วันพระที่สาม
พระท่านเทศน์เรื่อง "ความเห็นชอบ" สำหรับพุทธศาสนิกชนแล้ว พระพุทธเจ้าท่านให้ธรรมะถึง “ความเห็นชอบ” ว่า คนเราต้องใช้สมองและสติในการไตร่ตรองถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ สัมผัส กับชีวิตของเราอย่างรอบคอบ
ในขั้นพื้นฐาน ความเห็นชอบในรูป รส กลิ่น เสียง ก็ต้องใช้ความใส่ใจเป็นพิเศษ หากไม่ใส่ใจก็จะทำให้เราเห็นผิดเป็นชอบได้ เริ่มต้นจากการพิจารณาตัวตนของตนเองเป็นอันดับแรก ต้องใส่ใจ ดูแลให้ถูกต้อง ไม่นำพาตัวเองไปสัมผัสกับสิ่งไม่ดี หรือ เป็นอันตราย
ในขั้นถัดไป ความเห็นชอบในความประพฤติ ปฏิบัติชอบ เช่น ในครอบครัวเราก็ต้องประพฤติดี ปฏิบัติดีต่อพ่อแม่ ผู้มีพระคุณต่อเรา ในสถาบันต่าง ๆ ของสังคม เราก็ต้องประพฤติ ปฏิบัติดีต่อหน้าที่ หรือสถานะที่เราเป็นอยู่ เป็นต้น ในขั้นสูงขึ้น ก็คือ ความเห็นชอบต่อการทำความดี และความเกรงกลัวต่อการทำชั่ว หากคนเรายังไม่มีความเห็นชอบต่อการทำความดีแล้วก็จะทำให้ไม่เกรงกลัวต่อการทำชั่ว และถ้าเราเห็นชอบในการทำความดีก็จะทำให้สังคมมีความสุข ไม่มีการทะเลาะวิวาทกันในขั้นสูงสุด คือ ความเห็นชอบในบุญ – บาป หลายคนสงสัยในบุญ – บาป ว่ามีจริงหรือไม่ พระพุทธเจ้าท่านว่า ความสุข ความสบายใจ การทำดีอย่างบริสุทธิ์ใจ ก็คือ บุญ ความทุกข์ ความกังวลใจ ไม่สบายใจ คือ บาป นั่นเอง ดังนั้น ไม่ว่า บุญ หรือ บาป ก็เห็นกันได้ในปัจจุบันกาลไม่ต้องรอถึงชาติหน้าหรือชาติไหน ๆ