แนวโน้มการพัฒนาบุคลากรในอนาคตจากการพัฒนาความรู้ ทักษะและพฤติกรรมไปสู่การพัฒนาทัศนคติ แรงจูงใจและอุปนิสัย
ทั้งนี้เพื่อให้คนหาความรู้เอง พัฒนาทักษะด้วยตนเอง รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไปตามทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไป องค์กรทุกองค์กรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเจาะเข้าไปพัฒนาที่จิตใจของคนให้มากขึ้น องค์กรต้องหวังผลในการพัฒนาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะว่าถ้าเราประสบผลสำเร็จในการพัฒนาภายในจิตใจของคนแล้ว การพัฒนาสิ่งที่อยู่ภายนอกไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
การพัฒนาตนเอง เป็นแนวทางหนึ่งที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งในปัจจุบันได้ เป็นแนวทางที่มุ่งเน้นการพัฒนาจิตใจเพื่อสร้างแรงจูงใจในชีวิตของคนก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด ในการพัฒนาแบบนี้คือ ตัวพนักงาน แต่อย่าลืมว่า ถ้าพนักงานมีแรงจูงใจในชีวิตอยู่แล้ว ผู้ที่ได้รับประโยชน์ในลำดับต่อมาก็หนีไม่พ้นตัวองค์กรนั่นเองครับ
การพัฒนาแนวทางนี้จะเน้นการค้นหาตัวเอง การวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง ของตัวเอง การกำหนดเป้าหมายในชีวิต การกำหนดแนวทางไปสู่เป้าหมาย รวมถึงการจัดทำแผนการดำเนินชีวิตที่เป็นรูปธรรม พูดง่ายก็คือให้คนพัฒนา-บริหารชีวิต ตนเองก่อนนั่นเอง ย่อมเป็นที่แน่นอนว่าถ้าคนมีแผนการบริหารชีวิตที่ดีแล้ว ย่อมสามารถเชื่อมโยงเป้าหมายชีวิตเข้าสู่เป้าหมายในการทำงานขององค์กรได้ไม่ยากนัก นอกจากนี้ ถ้าคนสามารถบริหารชีวิตตนเองได้ การบริหารคนบริหารงานก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไปนะครับ
ณ.ปัจจุบันองค์กรโดยเฉพาะในภาครัฐ จำเป็นต้องเปิดใจกว้างให้มากขึ้น อย่าคิดว่าต้องพัฒนาฝึกอบรมบุคคลากรเฉพาะหลักสูตรที่เป็นประโยชน์กับองค์กรเพียงอย่างเดียว ในอดีตที่ผ่านมาเราคิดแบบนี้ แล้วการพัฒนามันได้ผลหรือไม่ ถ้าหากจะลองตอบว่าไม่ ทำไมไม่ลองพัฒนาในแนวทางใหม่ดูบ้าง การที่องค์กรส่งเสริมให้พนักงานมีการพัฒนาชีวิตตนเองก่อนนั้น นอกจากจะทำให้คนเกิดแรงจูงใจในการทำงานแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่องค์กรจะรับได้คือ ได้รับรู้ว่าคนแต่ละคนมีเป้าหมายชีวิตเป็นอย่างไร มีอะไรบ้างที่องค์กรสนับสนุนให้เขาเหล่านั้นบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้นั่นเอง
บุคลากรที่ทำงานเก่งและทำงานดีในองค์กรนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่คนฯนั้นมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน และมีแรงจูงใจในชีวิตที่เกิดจากแรงจูงใจภายใน ไม่ใช่แรงจูงใจภานอก ใครก็ตามที่ทำงานเพราะมีแรงจูงใจจากภายนอก คนฯนั้นโอกาสเปลี่ยนแปลงมีมาก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ชีวิตได้เติมเต็ม ในสิ่งที่ต้องการแล้ว แรงจูงใจจะลดน้อยถอยลงหรือหายไปเลย
แต่คนใดมีแรงจูงใจที่เกิดจากภายในแล้ว นอกจากจะไม่ลดไปตามการเติมเต็มของชีวิตแล้ว มันกลับจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าเขาจะตั้งเป้าหมายชีวิตที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น ความท้าทายในชีวิตอย่างหนึ่งของคนคือ การทำงาน เพราะการทำงานถือเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งที่เขาต้องการประสบผลสำเร็จ
การพัฒนาคนแบบ Inside Out Approach จึงเป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาคนโดยมุ่งนั้นการพัฒนาจากภายใน (ทัศนคติ แรงจูงใจ อุปนิสัย ) สู่การพัฒนาภายนอก (ความรู้ ทักษะ พฤติกรรม ) เพราะถ้าเราสามารถพัฒนาสิ่งที่อยู่ภายในใจของคนได้แล้ว การพัฒนาความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมของคนก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอนครับ
(กรุณาช่วยเติมเต็มด้วยครับ ขอบคุณครับ)
สวัสดีครับน้องอ้อยควั่น ดีใจสุดฯฯที่มาแวะเยี่ยม และลปรร. ขอบคุณมากครับ
ก็น่าคิดเหมือนกันนะ...