เมื่อวานนี้ ...... ๙ กย ๕๐ ได้มีโอกาส ไป เล่านิทาน (ใช้แบบนี้ ดีกว่า คำว่า บรรยายเยอะเลย) ที่ ชุมชนเพลินพัฒนา ( ใช้คำว่า ชุมชน ดีกว่า โรงเรียน เยอะเลย มันเปิดกว้าง ว่า ไม่ใช่ว่าต้องเรียนที่โรงเรียนเท่านั้น มันเปิดกว้างว่า ทุกคนมีส่วนร่วมต่อการเรียนรู้ ไม่ใช่แต่ ครูและนักเรียน แต่รวมไปถึง พ่อแม่ ชุมชน สังคม ฯลฯ ด้วย)
หัวข้อง่ายๆ
-
เข้าใจความแตกต่างให้ได้ก่อน จากนั้น ก็จะ เคารพความแตกต่าง
อันนี้ ประยุกต์ไปใช้ ว่า อย่าเอาความคิดของเรา (ครู พ่อแม่) ไป ครอบ เด็กๆ พัฒนาพวกเขาด้วยการดูศักยภาพ และ สนับสนุนให้ไปถึง ฝัน ถีงเป้าหมาย
- เน้นแล้วเน้นอีกว่า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ แยกแยะ กุศล อกุศล ให้ได้ก่อน จะสนับสนุนอะไร จะทำอะไร เรียนอะไร เป็นอะไร ฝันอะไร ฯลฯ ก็ดู จิตด้วย แยกแยะ กุศล อกุศล ให้ได้ นะ
- เน้นคำว่า จิตอาสา อีกหน่อย จะไปเป็น จิตสาธารณะ และ ได้ "จิตว่าง" เป็นรางวัล
- ใช้เทคนิค เทเลทับบี้ คือ สอนวนไป วนมา ซ้ำๆ เพราะ ครูหลายคน อาจารย์มหาวิทยาลัยหลายคน ชอบทำ "สันดาน"แบบ
- ตลุยรวดเดี่ยวจบ ทำตัว ราวกับว่า "ให้ แม่ ง จบๆ คาบนี้ไป"
- "พวกแก (คนเรียน) เป็นภาระ ของ ข้า (อาจารย์) สะเหลือเกิน"
- "ถุยๆ เขี่ยๆ power point ให้จบๆไป เบื่อเหลือเกิน !!!"
- อื่นๆ
- อิทธิบาท ๔ สำคัญมากๆ
-
ปิยวาจา ใช้ สะตรอเบอแหล ให้มากๆ ไม่ผิดศีล เพราะ จิตบริสุทธิ์ ทำประโยชน์ เป็นปิยวาจา เป็นกุศล
-
Child center ก็ คือ อิทธิบาท ๔ นี่แหละ ฉันทะ คือ ยั่ว ยั่วให้อยากเรียน
- วิริยะ ต้องใช้ ปิยวาจา ทำให้มีกำลังใจ กระตุ้น ฝืนเรียน เข้าใจเป้าหมาย สานฝัน รู้ศักยภาพของตน ฯลฯ จนรักเรียนได้ในที่สุด
- จิตตะ มี"สติ" ดีดนิวรณ์ออกไป
- มี วิมังสา คือ PDCA และ เฉลียวใจบ้าง
- การศึกษาไทย "ฉลาดลึก โง่กว้างขวาง" "มีแต่ทำลาย เสพ ใช้ บริโภค สุดท้าย น้ำท่วมโลก" ..... (ตอนเขียน blog นี้ แผ่นดินไหว ที่อินโดฯ แรงมาก คนบนตึกสูง สีลม ยังตกใจกันใหญ่เลย)
- พรบ การศึกษา เปิดกว้างแล้ว เราไม่กล้าเปลี่ยนแปลงเองต่างหาก ....
- วงจร โนนากะ คุย คิด คลิก คลำ
- ครู ผู้ปกครอง ไม่คุยกันดีๆ มีแต่ โหมดรบใส่กัน
- ก็ครูอยาก ไปเอา เงินแปะเจี๊ยะเขามานิ ผู้ปกครองเขาก็ต้องเอาคืน .... เช้า พ่อแม่ถีบลูกลงหน้าโรงเรียน โยนภาระ ดัดสันดานลูก ผลการเรียน ฯลฯ ให้ครู เย็น มาเก็บกลับ ไป อัดต่อที่บ้าน .... กรรมของนักเรียนจริงๆ
- พ่อแม่ลูก ไม่คุยกันดีๆ .... หมู่บ้านเดียวกัน ก็ไม่คุยกัน
- ผมเอาคำ ครูฯ ไป ใช้ คือ "ถ้ายกเลิก โรงเรียนในระบบทิ้งหมดเลย" จะมีการปฏิรูปการศึกษาเกิดขึ้นแน่นอน ทุกคนจะช่วยกันเรียน วิธีคิดจะเปลี่ยน
- โลกในอนาคตมีแนวโน้มว่า จะ ไม่มีมหาวิทยาลัย เพราะ ถ้าพวกอาจารย์ ทำได้แค่ เอาเนื้อหา ตำราคนอื่นมา "สอบความจำ" แก้โจทย์ที่ตนตั้งไว้ หรือลอกเขามาแบบนี้ คนในโลก จะพึ่พา ระบบ Internet เรียนรู้กันเองได้ ไม่ง้อ อาจารย์ .....
- พวกอาจารย์ ไม่พัฒนา ทางวิชาการ ไม่พัฒนากระบวนการเรียนรู้ ไม่พัฒนาอารมณ์ และ สติ (คุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ อัตตามากมาย เจ้าใหญ่นายโต เจ้ายศ เจ้าอย่าง เรื่องมาก ชี้นิ้วสั่ง ทะเลาะกันเองให้นักศึกษาเห็น ฯลฯ) ไม่พัฒนาคน (ยัดแต่ วิชาการ ไม่ สอนให้เกิด "จิตอาสา") ฯลฯ ศรัทธา ที่มีต่ออาจารย์ ก็จะลดลงเรื่อยๆ ...... อย่างเข็มขัดสั้นจริงๆ
- และ อีกหน่อย ครู อาจารย์ ในระบบจะหมดไป เพราะ ครูที่แท้จริงที่เก่งมาก่อน คนจึ่งเรียกว่าครู เช่น ทำหม้อเก่ง เป็นครูช่างหม้อ ฯลฯ ครูไทย เก่งเรื่องอะไร ? เก่งเรื่องสอน แล้วทำไมไม่สอนเรื่อง learn how to learn หรือ เรียนแต่ How to สอน ไม่รู้จัก how to learn
- มีเรื่องเข็มขัดสันอีกมาก อย่าประมาท ปฏิบัติธรรมให้มากๆ
- ฯลฯ
จำได้แค่นี้ คงต้องรอ VCD ที่ ทางโรงเรียนถ่ายเอาไว้
คนไร้กรอบ โดนล้อมกรอบ
ครูใหม่ แต่ เอ๊ะ ทำงานมานานแล้วนี่ ทำไม ใหม่ล่ะ
นี่แหละ ชุมชน ครู + ผู้ปกครอง + นักเรียน + ชุมชน
สุนทรียสนทนากันบ่อยๆนะครับ ........ เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน การทดลองย่อมเกิดขึ้น .... "คิดต่าง ไม่ใช่ต่อต้าน"