เกิดขึ้นเร็วมาก ตกใจมากค่ะ แต่ก็มีสติ ให้น้องโทรบอกพ่อ ราณีรีบหยิบกุญแจบ้านลงไปเปิดร้าน
เมื่อตอน สี่ทุ่มกว่าราณีคุยกับน้องสาว ขณะที่ตัวเองก็ยังเล่นเน็ตอยู่ เรื่อง ซื้อถังดับเพลิงมาไว้ที่บ้านกัน น้องบอกว่าต้องหาซื้อไว้สักอันแล้วละ ราณีบอกว่าไม่ได้ต้องซื้อ ๒-๓ ตัว ไว้ด้านล่างของร้าน Kristie France ๑ ตัว ไว้ด้านบนอีก ๑ ตัว ไม่เกิน ๕ นาทีเลยค่ะ เราได้ยินเสียงเหมือนดังบึ๊บ แปลก ๆ เรา ๒ พี่น้องลุกขึ้นพร้อมกันไปเปิดผ้าม่านดู ก็ไม่เห็นอะไร ไม่ถึง ๑ นาทีมีกลิ่นไหม้ที่รุนแรงมาก ๆ ค่ะ ราณีนั่งใกล้ประตูระเบียงซึ่งติดถนนที่สุด ราณีรีบเปิดประตูไปดู เห็นคน และรถ จอดเลยบ้านราณีไป หลายคันนึกว่ารถชนกันแล้วไฟลุก แต่มองลงไปด้านล่าง ซึ่งอยู่หน้าบ้านราณี เห็นควันไฟ จากตู้มิเตอร์ของร้านราณี ระเบิด ไฟลุก ควัน เต็มไปหมด เลย ตกใจมาก ๆ เลยค่ะ รีบปิดคอมแทบไม่ทัน ปิดแอร์ แล้วรีบให้น้องโทรไปบอกพ่อ ราณีก็โทรหา ๑๙๑ ก็สายไม่ว่าง จะโทรถาม๑๑๓๓ ก็บอกให้เราโทรกลับเข้าไปใหม่ วิ่งเปิดประตูแทบไม่ทันเลยค่ะ ใจสั่นมากเลยค่ะ (ขณะนั่งพิมพ์อยู่ยังตกใจ ใจสั่นอยู่เลยค่ะ)
-
(ช่างไฟฟ้ากำลังตัดสายไฟที่เชื่อมระหว่างมิเตอร์กับสายไฟใหญ่ หลังจากใช้น้ำดับไฟแล้ว)
---ทุกท่านคงสงสัยว่าทำไมไฟลุกที่มิเตอร์ยังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ได้ใช่ไหมค่ะ จริง ๆ ที่ร้านมี ๒ มิเตอร์ค่ะ มิเตอร์ร้านต่อกับสายอีกด้านหนึ่ง ส่วนด้านบนทุกชั้น ต่อกับมิเตอร์อีกตัวนึงค่ะ ไฟ จึงไม่ดับค่ะ ----
พอเปิดประตูได้ทำอะไรไม่ถูกกันเลยค่ะสองพี่น้อง ไม่ถึง ๒ นาที รถของการไฟฟ้าก็มาถึง (รถมูลนิธิ ได้ตามรถไฟฟ้ามาค่ะ ) ลืมขอบคุณเลยค่ะ มัวแต่ตกใจค่ะ ช่างไฟฟ้าถามว่าใช่บ้านเราหรือ เรายืนยันว่าใช่ค่ะ เขาก็ถามว่าทำไมไฟจึงไม่ดับ น้องก็บอกมี ๒ มิเตอร์ค่ะ (ดีนะค่ะที่ไฟด้านบนใช้อีกมิเตอร์หนึ่งทำให้ไฟไม่ดับทั้งบ้าน ไม่งั้น คงนึกภาพไม่ออกจริง ๆค่ะ) รถของการไฟฟ้าได้ตัดไฟ และ ให้ราณีหาถังน้ำมาดับตู้มิเตอร์ไฟ หน้าร้าน (ตู้มิเตอร์ไฟ ตั้งอยู่ตรงเสาไฟฟ้า ติดกับตู้โทรศัพท์ พรุ่งนี้ราณีจะลงภาพให้ดูนะค่ะ)
(รูปนี้ช่างไฟฟ้ากำลังงัดตู้เพื่อนำมิเตอร์ไฟฟ้าออกมา)
และช่างไฟขอใบเสร็จค่าไฟฟ้าด้วย เพราะเขาจะได้รู้ตู้มิเตอร์เบอร์อะไร น้องสาวราณีรีบวิ่งขึ้นไปเอาข้างบนเพื่อนำใบเสร็จมาให้ค่ะ
ช่างไฟฟ้าได้ขอถังน้ำเพื่อดับตู้มิเตอร์ไฟกับราณี ซึ่งเราก็ไม่รอช้ารีบวิ่งขึ้นมาชั้น ๓ หยิบถังลงไปได้ สวนกับน้องค่ะน้องก็บอกว่ามีสายยางอยู่ เฮ้อ! ลืมไปเลยว่าด้านข้างร้านมีสายยางไว้รดน้ำต้นไม้อยู่ (ลืมจริง ๆ ค่ะเมื่อนำถังลงมาแล้ว อารามตกใจอะค่ะ ) ราณีรีบวิ่งไปหยิบสายยางฉีดตู้มิเตอร์ ให้ช่างไฟฟ้าฉีดนะค่ะ เราไม่กล้าหรอกค่ะ เมื่อพ่อมาถึงน้องขอยืมรถไปบ้านอีกหลังเพราะใบเสร็จขึ้นมาหาไม่เจอ พ่อบอกว่าอยู่ที่บ้านนู้น น้องรีบไปเอาใบเสร็จทันที ซึ่ง พอดีมีหัวหน้าช่างอยู่ตรงนั้นด้วย เราก็รีบถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ไฟที่ร้านไม่ได้ใช้ ร้านปิดตั้งแต่ ๑๙.๓๐ น. แล้ว ด้านล่างถอดปลั๊กไฟทั้งหมดแล้ว ทำไมเกิดมิเตอร์ร้านระเบิดได้ (เหตุการณ์ที่ระเบิดนี้เป็นครั้งที่ ๒ แล้วนะค่ะ ) ครั้งแรก น้ำเข้ามิเตอร์ เพราะไม่ได้ใส่ตู้เหล็กไว้ ช่างไฟบอกน้ำเข้า แต่คราวนี้ เขาบอกว่า มดเข้าไป งง !!! ค่ะงงมาก (มดเข้าไปได้ไงเนี่ย วอนหาที่ตาย แล้วยังพาคนอื่นเดือดร้อนอีก)
(รูปหลังช่างไฟฟ้าดึงมิเตอร์ไฟฟ้าออก เพื่อนำไปเช็ค ท่านผู้ชมลองคิดซิค่ะ ว่ามดเข้าไปได้ไง งง!!ช่างไฟฟ้าที่บอกค่ะ)
หลังจากดับเรียบร้อยแล้ว ตรงมิเตอร์ไฟ หน้าร้านดำเป็นตอตะโกเลยค่ะ ตอนนี้เนี่ยช่างไฟเขาบอกว่าพรุ่งนี้วันจันทร์จะมาติดตู้ใหม่ให้ ช่วงนั้น ราณีรีบบอกให้น้องถ่ายรูปไว้เลย ราณีก็รีบถามเขาว่า แล้วจะใช้ไฟได้อย่างไร ละ (นึกเป็นห่วงอยู่เพราะพรุ่งนี้มีลูกค้าตั้งแต่ เปิดร้าน หลายท่านที่นัดตารางไว้ด้วย ) ช่างไฟก็บอกว่าเขาจะต่อไฟสายตรงให้ทันทีภายใน ๕ นาทีจะใช้ได้เลยค่ะ ทำให้เราหมดห่วงไปได้เปลาะหนึ่งค่ะ พ่อก็รีบบอกให้ช่างไฟมาใส่ตู้เหล็ก อีกฝั่งที่มีมิเตอร์ทันที เพราะเริ่มมีน้ำย้อยลงมาจากผนังกำแพงเหมือนกัน บอกตามตรงว่ากลัวค่ะ (ก่อนช่างไฟฟ้าจะกลับน้องราณีบอกว่า วันที่จะมาติดมิเตอร์ อย่าลืมนำไบก้อนมาฉีดด้วยนะค่ะ ช่างหันมายิ้ม ๆ เลยค่ะ อิอิ ) หลังจากนั้นช่างไฟฟ้าก็กลับ ๒ พี่น้องก็ยืนคุยกับพ่อซักพัก แล้วปิดบ้านขึ้นมาด้านบน บอกตรง ๆ ว่ากลิ่นไหม้มีตั้งแต่ชั้นแรก ถึงห้องนอนราณีและน้องเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ รถมูลนิธิที่ได้แจ้งการไฟฟ้าให้ค่ะ และขอบคุณการไฟฟ้าที่มาได้เร็วค่ะ