ นั้น รู้สึกว่าจะเป็นมาตั้งแต่เกิด (.......)

เจริญพร 

นมัสการท่านP

                      พอท่านบอกสถานที่ ภาพเมื่อ ๓๖ ปีที่แล้วก็ไหลมาเลย ผมนึกออกแล้วว่าวัดยางทองอยู่ตรงไหน ผมเคยทำงานซ่อมวิทยุโทรทัศน์ ที่ร้านสากลวิทยุตรงข้ามวัดเลียบ มาตั้งแต่ ๒๕๑๔ (ปัจจุบันเพื่อนผมเป็นเจ้าของร้านครับ)วัดนี้สมัยก่อนมีต้นสาเกเยอะเลย

                     ผมยังจำได้ชีวิตที่คอหงส์ ผมเป็นรุ่นแรกที่เปิดรับที่นี่กินข้าวลุงนำอยู่ ๓ ปี อ.มานะเป็นหัวหน้าแผนกก่อสร้าง อ.บำเพ็ญ ตอนหลังเพื่อนผมไปเป็นอาจารย์สอนชื่อ อ.จรัส กลักดวงจิตครับ

                    ที่คูขุดมีนามสกุลนี้อยู่หลายครอบครัว รู้สึกว่าต้นตระกูลก็มาจากคูขุดน่ะแหละครับ เกี่ยวพันหลายตระกูล เช่นย่า นามสกุลสังขสัญญา ญาติก็นามสกุลเรืองหนู มณีดุลย์ เป็นต้น

                    แต่ท่านก็เป็นนักวิชาการเต็มตัวครับ นิสัยคนไต้ถ้าไม่ผิดไม่ยอมอยู่แล้วครับ

                     

                   

P

คำสุวรรณ์

หลายคนไม่รู้จักวัดยางทอง แต่รู้จักวัดที่มีต้นสาเก... ปัจจุบันต้นสาเกก็ยังมีอยู่ เพียงแต่รื้อโบสถ์หลังเก่าสร้างโบสถ์หลังใหม่ จึงโดนตัดไปหลายต้น... ทางวัดก็พยายามปลูกใหม่เพื่ออนุรักษ์ไว้....

ตอนที่อาตมาเรียน... อ.บำเพ็ญเป็นหัวหน้าแผนก... อ.มานะเป็นหัวหน้าคณะ... ส่วน อ.จรัส เพิ่งจบกลับมา ... อ.บำเพ็ญและอ.มานะ เคยสอนอาตมา ส่วนอ.จรัสไม่เคยสอน... ตอนนั้น เล่ากันว่า อ.จรัสเก่งกลศาสตร์ อาตมาเคยเอาโจทย์ไปถาม ท่านอธิบายให้เข้าใจไม่ได้ ตอนหลังโจทย์ข้อนั้น อาตมาก็เข้าใจได้เอง....

นามสกุลที่ว่าอาตมาก็เคยเห็น ซึ่งทั้งหมดก็เป็นบรรดาญาติๆ เพียงแต่ห่างๆ ออกไปเท่านั้น....

เจริญพร 

 นมัสการพระอาจารย์ค่ะ 

ปรากฎว่า ผู้เขียนเคยฝันเป็นภาษาอังกฤษครั้งหนึ่ง (และครั้งเดียว) ในชีวิต... แต่เมื่อกลับมาสงขลา ทุกอย่างก็เหลือเพียงความทรงจำ...

ปอมไปอยู่อเมริกา ๙ ปี (แต่ไปหลังจบป. ตรีที่เมืองไทยแล้วไม่กี่ปี)  จำได้ว่า เริ่มฝันเป็นภาษาอังกฤษเมื่อเข้าปีที่ ๖ ประมาณนั้น..... เพิ่งย้ายกลับมาประเทศไทยได้ไม่นาน เริ่มฝันเป็นภาษาไทยหลังอยู่มาได้ประมาณ ๖ เดือน ยังไง้ยังไงภาษาแรกก็เป็นภาษาแม่ฝังลึกสุดค่ะ  อาจเป็นเพราะไม่ได้ไปตั้งแต่เด็กด้วย 

แต่ตอนนี้ก็ยังมีฝันปนเป็นภาษาอังกฤษบ้างบางครั้งค่ะ 

กราบ ๓ ครั้งค่ะ

ไม่มีรูป
ปอมปอม
ประเด็น ผู้ที่มีระบบคิดด้วยการใช้ภาษาใดภาษาหนึ่งเท่านั้นกับผู้มีระบบคิดหลายภาษา นี้ หลวงพี่รู้สึกว่าน่าสนใจมาก...
จากการไปอยู่มาเลย์ช่วงหนึ่ง ทำให้เห็นความต่างได้ชัดเจนว่า คนในเมืองไทยเกือบทั้งหมดจะมีระบบคิดเพียงภาษาเดียวเท่านั้น คือ ภาษาไทย ... ต่างจากคนมาเลย์ ซึ่งมีกลุ่มชนที่ใช้ระบบคิดหลายภาษาอยู่มาก...
ส่วนภาษาอังกฤษของหลวงพี่ไปไม่ถึงไหน เพราะมีระบบคิดภาษาไทยนี้เอง... และชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย ยกเว้นเวลาอ่านหนังสือที่จำเป็นบางเล่มเท่านั้น
เจริญพร 
 

เนื้อหาสาระดีมากค่ะ

รักทุกคนนะค่ะ

ชอบสาระนี้มาก

จากเด็กคอน

ไม่มีรูป ศุภวรรณ

 

ไม่มีรูป กนกวรรณ

 

 

เจริญพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท