การหัวเราะทำให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างมากมาย..ใครจะเชื่อ....
ฉันเองเคยเขียนบันทึกถึงความตั้งใจในเบื้องต้นที่จะนำเรื่องตลกๆที่ได้รับจากผู้ใกล้ชิด ทั้งที่ทำงานและที่บ้านให้ได้ฮากัน ซึ่งฉันพบเจออยู่บ่อยมากๆจนเสียดายที่เพื่อนๆในGotoKnowไม่ได้เข้ามาฮาด้วย....จึงเก็บมาฝาก
.....เพียงอยากให้เพื่อนๆมีอารมณ์ดี หายเหนื่อย บรรเทาความเครียดจากงานประจำ ซึ่งฉันเองไม่สามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการบางเรื่องได้...
.....เสียดายแต่ว่าจริงๆแล้วฮา(ชนิดต้องเซ็นเซ่อร์)มีมากมาย
ท่านๆคงปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านเองก็เคยพบเจอกันมาบ้าง แต่โอกาสเล่าในบันทึกคงไม่มีเพราะความไม่เหมาะสม..ค่ะ..(นี่ขนาดยับยั้งชั่งมือแล้วนะคะเนี่ย...บางคราวอารมณ์พาไป..อดไม่ได้จริงๆค่ะ....)
ฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับ ท่านพี่ Handyในการไปงาน KM เชียงใหม่...
Handy
ท่านยื่นหลอดยาดมเล็กๆให้ฉันหนึ่งหลอดพร้อมพูดว่า...
"เอ้า...พยาบาลดมยา"...ฉันละฮา......
ท่านกล่าวว่า อารมณ์ขันน่ะมีอยู่ในทุกๆคนน่ะแหละ...ซึ่งเมื่อฉันได้พบ blogger หลายท่านแล้ว ฉันก็ทราบว่าจริง....ทุกคนพร้อมจะหัวเราะ.....
วันถัดมาท่านพี่ Handyส่งยาดมให้ฉันอีกหลอด.....ใหญ่กว่าเดิม....ทำให้เราได้ฮาอีกรอบ.....ฉันบอกว่าสงสัยถ้าอยู่สามวันมันคงใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม......
...นี่จริงๆมีการถ่ายรูปด้วยนะคะ.....เดี๋ยวจะเอามาลงให้ดูค่ะ(ถ้าหาพบ)
ตอนนี้ความตั้งใจเรื่องให้เพื่อนได้ฮาๆๆๆๆ...มากบ้างน้อยบ้างนั้นก็ยังคงอยู่ค่ะ....
เพราะเพียงอยากเห็นเพื่อนๆได้หัวเราะ ผ่อนคลายความเครียดบ้าง.....ก็เท่านั้นค่ะ...
เอาเป็นว่าเรื่องฮานั้น....ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ซะเลย
การหัวเราะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทสมองช่วยในการหลั่งสารเคมี Endorphine ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เกิดมีความสุข ทำให้อารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน
ในระหว่างที่หัวเราะ
ร่างกายก็มีการหายใจเข้า กลั้นหายใจ และหัวเราะ(หายใจออกยาวๆ) ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนถ่ายออกซิเจน ฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดง ทำให้เซลล์ประสาทหัวใจ ปอด คอ แข็งแรงขึ้น และ
ยังช่วยบริหารร่างกายให้เกิดความร้อนและการเผาผลาญพลังงาน ช่วยฆ่าเชื้อโรคและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับการหายใจเช่น ไข้หวัด ภูมิแพ้ หอบหืด ไซนัส กรน ความดันโลหิต โรคหัวใจ ปอด เป็นต้น
ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายทำงานดีขึ้น ป้องกันโรคอ้วน โรคเบื่ออาหาร ท้องผูก ท้องเสีย โรคกระเพาะ และโรคลำไส้
ยังมีอีกค่ะ.....
หัวใจสามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆมากขึ้น ทำงานเป็นระบบขึ้น ป้องกันการเวียนศรีษะ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เจ็บแน่นหน้าอก โรคขาดเลือด เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ฯลฯ
การหัวเราะช่วยบำบัดผ่อนคลายความเครียด ทำให้เส้นประสาท กล้ามเนื้อบริเวณ ใบหน้ายืดหยุ่น ไม่ตึงหรือเกร็ง ทำให้ร่างกายเกิดการพักผ่อน นอนหลับสนิท ผิวพรรณดี ไม่เหี่ยวย่น ไม่เป็นโรคทางผิวหนัง ช่วยให้ร่างกายและจิตใจเกิดความสงบ มีสมาธิมากขึ้น...อู้....อันนี้ดีค่ะ ไม่แก่เร็ว.....
และที่สำคัญ.... ยังทำให้สมองคิดแง่ดี มองโลกในแง่ดี อารมณ์ดี พัฒนาอารมณ์รัก และช่วยป้องกันอาการไร้อารมณ์ หงอยเหงา โดดเดี่ยว ไม่อยากเข้าสังคม ....ฮู้....ชอบๆๆๆๆค่ะ ยังค่ะ..ยังไม่หมด การหัวเราะช่วยบำบัดร่างกายและยังช่วยทำลายสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย...
คณะนักวิจัยสรุปว่า อารมณ์ที่แตกต่างกันมีผลต่อกระบวนการคิดแตกต่างกัน ดังนั้น ความเคร่งเครียดมุ่งมั่นอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา .....ลองหยุดพักและหันไปทำให้ตัวเอง สนุกสนาน อารมณ์ดี เสียก่อน แล้วค่อยกลับมาพยายามใหม่ อาจจะช่วยให้แก้ปัญหาลุล่วงได้.
.....แม้เรื่องราวเรื่องเล่าในตลกอาจจะคล้ายไร้สาระ....แต่ผลของตลก ทำให้คนหัวเราะได้ กลับสร้างคนและผลงานจากความคิดสร้างสรรค์มากมายค่ะ....
....เฮ้อ....รู้งี้แล้ว.... ความรู้สึกผิดกับการเล่าตลกค่อยน้อยลงหน่อยแฮะ...
ว่าแล้วลองยกตัวอย่างสักเรื่องดีกว่า...ฮ่าๆๆๆ....มาจากเรื่องจริงค่ะ....อิ...อิ.....
ฉันฟังบรรยายวิชาการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นการบรรยายเรื่อง “การเปลี่ยนข้อสะโพกและข้อเข่าเทียม”.....
ท้ายๆการบรรยายมีการเล่าถึงการปฏิบัติตัวหลังทำผ่าตัด มีคำถามมากมายที่อาจารย์ต้องตอบ เช่น
"จะเดินได้เมื่อไหร่ครับ"
"จะเล่นกีฬาได้เหมือนเดิมไหม" เป็นต้น
แต่....อาจารย์บอกว่าคำถามยอดฮิต คือ...
"จะหลับนอนกับภรรยาได้เมื่อไหร่......
และ.....คำตอบยอดฮิตคือ...เมื่อภรรยา(มัน)ยอม......
ฮาๆๆๆๆๆๆ.........
(ขอขอบคุณ