กรุงเทพฯ มีอายุ 225 ปี แล้ว เทียบกับอายุ ของประเทศไทย ที่ประมาณ 1000 ปี เทียบกับ อายุของพระพุทธศาสนา 2605 ปี (นับตั้งแต่ทรงตรัสรู้)
ดิฉันเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เกิดและโตที่นี่มาตลอด ถึงแม้ว่า ขณะนี้ จะมาปลูกบ้านอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี เพราะชอบอากาศดีๆ ต้นไม้ใบหญ้าเยอะๆ บรรยากาศเงียบๆ สงบๆเย็นสบาย มีแต่เสียงนกกา เสียงรถไฟวิ่ง ให้ได้ยินอยู่ทั้งวัน แต่ก็ยังต้องเดินทางไปมาระหว่างบ้านกับที่ทำงาน และยังต้องไปเยี่ยมลูกในกรุงเทพฯ อาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 4 วัน จะมีบ้างบางครั้งที่เบื่อรถติด แต่ถ้า มีการวางแผนการเดินทางอย่างดีแล้ว อาจจะมีความไม่ทันใจบ้าง แต่ไม่ถึงกับจะเป็นปัญหา แต่อย่างใด จะเรียกว่า เป็นความเคยชินก็ได้ค่ะ
ดิฉันเคยเดินทางไปต่างประเทศ เห็นเมืองใหญ่ๆมาหลายเมือง ก็ยังบอกได้เต็มปากว่า รักกรุงเทพฯ มากที่สุด ค่ะ ใครว่ากรุงเทพฯ ร้อน ดิฉันจะถามว่า แล้วที่ไหนในประเทศไทยไม่ร้อนบ้าง ถ้าจะให้ร้อนน้อยลง เราคงต้องลดการบริโภคต่างๆลง เช่น การใช้การเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนให้มากขึ้น แม้กระทั่งการขึ้นรถแท็กซี่ หรือรถมอเตอร์ไซดิ์ เพราะแท็กซี่ส่วนใหญ่เติมแก๊ส NGV หรือ LPG และเป็นการอุดหนุนกันทางเศรษฐกิจด้วย
อีกส่วนหนึ่ง น่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนทราบถึงปัญหาโลกร้อน ที่จะมีผลกระทบกับเราแน่นอนในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้เกิดการบริโภคกันอย่างมีสติขึ้น ที่สำคัญ อยู่ที่ใจคน ใจของคนต้องร่มรื่น มีสติ อารมณ์เย็นกว่านี้ คนจะต้องมีความเมตตากันมากกว่าที่เป็นอยู่
ถ้าใครถามว่าไฮไลท์ของกรุงเทพฯปี 2550 คืออะไรบ้าง ตอบไม่ถูกเลยค่ะ มีมากมายหลายมิติมากๆ ต้องไล่ไปทีละอย่าง พอเป็นตัวอย่างอยู่บ้าง ดังนี้ค่ะ
· วัดพระแก้วน่าตื่นตามากที่สุด ขณะนี้ยังมีการปฎิสังขรณ์อยู่ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็อลังการมากๆค่ะ เช่น สุวรรณเจดีย์ที่มียักษ์แบกลิง องค์ปรางค์เล็กๆก็ทาสีใหม่ แถมงานจิตรกรรมที่ระเบียงคดก็งดงามมาก ยิ่งไปเห็นสิ่งดีๆที่ต่างแดนมากเท่าใด ยิ่งภูมิใจในคุณค่าของศิลปวํฒนธรรมไทยมากขึ้นเท่านั้น
· เสาชิงช้า ที่มีแผงหินสีดำสลักชื่อเมืองเป็นตัวทอง”กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์.....”· พระที่นั่งต่างๆในพระบรมมหาราชวัง เช่น พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นต้น
· พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งจะมีการจัดแสดงเรื่อง ประวัติศาสตร์ชาติไทย ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดีในประเทศไทย ประณีตศิลป์ และ ชาติพันธุ์วิทยา เป็นต้น
· นอกจากนี้ ยังมีสถานที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจอีกหลายแห่งมาก เที่ยวกันหลายวันกว่าจะชมหมด
ถ้าจะทานของอร่อย ที่กรุงเทพฯมีให้เลือกมาก มีทุกราคา แต่ที่ขึ้นชื่อคือ เยาวราชยามค่ำคืน หรือจะที่ท่าพระจันทร์ จะมีร้านอาหารเก่าๆมาก เช่น ร้านมิ่งหลี แม้คนขายจะหน้างอสักหน่อย ก็พออภัยให้ได้ เพราะอาหารเขาอร่อยจริงๆค่ะ ไม่ว่าชาติไหน มากรุงเทพแล้ว ต้องติดใจเรื่องอาหาร ทุกราย ไม่มีที่ใดในโลกเหมือน สุดยอดจริงๆค่ะ
ปีนี้ ได้ข่าวว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและคณะสังกัด กทม. ได้ประกาศจุดยืนเป็นหนึ่งเดียวมุ่งมั่น “ทำด้วยใจ...ให้กรุงเทพฯ” เดินหน้ายุทธศาสตร์ 6 มิติ เมืองสะดวกปลอดภัย มหานครสิ่งแวดล้อม มหานครแห่งการเรียนรู้ มหานครเปี่ยมเสน่ห์ เมืองสุขภาพดี ผู้คนมีความสุข และเมืองแห่งความพอเพียง ปักธงชัยก้าวต่อไปสู่กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ ในปี 2554 ซึ่งดิฉันก็ได้เห็นการเริ่มต้นที่ดี ดังกล่าวไปบ้างแล้ว เช่น การปรับปรุงสวนสาธารณะหลายแห่งให้สวยงามและปลอดภัยขึ้นและกำลัง เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยสวนสาธารณะอีก 9 แห่งด้วยกัน ตามเกาะกลางถนน ก็มีการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นอย่างหนาตา ดูสดชื่นขึ้นมาก
สำหรับดิฉันแล้ว ดิฉันรักกรุงเทพฯ แต่ก็รักตัวเองด้วยโดยการหามุมที่หลบจากความวุ่นวายในเมือง ให้ได้อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยห่างจากใจกลางเมืองแค่ 60 ก.ม. ไม่อยากไปอยู่ไหนไกลๆ เพราะ ความพลุกพล่าน ความหลากหลาย และความมีชีวิตชีวา เป็นเสน่ห์ของกรุงเทพฯที่ดิฉันติดใจค่ะ
ถ้าท่านใดมีมุมมองและความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะรักหรือชังกรุงเทพฯ ช่วยกรุณามาช่วยกันเติมบันทึกนี้ให้เต็มขึ้นด้วยนะคะ
สวัสดีคีฮะ
อยากให้กรุงเทพฯผ่อนคลายมากกว่านี้อีกหน่อย
เห็นเอ่ยถึง เกาะรัตนโกสินทร์ ยังไม่เคยไป ไม่มีใครพาไป แต่จะลอง search ใน net ดูก่อน
อ่านแล้วดี มีสาระฮะ