ความรู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยู่ในมือใครก็ตาม ย่อมอาจถูกตรวจสอบได้เสมอ มี 'ศักดิ์และสิทธิ์' เท่ากันหมด
ศ. ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ เขียนเรื่อง การปฏิวัติทางญาณวิทยา ลงในมติชนสุดสัปดาห์ น่าอ่านมากสำหรับคอ KM คลิกอ่านได้ที่นี่ http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=0415150748&srcday=2005/07/15&search=no
สรุปว่านัก KM ต้องไม่อ้างว่าตนเป็นผู้รู้แต่ผู้เดียว และความรู้ไม่มีการผูกขาด
วิจารณ์ พานิช
๑๕ กค. ๔๘
ความเห็น
ดร.นิธิ เป็นปราชญ์ที่ผมนับถือแทบจะมากที่สุดในเมืองไทย
จะรองก็แต่ หมอประเวศ และเจ้าคุณประยุทธ์ เท่านั้น
อ่านบทความที่แนะนำแล้ว ผมรู้สึกว่า เรื่องวัฒนธรรม เป็นเรื่องที่เปลี่ยนยาก
เหมือนมีกลไกบางอย่าง ที่คอยหน่วงไว้ ไม่ให้เกิดการเปลี่ยนวิธีคิดของคน
คนไทยส่วนใหญ่ ยังเชื่อ "ผู้รู้" มากกว่า "กระบวนการหาความรู้" ส่วนนึง
อาจมีอิทธิพลจากวัฒนธรรมฮินดู ในคัมภีร์พระเวท และการตีความศาสนา
พุทธแบบสอดคล้องกับฮินดู คือ เชื่อพระพุทธเจ้า เชื่อพระสงฆ์เป็นหลัก
แทนที่จะ พิสูจน์เองแบบ "ท่านจงมาดูเถิด" และหลักกาลามสูตร
กระบวนการ KM ก็อาศัยทั้ง "ผู้รู้" (เน้นความรู้ในตัวคน) และ "กระบวนการ
หาความรู้" คือนำมาทดลองปฏิบัติตาม เพื่อเข้าใจ และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
เครื่องมืออย่าง "ตารางอิสรภาพ" ไม่มีการผูกขาดว่า ต้องได้แบบนี้ๆ เท่านั้น
แต่ทั้งตัวเกณฑ์ และตัวขุมความรู้ สามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ตลอด
ผมจึงเชื่อว่า หากคนได้ใช้ การจัดการความรู้ มากๆ เข้า ก็น่าจะมีการเปลี่ยน
กระบวนทัศน์ ไม่ยึดติด ไม่ผูกขาดความรู้ได้