เมื่อคืนเดินทางจากมหาวิทยาลัย Stamford International มาถึงที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ตอนเกือบสี่ทุ่ม งงๆกับตัวเองว่าทำไมเดินทางมากเหลือเกิน พยายามดูที่เท้าว่ามีไฝไหม เผื่อจะได้ไปตัดออกจะได้ไม่ต้องเดินทาง ฮ่าๆๆๆ
วันนี้ความจริงตั้งใจจะไปช่วยพ่อครูบาสุทธินันท์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่งานวิจัยตัวเองยังไม่เสร็จ ถ้าไปคงกังวลน่าดู แถมมีเอกสารที่จะต้องเตรียมเดินทางไปต่างประเทศอีก ทาง สกอ. มีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายเงิน ทางต้นสังกัดผู้เขียน แจ้งว่าใช้เวลาในการทำเรื่องงบประมาณทุน ตั้งหนึ่งเดือน โหทำไมนานจัง
กำลังจะเปิดเทอมในวันที่ 15 กันยายน นี้แล้วถ้าเงินประมาณยังไม่มาจะทำอย่างไรดี จะไปขายเจ้าแดงที่บ้านเป็นค่าเดินทาง คงไม่พอ คงต้องขายหมดฝูง…ใครจะกล้าขายเจ้าแดงเพื่อนยากตาดำๆๆ(หมายถึงวัวของผู้เขียนครับ) เข้าตำราขายวัวส่งควายไปเรียน…ฮ่าๆๆๆ
ผู้เขียนพบว่า ถ้าเราจะทำการติดต่อกับราชการ ทางราชการจะกำหนดว่าต้องติดต่อภายในกี่วัน เช่น คนตายต้องแจ้งภายในกี่วัน ทำ สด.8(เอกสารการขึ้นทะเบียนทหาร) ชายไทยต้องทำก่อนอายุครบ 18 ไม่อย่างนั้นจะโดนทั้งปรับ ทั้งจำ(คุก) คนหายต้องแจ้งภายในเวลาเท่าไร
แต่ยังไม่เคยพบว่า ถ้าติดต่อกับราชการแล้วราชการจะทำประชาชนให้เสร็จภายในกี่วัน เช่น เบิกทุนราชการจะดำเนินให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน(มีไหมน่า…ไม่อย่างนั้นจะตัดโบนัสทั้งหน่วยงาน…ฮ่าๆๆๆๆ)
เท่าที่พบกับหน่วยงานราชการ อยู่หน่วยงานเดียวกัน โต๊ะไม่ไกลกันเท่าไร แต่ใช้เวลาเดินหนังสือหลายวันมากๆๆ เอหรือระบบราชการมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า…ผู้เขียนไม่เข้าใจจริงๆๆ
คุณคะเขาว่า..ระยะทางพิสูจน์ม้า...อุปสรรคพิสูจน์คนคะ(ฉันว่า..เองคะ)
สวัสดีค่ะ
คุณขจิตคะ ถ้าเดินทางบ่อยขนาดนี้ พลิกฝ่าเท้าดูไม่น่าจะเจอไฝนะคะ น่าจะเจอ ตาปลามากกว่า(ล้อเล่น)
เป็นข้าราชการคนหนึ่ง ไม่โกรธค่ะ ที่ทั้งคนและระบบ ทำให้คนผิดหวังเสมอ แต่ถ้ามาที่สถานีอนามัยดิฉันนะ จะขอชดเชยความช้า ด้วยการ ฉีดยา 1 เข็ม แล้วจะแถมให้อีก 1 เข็ม สัญญา
อ่ะอ่ะน้องชาย
ระบบทุกอย่างมีกรอบเวลาการทำงานค่ะ
บางครั้งเราทำอะไรถ้านึกถึงตัวเราเอง..ถ้าไม่ได้ดังใจมันก็อาจจะขุ่นในใจ..อิอิ
ในฐานเจ้าหน้าที่บุคคล โดยปกติเราจะมีการกำหนดกรอบเวลาการทำงานกันค่ะ ยิ่งเรามีการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว เราอาจจะต้องทำแต่เนิ่น ๆ ยิ่งจะไปต่างประเทศ มันต้องวางแผนให้รัดกุม ไม่ได้อย่างนี้เอาอย่างไหน แบบนี้เป็นอย่างไร แบบนั้นจะโอเคกว่าไหม
ถึงตอนนี้ถ้าต้องวิ่งเองก็ต้องวิ่งค่ะ ไม่อย่างนั้น อาจจะไม่ทันตามเวลา
ที่คณะพี่มีบ่อยค่ะ อาจารย์เด็ก ๆ พี่ต้องตามทวง ตามถาม ตามเรือ่งให้ แก้ปัญหาในแต่ละวันค่ะ
เอากำลังใจช่วยน้องนะ
ถ้าว่างก็เจอกัน วันที่ 1 กย. บ้านพ่อ
ฮา......
มีอะไรที่บ่นแล้วสบายใจ บ่นไปเถอะครับ
เฮอ...เฮอ เพิ่งรู้นะว่าอาจารย์ขจิตขี้บ่น
ถึงเจอไฝก็ยาก ตัดข้อเท้าดีกว่า จะเดินทางน้อยลงแน่ๆ
จะให้ช่วยอะไรไหม จะได้ส่งไข่เน่าไปให้
lสวัสดีครับอาจารย์
ราชการก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว พอถึงเข้ากับตัวเองจึงจะรู้ ชาวบ้านเขาชินจนชาแล้วครับ
ถ้าว่างเชิญมาเที่ยวงานมหกรรมผลไม้และผลิตภัณฑ์ชุมชนเมืองยะลา วันที่ 1-3 กย 50 ถ้าแฟนสวยๆส่งประกวดธิดาชาวสวน (เงินรางวัล 50,000 บาท)รับสมัครสาวงามทั่วราชอาณาจักร
สวัสดี น้องชายนายขจิต ผู้พิชิตเส้นทาง
เป็นนักศึกษาห้ามบ่นค่ะ...บ่นแล้วจะแก่เร็วทันพี่นะ..จะว่าไม่บอก....อิอิ
เรื่องเงินเบิก..ย่อมช้าเป็นธรรมดาจ๊ะน้อง
ไม่ว่าจะทำเรื่องก่อนกี่เดือนก็ตาม...
ของพี่ได้วันสุดท้ายก่อนออกเดินทางจากประเทศค่ะ...ค่าตั๋ว ค่าอะไรต่อมิอะไร สำรองจ่ายก่อนหมด...แถมวันนั้นยุ่งเป็นยุงตีกันเพราะเก็บของเอย..เอกสารเอย..วิ่งแลกตังค์เอย......แถมเดินทางคนเดียวไม่รู้จักใครสักคนที่ปลายทาง.....เรียกว่าไปตายดาบหน้าอย่างไงอย่างงั้นนั่นแหล่ะค่ะ.......พอขึ้นเครื่องได้เท่านั้นแหล่ะน้องเอ๋ย...หลับยาวแอร์มาปลุกกินข้าวไม่กินเลย.....มันเหนื่อยมากๆ ...
โอมเพี๊ยงงง!! หายเหนื่อยนะคะ haha ^_^