ณ Thailand Research Expo 2550


ฉันจะทยอยเอาเรื่องราวงานวิจัยที่ได้จากงานนี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องๆ ไป เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกสำลักข้อมูลที่หยิบมาจนแน่นกระเป๋า... จนไม่รู้จะเล่าเรื่องอะไรก่อนดี

ตามที่ได้เอื้อนเอยไว้ในบันทึกที่แล้วว่าจะไปงานนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2550  ที่จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หรือสภาวิจัย  ณ ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเลิลด์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ  ระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 50 ท่านที่สนใจยังมีเวลาวันนี้อีกหนึ่งวันกับการไปเที่ยวชมงานได้ 

ฉันออกเดินทางจากที่พักแถบคลองหลวง ซึ่งอยู่คนละฝั่งเมืองกับที่จัดงาน  แต่การเดินทางสะดวกสบายแม้อยู่ไกลกัน เพราะมีบริการรถตู้โทย์เวย์ และรถไฟฟ้า  แต่กว่าฉันจะไปถึงหน้างานได้ก็บ่ายโมงกว่า  เกือบถึงเวลาเข้าห้องบรรยายภาคบ่ายแล้ว  เหตุที่หงุดหงิดเพราะฉันหลงทางอยู่ในห้างนานเหลือเกิน  ฉันไม่รู้ว่าไอ่ศูนย์ประชุมนี้มันอยู่ส่วนไหนของเซ็นทรัลเวิลด์  ก็นี่เป็นการไปครั้งแรกของฉันนี่นา  แต่ทางอยู่ที่ปากสุดท้ายฉันก็ไปถึงได้... 

ไปถึงหน้างานฉันเห็น  ด.ญ.พอเพียง  ซึ่งเป็น Mascot ของงานในปีนี้ กับ คุณพิรุณ อดีต Mascot เดินไปเดินมาต้อนรับผู้เข้าร่วมอยู่หน้าซุ้มลงทะเบียน  จำนวนคนมางานค่อนข้างมาก  แถวลงทะเบียนสำหรับคน walk in ค่อนข้างยาว ถึงแม้ว่าจะเตรียมไว้หลายช่องก็ตาม  ระบบการลงทะเบียนเป็นระบบบาร์โค้ต  โดยระบุว่าจะเข้าฟังสัมมนาในห้องไหน เมื่อกรอกเอกสารลงทะเบียนเสร็จก็ต้องไปยืนต่อแถวเพื่อรอรับบาร์โค้ต  และกระเป๋าใส่เอกสาร ฉันเพิ่งทราบความหวังดีของผู้จัดงานในการแจกกระเป๋าก็ตอนที่ฉันเดินดูนิทรรศการจนจบ เอกสารแทบล้นกระเป๋า ถ้าไม่มีเจ้ากระเป๋าสีเขียวของงานฉันคงหอบของพะรุงพะรังกลับบ้านแน่นอน

จริงๆ แล้วงานนี้มีการประชาสัมพันธ์ให้ลงทะเบียนเข้างานล่างหน้าหลายเดือน  ซึ่งคนที่ลงทะเบียนก่อนก็จะมีความสะดวกสบายในการเข้าร่วมงาน  แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้าก็ต้องยืนกรอกเอกสารและต่อแถวกันนานหน่อยกว่าจะได้เข้าร่วมงาน  สำหรับฉันรู้ล่วงหน้าแล้วกับกระบวนการลงทะเบียน  แต่ด้วยความไม่แน่ใจว่าตัวเองจะได้มาหรือเปล่า จึงไม่อยากลงทะเบียนไปกันที่กันทางคนอื่น ...

การจัดงาน  แบ่งออกเป็น  2  ส่วนใหญ่  คือ  ส่วนนิทรรศการ ซึ่งจะมีคู่มือการเข้าชมแจกเมื่อลงทะเบียน (แยกกับการลงทะเบียนเข้าฟังสัมมนา)  และส่วนห้องประชุม  เป็นเวทีนำเสนอผลงานด้วยปากเปล่าและบรรยายพิเศษต่างๆ  ซึ่งแบ่งเป็น  3  ห้อง คือ ห้องใหญ่  ห้องกลาง  และห้องเล็ก 

ฉันเลือกเข้าฟังบรรยาย เรื่อง  ดัชนีเครื่องชี้วัดจิตใจคนไทยตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง  ฉันคาดหวังว่าจะได้รู้ว่าดัชนีที่ใช้วัดจิตใจคนไทย คืออะไร  เอาไปใช้อย่างไร  และภาวะจิตใจคนไทยงานวิจัยชิ้นที่เป็นอย่างไร  ฉันอยากเห็นเครื่องมือที่นำเสนอการวัดสิ่งที่เป็นนามธรรมออกมาเป็นรูปธรรมโดยผ่านกระบวนการวิจัยที่ถูกต้อง  แต่ผิดคาด...งานวิจัยนี้อยู่ภายใต้แผนงานการพัฒนาหลักสูตรการวิจัยแบบบูรณาการและการสร้างนักวิจัยขั้นสูงทางจิตพฤติกรรมศาสตร์ : แผนงานวิจัยเพื่อเพิ่มพูนจริยธรรม ปัญญา และสุขภาพจิตแก่เยาวชนไทย ของสภาวิจัย และงานวิจัยมีกำหนดเสร็จสิ้นราวต้นปี  2551  ฉันเลยไม่ได้รู้ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันมุ่งหวังว่าจะได้รู้ก่อนเข้าห้องสัมมนาเท่าไรนัก  หนำซ้ำผู้จัดยังให้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเครื่องมือวัด ขนาดประมาณ  35  หน้า  เป็นแบบสอบถามที่สนุกเพราะเป็นคำถามเกี่ยวกับจิตวิทยา  ทำให้บางครั้งความสนใจของฉันและผู้เข้าร่วมประชุมอยู่กับแบบสอบถามมากกว่าเรื่องที่ผู้บรรยายนำเสนอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เป็นหลักการทางจิตวิทยา  ซึ่งฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไรนัก  ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รู้ในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้  แต่ก็ได้รับฟังเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่อง  โชคดีที่มีการแจกเอกสารที่ค่อนข้างละเอียดพอให้ฉันกลับมาอ่านและทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้  แล้วฉันจะทยอยนำมาเล่าให้ฟัง...น่าสนุกทีเดียว  ที่สำคัญฉันระรอต้นปี  51  คำถามของฉันจะได้มีคำตอบ... 

ในส่วนนิทรรศการ  แบ่งเป็น  2  ส่วนใหญ่  คือ  นิทรรศการต้นแบบการเรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  และนิทรรศการผลงานวิจัยจากหน่วยงานและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน  ในส่วนแรกเป็นการนำเสนอในรูปแบบพิพิธภัณฑ์งานวิจัย  8  ทศวรรษกษัตริย์นักวิจัย  โดยแบ่งเป็น  9  โซนตาม 8 ทศวรรษและห้องรวมใจเพื่อถวายความจงรักภักดี  เป็นโซนสุดท้าย  และนิทรรศการผลงานวิจัยก็แบ่งเป็นกลุ่ม  ได้  13  กลุ่ม  ฉันไม่ทันได้สังเกตว่าแยกเป็นกลุ่มแบบไหน...ฉันเดินไปเรื่อยๆ เหมือนเดินซื้อของที่ต้องเดินตามบล็อกให้เป็นระเบียบไม่เช่นนั้นอาจพลาดของดีหากเดินสะเปะสะปะ 

นิทรรศการจัดในรูปแบบโปสเตอร์  อันไหนที่จำลอง หรือยกของจริงมาได้ก็ขนกันมา พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ แต่ส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่นั่งเฝ้าและคอยแจกเอกสารที่เตรียมมาให้ผู้ที่เดินผ่าน  ฉันเลือกหยุดอ่านและหยิบเอกสารเฉพาะเรื่องที่ฉันสนใจ  เสียดายที่บางเรื่องที่ฉันอยากรู้เอกสารกลับหมด  แต่ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกว่ากระเป๋าหนักจนทำให้แขนฉันล้าเสียแล้ว  

นิทรรศการงานวิจัยจะมีรูปแบบการนำเสนอที่มีสีสันและน่าสนใจกว่านี้มากกว่านี้ได้อีกไหม...ฉันอยากเห็นจัง 

พอจบจากส่วนนิทรรศการนำเสนอผลงาน  ก็จะเป็นร้านค้าและร้านหนังสือ  งานนี้ฉันได้หนังสือมาหนึ่งเล่ม  ซึ่งนับว่าน้อยมาก  ..เดินจนเมื่อยขา  แถมแอร์ยังเย็นจับใจ   

พอออกจากห้องนิทรรศการกลับมาบริเวณหน้างานก็ถึงเวลาทักทายสหายเก่าๆ ที่เคยร่วมงานกัน  สนุกสนานเหมือนเดิม... 

ฉันจะทยอยเอาเรื่องราวงานวิจัยที่ได้จากงานนี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องๆ ไป  เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกสำลักข้อมูลที่หยิบมาจนแน่นกระเป๋า... จนไม่รู้จะเล่าเรื่องอะไรก่อนดี   

สุดท้าย  ขอชื่นชมคนจัดที่สร้างสรรค์เวทีวิจัย  และโอกาสให้ฉันได้พบสหายเก่าที่เคารพ..

คำสำคัญ (Tags): #งานวิจัย
หมายเลขบันทึก: 126705เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2007 07:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • เย้ๆๆได้อ่านแล้ว
  • นึกว่าจะให้รอเก้อเสียอีก
  • เหนื่อยไหมครับ
  • กับการดินทาง
  • รอดูน้องสร้างงานวิจัยออกมาเองดีกว่า
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะน้อง...พิมพ์ดีด

รออ่านเมื่อวันก่อน  ..  วันนี้ได้อ่านแล้ว

ดีใจเหมือนคุณขจิตเลยค่ะ

รออ่านงานวิจัย..ของน้อง..เหมือนกันค่ะ...

เรียน อ.ขจิต P  และครูอ้อยP

ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ไม่ได้มาตามนัด...

ขอแก้ตัวเล็กน้อยนะคะ เนตที่ห้องเข้าหน้า log in ของ G2K ไม่ได้คะ เลยต้องรอวันจันทร์...ใช้เครื่องที่ทำงานคะ  ก็เลยมาช้าด้วยประการฉะนี้

...better late, than never ^.^

ส่วนงานวิจัย...ไม่รู้จะได้มีโอกาสทำเองอีกเมื่อไร เพราะตอนนี้ย้ายมาอยู่ฝ่ายแผนซะแล้ว...

แต่ยังไงก็ต้องหาทางเข้าไปมีส่วนกับงานวิจัยสักชิ้นบ้างแน่นอนคะ...แล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ

---^.^---

ขอบคุณที่แวะมาคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท