สวัสดีครับ
มีเรื่องเล่าการทำงานครับ
วันนี้ระหว่างการทำงาน ผมรู้สึกว่าผมได้ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับเพื่อนร่วมงานด้วยวาจา ประโยคหนึ่งครับ...
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยคนไข้ติดสุราต้องการกลับบ้านและก็จะหนีกลับถ้าไม่ให้กลับ ผมได้รับการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลว่าให้มาดูคนไข้และพิจารณาการกลับบ้านว่าจะได้หรือไม่
เมื่อมาถึงผมก็เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับญาติ และอธิบายทีมว่าจะให้นอนรักษาต่อ จากนั้นก็ได้สั่งการรักษา ...ให้ยานอนหลับแบบฉีด
ระหว่างการดูแลด้วยความรู้สึกเข้าใจว่า เพื่อนร่วมทีมเหมือนความรู้สึก และความต้องการที่จะให้ผู้ป่วยกลับบ้าน โดยที่ความต้องการผมคืออยากช่วยให้ผป ตัดสุราให้ได้
ระหว่างการฉีดยาให้ผู้ป่วยสงบเข็มแรก..
ผมก็หลุดคำว่า...อืมเราต้องรักษานะ อย่าเชียร์ให้ผู้ป่วยกลับบ้านสิ
หลังจากนั้นผมก็ได้รับข้อมูลสะท้อนกลับ และผมก็พยามรับฟัง
ในระหว่างที่ฟัง 10 นาทีแรกผมก็ไม่รู้สึกตัวนัก คิดบ่นใจใจว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องคิดเช่นนนั้น
แต่เมื่อผมพยามมีสติ และรับฟัง คิดว่าทุกคนต้องมีเหตุผลของตนเอง เราคิดไม่เหมือนกันเพราะเชื่อและมองต่างกัน
ในการฉีดยาเพื่อให้ผู้ป่วยสงบครั้งที่สอง ผมก็ได้คุยกับน้องเขา และกล่าวว่าที่ผมพูดไปเมื่อตะกี้ มันแรงไปหน่อยนะ(ขอโทษในใจ) แล้วเราก็ได้เปิดพื้นที่ในการแสดงเหตุผลและความเชื่อของแต่ละฝ่าย เมื่อเปิดใจรับฟัง เราก็เข้าใจที่ไป ที่มาของความคิด
แพทย์
- ต้องการรักษาและบำบัดผู้ป่วย ถ้าเราไม่บำบัดวันนี้วันหน้าก็ต้องรักษาอยู่ อาจจะมาด้วยสาเหตุอื่นๆ ที่ร้ายแรงกว่า
- คนที่ติดสุราเขาก็ต้องอยากกลับอยู่แล้ว เพราะว่าไม่รู้สึกตัวแบบคนปกติ ความคิดเขาก็ต้องกลับเพื่อจะได้ไปดื่มต่อ
- เราน่าจะเข้าใจและมองว่าเขาน่าจะได้รับการบำบัดนะ
- มองว่าต้องทำตามคำสั่งและความต้องการแพทย์
เพื่อนร่วมทีม
- ผู้ป่วยต้องการกลับบ้าน ถ้าไม่ให้กลับก็จะหนี ทำให้ถ้าหนีไปก็อาจจะไม่ปลอดภัย เป็นอันตรายระหว่างทางได้
- การบำบัดให้สำเร็จก็มีหลายปัจจัย สังคม ผู้ป่วยอาจจะกลับไปกินต่อหลังบำบัดได้
- เจ้าหน้าที่มีน้อย ดูแลคนไข้อื่นๆอีกหลายคน อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง ถ้าคนไข้หนีไปเกิดอันตรายก็เป็นความผิดอีก
หลังจากที่ได้ฟังเหตุผลของแต่ละคน ก็ทำให้เข้าใจกันและกัน
แต่ละฝ่ายก็เริ่มมองในมุมคนอื่นๆ และแสดงความเข้าใจ และขอโทษ ผมรู้สึกได้เลยครับว่า ผมต้องขอโทษน้อง..เพราะที่ผมพูดไปอาจจะติดอารมณ์ร้อนๆนิดนึง..
ส่วนผู้ป่วยท่านนี้ผมก็ได้ฉีดยาให้สงบ และเฝ้าดูอาการนาน1 ชม ได้ยาไปทั้งหมด 8 เข็ม(คนปกติได้ไป 2 เข็มก็อาจจะหยุดหายใจได้) แต่คุณลุงก็ยังไม่หลับดี แต่ก็สงบลงมาก
ในที่สุดเราก็ตัดสินใจมัดผู้ป่วยไว้และให้เตียงข้างๆ และญาติช่วยเฝ้า
ครับสรุปประเด็นคือ
- ถ้าเรารู้สึกไม่ดี รู้สึกผิดก็ขอโทษ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
- ยิ่งรู้ตัวเร็วยิ่งดี ลดความเข้าใจผิดหรือขัดแย้งได้มาก
- ถ้าเราขอโทษได้ แปลว่าเรารู้ตัวเอง และลดความเป็นตัวตนออกไป โดยมองคนอื่นด้วยความเข้าใจ
- การรับฟัง การยอมรับในเหตุผลของคนอื่นๆ จะทำให้เราเข้าใจกันและกันมากขึ้น
ขอบคุณครับ...
หวัดดีจ้า น้องชายที่รัก ...
น่ารักมากเลยจ้า ...พี่ดีใจนะ ...ที่น้องรู้ตัวเร็วดี ...และไม่ได้ปล่อยไว้เนิ่นนาน ..เหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้ ไม่บ่อยนักที่จะจบสวย ..
ส่วนใหญ่ ...จะบาดเจ็บ (ที่ใจ) กันไปทั้งสองข้าง ทั้งกินแหนง ทั้งแคลงใจ ..
พี่มาชื่นชมค่ะ ...
สวัสดีครับคุณทะเลใจ
ขอบคุณมากๆครับที่แวะมาแบ่งปันความเห็นครับ
ดีใจมากครับ
จะตามอ่านบันทึกคุณนะครับ
ความรู้สึกที่เกิดขึ้น คิดว่าเรากำลังเป็นผู้เดินทางครับ
ในจินตนาการแล้วเราก้อยากให้ทุกอย่างดีงาม ราบรื่น แต่ความจริงของเราก็คือ เราอาจจะยังไปไม่ถึงไหน การเดินทางต้องฝึกฝนมากๆคครับ
สวัสดีครับคุณ Naree
- ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเพิ่มเติม
-และย้ำจุดที่สำคัญครับ
- จะพยามเดินไปเรื่อยๆครับ เส้นทางนี้อีกยาวไกลมากๆเลยครับ
อืม แต่ถ้ามีสิ่งวิเศษช่วยให้คลิ๊กเร็วกว่านี้หน่อยก็น่าจะดีนะครับ สิ่งวิเศษก็น่าจะเป็นตัวเราเองใช่หรือเปล่าครับ
สวัสดีครับพี่กุ้ง
ขอบคุณมากๆครับ
พี่ใจดีเสมอสำหรับผมครับ
พี่ครับ การเรียนรู้ ไม่มีสิ้นสุดจริงๆครับ ดดยเฉพาะการเรียนรู้ภายในตัวตนของเราเอง มันช่างยิ่งใหญ่มากจริงๆครับ
จะค่อยๆก้าวไปครับ
สวัสดีครับ น้องสุพัฒน์
สวัสดีครับ...
ลืมไป... พี่มาชวนไปเที่ยวทุ่งหน้าน้ำ ... "ดำนา" ที่นี่นะครับ
ขอโทษ อยากจะให้ลงรูปประกอบ
ขอโทษ อยากจะอ่านแนวนี้อีกมากๆ เพราะหาคนเขียนดีเหมือนหมอยาก
ขอโทษ แทนคนไข้ แต่ดีใจได้อ่านประสบการณ์ตรงของหมอชนบท
ขอโทษ ที่ขออีกๆๆๆ
สวัสดีเจ้า..คุณหมอ
คำขอโทษถ้าพูดบ่อยเกินไปจะกลายเป็นการไม่เห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำผิด..
แต่คำขอโทษที่กลั่นออกมาจากความรู้สึก สำนึก และรู้ตัวเอง...น้อยคนนักที่จะคิดและขอโทษได้อย่างจริงใจ
ถ้าทำผิดก็ต้องขอโทษ
แต่ถ้าไม่ทำผิดก็ไม่ต้องขอโทษ...
---^.^---