ก่อนที่จะได้นำเสนอภาพตัวอย่างตามที่ลงท้ายของบันทึกเมื่อวาน ขอนำข้อมูลที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง "การปลูกไม้เชิงเศรษฐกิจ" จากหนังสือ "เคหการเกษตร" ฉบับที่ 9 เดือนกันยายน 2550 โดยเป็นข้อมูลจากคำให้สัมภาษณ์ของนักวิชาการผู้ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ "ไม้เศรษฐกิจ" ประเด็นที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
ดังนั้น ภาพที่นำเสนอต่อไปนี้ อาจมีบางส่วนที่แสดงถึงวิถีชีวิตและตัวตนของตัวครูเองด้วย ทั้งนี้ เพื่อมิให้เข้าลักษณะของ "สอนแต่ปาก" หรือ " สอนจากตำรา แต่ครูเองทำไม่ได้" และที่สำคัญ เป็นการยืนยันแนวคิดตามหัวข้อ "ต้นไม้ บำนาญชีวิต เพื่อเรา คนที่เรารัก ชุมชน และแผ่นดิน" ให้ชุมชนเห็นเป็นประจักษ์เพื่อความมั่นใจด้วยครับ
ต้นแบบป่าบำนาญชีวิต ณ มหาชีวาลัยอีสาน
ครูบาใหญ่ในเรื่อง"ยางนาบำนาญเพื่อชีวิต"คนดัง ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธิ์
ยางนาเพื่อชีวิต ของพ่อพูลสวัสดิ์ สถานพงษ์ บ้านหัวเสือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
ยางนาเพื่อชีวิต(ลูก) ผสมผสานกับไม้เศรษฐกิจชนิดต่างๆของคุณประสาร สว่างภพ บ้านหัวเสือ อ.ขุขันธ์
เรือนยอดแสนสวยและเปี่ยมค่าของยางนาอายุ 16 ปี ที่วัดโคกเพชร
ชีวิตบั้นปลายอันมั่นคงจากผลงานด้านป่าไม้ตามหัวไร่ปลายนา ของพ่อกลั่น แม่สรัน รับรอง แห่งบ้านจันลม อ.ขุขันธ์
เด็กๆควรต้องได้รับรู้และเข้าใจในวัตถุประสงค์และเป้าหมายแห่งชีวิตของครอบครัวด้วย
เพราะทั้งเราและเขานั่นแหละ คือ "ผู้รับผลประโยชน์ตัวจริง"
สวัสดีค่ะท่าน ผอ...ครูวุฒิ
อ่านบันทึกนี้แล้วชื่นใจ ที่ท่านได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงค่ะ
ครูอ้อยขอปรบมือให้และเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
สวัสดีครับครูอ้อย
สวัสดีค่ะคุณครูวุฒิ
ชื่นชม และชื่นใจ กับข้าในพระองค์ ที่ทำตามรอยเท้าพ่อได้ดีเยี่ยม เห็นเด็กๆ แล้วน่ารักมาก ช่างปั้นคงปั้นด้วยวิญญาณแห่งความเป็นครูที่แท้จริง ขอปรบมือต่อจากครูอ้อยนะคะ ให้เสียงดังไกล ไปทั่วแผ่นดินค่ะ
สวัสดีครับครูกั๊ดจัง
สวัสดีครับคุณบุญรุ่ง
สวัสดีค่ะ
ครูวุฒิ เป็นครูที่เก่งมากค่ะ ขอยกย่อง
ขออนุญาตนำเรื่องต้นไม้ บำนาญชีวิตเพื่อเรา คนที่เรารัก ชุมชน และแผ่นดิน
ของครูวุฒิ ไปlink ที่บันทึกด้วยนะคะ
สวัสดีครับคุณรักษ์
สวัสดีครับครูเสือ
ขอบคุณค่ะ
วิกิพีเดีย คะ
สวัสดีครับครูอ้อย
สวัสดีครับท่านอาจารย์ขจิต
สวัสดีครับคุณนารี
แย่จริง ออตเพิ่งอ่านบันทึกนี้
ตอนนี้กำลังเพาะครับ
สวัสดีครับ พอดีหลงทางมาแถวนี้
ก็ให้ดีใจว่า ชุมชนรากหญ้ามีความเข้มแข็งกันอยู่
มีคนพยายามทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อผู้อื่น ทำเพื่อคนหมูมาก ไม่ใช่เพื่อนายทุน
มีจิตอาสา มีจิตสาธารณะ
แต่ก็ให้สะท้อนใจว่า มันมีอะไรบางอย่าง ที่ยังไม่สมบูรณ์
ตรรกะที่ขัดแย้งกัน
ระหว่างเรื่อง
"ไผ่เลี้ยงหวานสีทอง เป็นพืชเศรษฐกิจนำรายได้เพื่อการใช้สอยประจำวัน(ตลอดปี) ยูคาลิปตัส เป็นพืชเศรษฐกิจให้เงินก้อนระยะ 3-4 ปี/ครั้ง(สามารถวางแผนปลูกแบบให้มีรายได้ปีละอย่างน้อย 1 ครั้งได้) ยางนา ตะเคียนทอง และไม้ป่าอื่นๆ เป็นไม้แบบบำนาญชีวิตและมรดกสำหรับลูกหลาน ส่วน "ข้าว" ใช้เป็นทุนสำรองเลี้ยงชีพระหว่างปี"(ไม่ใช่ใช้เป็นรายได้หลักอย่างทุกวันนี้และที่ผ่านมา"
กับคำกล่าวอ้างถึง มจ.สิทธิพร ที่ว่า "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง"
เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องการทำเกษตร เพื่อหารายได้ (เงิน) แต่เราต้องการทำเกษตรเพื่อหาข้าวปลา เพื่อการพึ่งตน เพื่อการเป็นอิสระ เพื่อไม่ต้องขึ้นกับกลไกตลาด พ่อค้าคนกลาง นายทุนเอารัดเอาเปรียบ ต่างประเทศที่ไม่เคยเห็นหัวเกษตรกร ฯลฯ ต่างหากครับ
ผมว่าแนวความคิดที่คุณครูกล่าวมา จึง ฟังดู กลับหัวหลับหาง
ด้วยประสบการณ์ที่มีน้อยกว่ามากนัก จึงอยากรับฟังข้อคิดเห็น ข้อชี้แนะ เพิ่มเติม ครับ
ปล. เรื่องเอาข้อมูล วิทยาศาสตร์ งานวิจัย มาอ้างอิงเป็นเรื่องดีครับ
แต่ต้องศึกษาให้ละเอียด รอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง "ผลประโยชน์แอบแฝง" สิ่งที่ "เขาเล่าว่า" นั้นไม่พอครับ เราต้องหาทางพิสูจน์ให้เห็นกระจ่าง ไม่งั้นก็น้ำตาตกในสำหรับเกษตรกรไทยอีกเหมือนเดิม
24. เต้
เมื่อ อ. 13 พฤษภาคม 2551 @ 13:51
651717 [ลบ]
ไม้สักเอามาทำกระดาษกล่องได้ไหมครับต้นทุนการทำเท่าไรครับครูวุติ
ดีใจที่ครูมีกิจกรรมดีดีให้เด็กๆๆ
สวัสดีครับ
ผมขอชื่นชมผู้นำมีจิตวิญญานในการรักต้นไม้ และปลูกจิตให้เด็กรักต้นไม้ครับผมเองชีวิตที่เหลือก็จะเพาะและปลูกให้มากเท่าที่จะทำได้ครับ
พอดีมีการจัดอบรมนักวิจัยชาวนาครั้งที่สองนี้ ผมในฐานะคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาทำงานเล็กๆน้อยๆ เราจะเน้นการปลูกต้นยางนา หลังประชุมหนึ่งวันผมไปเห็น ต้นยางนาที่เด็กกำลังกอดอยู่ สวยมากครับ ใกล้ๆมีสวนของพี่ประสารที่น่าเรียนรู้ สิ่งหนึ่งที่ได้จากการแอบฟังอยู่ห่างๆจากเวทีชาวนาภิวัตภ์ครั้งนี้ เป็นสิ่งดีๆทั้งนั้นครับ ไม่ว่าการปลูกต้นไม้ แนวคิดต่างๆ สุดยอดมากครับ คุณพ่อทองนาค โมรินทร์ พูดในฐานะผู้อาวุโสขนลุกเลยครับ ถือว่าโอกาศนี้เป็นประการณ์ที่มีค่ามากครับ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่มีค่า จะหาฟังอะไรแบบนี้ไม่ง่ายเลยครับ เสียดาย ที่แนวคิดพวกนี้เข้าไปสู่ชาวนาไทยช้าเหลือเกิน จะมีกี่คนที่นำความคิดเหล่านี้ไปทำอย่างจริงจัง ผมลงไปในเกือบทุกพื่นในฐานะผู้ประสานงานที่เห็นหลายคนทำเริ่มแล้ว ผมว่าเรามีเวทีน้อยเกินไป ที่จะเอาคนกลุ่มนี้มาเจอกัน ระหว่างคนที่มาประชุมครั้งแรกวันที่ 25 ตุลา กับคนที่ไปดูงานที่บ้านพ่อคำเดื่อง เท่าที่ไปดูมาคนที่ไปดูงานที่บ้านพ่อคำเดื่องทำได้ดีครับ แต่คนที่มาวันที่ 25 บางคนมาเพราะเป็นหน้าที่ครับเช่นเป็นผุ้นำชุมชนก็เลยไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าให้ประเมินแล้ว ผมค่อนข้างพอใจกับการปรับตัวของชาวนาที่เข้ามาเป้นเครื่อข่ายพอสมควรครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจไปทุกที่ ทุกหมู่บ้าน ต้องมีรถขายกับข้าวทุกที่เลยครับ ทำไมชาวบ้านยังซื้ออยู่ ทำไม่ชาวบ้านไม่ปลูกกินเอง ทำไมชาวบ้านใช้ที่ดินที่มีอยู่ไม่ค้มค่า ผมไปเจอป้าแก่ๆคนหนึ่งที่ปลูกผักขายอย่างละเล็กละน้อยที่ดินหนึ่งไร่ตรงนั้นแก่จะมีรายได้ประมาณวันละ200-300 บาทที่ดิที่ไม่ถึงไร่ทำรายได้ไม่ตำกว่าแสนบาทต่อปี กับยายที่หมู่บ้านผมพื้ที่ 20 ตารางเมตรมีรายได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยบาทต่อวันปลูกพื้ให้ดูแลกันและกันแซมกันเข้าไปกับพื้ที่เล็กๆแค่นั้นมีรายได้ไม่ต่ำกว่ปีละ สี่หมื่นบาท ผมเคยเขียนความเล่นๆ ว่าทำไม่คนขุขันธ์ต้องซื้อผักคนโคราชกิน คนขุขันธ์ไม่ใช่เกษตรกรหรือ ตนขุขันธ์ปลูกผักกินไม่เป็นหรือ คนขุขันธ์ปลูกผักน้อยไปหรือ หรือว่าคนขุขันธ์ยังไม่ตื่น กับผักที่นำมาจากโคราชไม่ตำกว่าวันละหนึ่งคันสิบล้อก็ไม่ใช่ว่าเป็นผักที่ปลุกไม่ได้ในขุขันธ์ และที่เจ็บปวดกว่านั้นผักบางอย่างเป็นผักที่ขนไปจากกันทรลักษณ์ คนขุขันธืเป้นเกษตรกร แทนที่จะปลูกผักขายแต่กลับกลายเป็นซื้อผักกิน หลายคนที่เข้ามาทำกินที่ขุขันธ์ ไม่ว่าจะเป็นคนเหนือ คนใต้ อุบล มีฐานะ ชวนพี่ชวนน้องมาอยู่ที่นี้ และยิ่งไปกว่านั้นก็มีห้างมาเปิดอีก เมือเงินที่เข้ามาขุขันธ์ ส่วนใหญ่มาจากข้าราชการและเงินจาการขายผลผลิตทางเกษตรอันได้แก่ข้าวเป็นส่วนใหญ่ เมือข้าราชการเข้าห้าง เงินก็หมุนไปที่ไหนไม่รู้ เมื่อเงินที่เคยหมุนในขุขันธ์ หมุนไปที่อื่น แทนที่จะหมุนไปสู่ชมชน ชาวบ้านเข้าห้างเงินก็หมุนไปที่อื่น ซื้อผักโคราชเงินก็หมุนไปโคราช แสดงว่าอีกไม่กี่ปี คนขุขันธ์จะจนลงอีก ถ้าคนขุขันธ์ไม่ช่วยคนขุขันธ์ใครจะช่วยคนขุขันธ์ คนขุขันธืครับ เมื่อไหร่คุณจะตื่น ตื่นมาช่วยกันป้องกัน ตื่นเข้ามาทำให้ขุขันธ์เป็นเมืองที่มั่งคั่งยั้งยืน เป็นเมืองที่อู่ข้าวอู่นำของคนที่อืน ไม่ใช่ให้ที่อื่นเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนขุขันธ์ ห้างจะเจ้งก็เจ้งไป ผักโคราชขายไม่ได้เราก็คงไม่เดือดร้อน และอีกอย่างครับ ฝากไปถึงร้านค้าปลีกครับ ถ้าร้านค้าปลีกทุกร้านในขุขันธ์เลิกขายเหล้า ถามว่าใครจะได้รับความเดือดร้อนจากการไม่มีเหล้าครับ ระบายเล่านะครับ