ในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ทีมหัวหน้าส่วนในงานด้านการบริหารที่ผมได้มีโอกาสทำงานและกำกับดูแล ซึ่งได้แก่ หัวหน้าส่วนพัสดุ หัวหน้าส่วนการเงิน หัวหน้าส่วนการเจ้าหน้าที่ หัวหน้าส่วนสารบรรณและอำนวยการ และหัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งทหารเอกคู่ใจ รวมถึงเจ้าหน้าที่งานพัฒนาองค์กร ได้มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมาอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอน่าชื่นชมจริง ๆ เพราะ เราจะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน 2 อาทิตย์ 1 ครั้ง คือ ทุกวันพุธ(แต่บางครั้งเปลี่ยนวันบ้างเล็กน้อยครับ) เวลาประมาณ 14.00 น. ถึง 16.00 น. บางทีก็เลยไปถึง 17.00 น. หรือบางทีก็เริ่มคุยกันตั้งแต่เวลา 13.00 น. อย่างวันนี้เป็นต้น จนผมรู้สึกว่า หัวหน้าส่วนทุกท่านก็ได้เห็นว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานตามปกติไปแล้ว ทุกครั้งที่เราแลกเปลี่ยนรู้กัน เราไม่เน้นที่จะต้องมีวาระการประชุมที่ตายตัว หรือว่ากันไปตามวาระ แต่เรามักจะเน้นให้ความสำคัญให้แต่ละส่วนงาน เล่าถึงความสำเร็จในการทำงานของส่วนงาน การมีแผนที่จะพัฒนางาน จนหัวหน้าส่วนหลายคน รวมถึงผมด้วยในบางครั้ง ทำให้รู้ความสำเร็จหรือสิ่งดี ๆ ของบางส่วนงาน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อน อย่างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ เรามีสมาชิกใหม่ มาจากส่วนสหกิจศึกษาฯ โดยคุณภคนิตย์ ได้เล่าให้พวกเราฟังเกี่ยวกับงานที่สหกิจศึกษาฯกำลังดำเนินการ ทำให้พวกเราแปลกใจมากว่า ทำไมเรื่องดี ๆ อย่างนี้ประชาคมวลัยลักษณ์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบ พวกเราก็มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เสนอแนะกัน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีมากจริง ๆ ผมเองในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ซึ่งต้องทำหน้าที่เป็นประธานในการเสวนาแลกเปลี่ยนรู้กันทุกครั้ง ผมรู้สึกว่า เวทีนี้เป็นเวทีที่สนุกมากทุกครั้งที่ได้นั่งคุยกัน ผมไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย กับรู้สึกว่าตัวเองได้รับความรู้ใหม่เสมอ และได้เห็นบรรยากาศของการมอบหมายงานกัน ช่วยงานกันอย่างไม่เป็นทางการ ผู้ให้ก็ให้ด้วยความห่วงใย ผู้รับก็รับด้วยความเต็มใจ สุดยอดจริง ๆ ครับ
ก่อนจะปิดท้ายบันทึกนี้ ผมก็ต้องขอแสดงความยินดีกับท่านหัวหน้าส่วนและพนักงานในส่วนพัสดุและส่วนการเงินฯ ที่ได้รับการประเมินหน่วยงานตามโครงการสถานที่น่าอยู่น่าทำงาน ของกระทรวงสาธารณสุข และได้รับผลการประเมินในระดับเหรียญทอง อีกด้วย ยินดีด้วยจริง ๆ ครับ และอยากจะขอความร่วมมือจากพนักงานทั้ง 2 ส่วน ให้ช่วยขยายผล เชิญชวนให้หน่วยงานอื่น ๆ ใน วลัยลักษณ์ของเรา ได้เหรียญทองในโอกาสต่อๆ ไปด้วยนะครับ ถ้าหน่วยงานไหนสนใจ ผมอยากแนะนำในลองคุยกับ คุณจินตนา ศิริวัฒนโชค หัวหน้าส่วนพัสดุดูซิครับ
ส่วนพัสดุของเราเริ่มต้นจากการทำกิจกรรม 5สก่อนเพราะเห็นว่าเป็นเครื่องมือพื้นฐานของระบบงานคุณภาพ และทำต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ปี 45โดยมี คุณอารีฯเป็นหัวหน้าโครงการฯ(หัวหน้าส่วนเป็นเพียงสมาชิก) ขณะนี้พูดได้ว่าสมาชิกในส่วนพัสดุสามารถสร้างนิสัยได้แล้ว ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือ ในปี 48นี้จึงได้พัฒนาขึ้นอีกระดับหนึ่งโดยการสมัครเข้าโครงการต้นแบบสถานที่น่าอยู่ น่าทำงาน ที่สำนักวิชาสหเวชศาสตร์รับมาจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขซึ่งจะมาประเมินในระยะเวลา 1ปี โดยมีเกณท์สะอาด ปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และมีชีวิตชีวารวมประมาณ 57ข้อ
ระดับการประเมินมี 3ระดับคือ ทองแดง เงิน และทอง แต่ละระดับก็ยากขึ้นเรื่อยๆ ระดับพื้นฐาน(ทองแดง)ใช้พื้นฐาน 5สและเกณท์ความปลอดภัยบวกการมีชีวิตชีวาในระดับพื้นฐาน(การแจ้งข้อมูลข่าวสารและการดูแลสุขภาพเบื้องต้น) ระดับดี(เงิน)ต้องผ่านระดับแรก เพิ่มเกณท์สิ่งแวดล้อมดีและมีชีวิตชีวาระดับดี(ดูแลสุขภาพกาย,ใจ และการมีส่วนร่วม) ระดับดีมาก(ทอง)ต้องผ่านระดับดีเพิ่มเกณท์มีชีวิตชีวาระดับดีมาก(เพิ่มการออกกำลังกายและการโภชนาการ)
ขณะนี้ส่วนพัสดุได้รับมอบให้เป็นเจ้าภาพของ "ชุมชน5ส" ของม.วลัยลักษณ์มีการแลกเปลี่ยนกันใน Intranetแล้วเริ่มที่หน่วยงานในกำกับของรองฯบริหาร(ส่วนสารบรรณฯ,ส่วนการเจ้าหน้าที่,ส่วนการเงินฯ,ส่วนประชาสัมพันธ์และส่วนพัสดุ) และมีคนสนใจเพิ่มขี้นเช่น ส่วนอาคารฯ,ส่วนส่งเสริมวิชาการ,ศูนย์คอมฯ เป็นต้น
จึงขอบอกข่าวดีว่าส่วนพัสดุได้ประสานหน่วยOD(คุณบรรจงวิทย์)แล้วจะจัดเวทีให้สมาชิกแบบFace to Faceเร็วๆนี้ ใครมีความเห็นอย่างไรช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณค่ะ
ขณะนี้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นชาวมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จำนวนหนึ่งได้เริ่มให้ความสนใจเข้าไปแบ่งปันความรู้และ ลปรร.(แลกเปลี่ยนเรียนรู้) ผ่าน Web KM ของมหาวิทยาลัยฯ หรือ ผ่าน Blogของ รศ.สมนึก มากยิ่งขึ้น และเห็นว่ามีพนักงานอีกหลายๆคนที่สนใจเข้ามาอ่านความรู้/ประสบการณ์ ในWeb/Blog ดังกล่าว แต่อาจจะยังไม่มั่นใจที่จะเล่าเรื่อง/ประสบการณ์ดีๆ ให้คนอื่นได้รับรู้ ในตอนแรกๆผมก็ไม่ค่อย มั่นใจเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเริ่มเล่าเรื่องแล้วก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่มีสิ่งใหนถูกหรือสิ่งใหนผิด เรื่องเล่าของเราอาจจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆได้ จึงมีความมั่นใจมากขึ้น จึงอยากจะเชิญชวนเพื่อนพนักงานทุกคนลองเข้ามา ลปรร.กันเยอะๆ โดยในขณะนี้หน่วยพัฒนาองค์กร (ตามดำริของรองฯ บริหาร)ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์บรรณสารฯ เจ้าหน้าที่ส่วนประชาสัมพันธ์ (น้องหวาด) และเจ้าหน้าที่ฯ ศูนย์คอมพิวเตอร์ (น้องลี)ได้พยายามปรับ/พัฒนา Web KM ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นเพื่ออำนวยประโยชน์ในการลปรร.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอกเหนือจากการลปรร.ผ่านWeb/Blog ซึ่งภาษา KM เรียกว่าเป็นเวทีเสมือนจริง หรือ B2B แล้ว ยังมีการลปรร.ผ่านเวทีจริงคือการมาพบปะพูดคุยเล่าเรื่องที่แต่ละคนประสบความสำเร็จ/ภาคภูมิใจมาให้คนอื่นๆฟัง หรือมาร่วมกันหาแนวทางในการปฏิบัติงานที่ดีกว่าเดิม หรือที่ดีที่สุดโดยส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า "ชุมชนนักปฏิบัติ" บ้าง หรือ "ชุมชนคนหน้างาน" บ้างหรือ"ชุมชนแนวปฏิบัติ"บ้าง โดยภาษา KM เรียกว่า " Communty of Practice : CoP " ซึ่งในขณะนี้ภายในมวล.ได้มีการจัดตั้ง CoP ขึ้นมาจำนวนหนึ่งแล้ว เช่น ชุมชนคนปฏิบัติงานสารบรรณ (e-Office) ชุมชนคนหอพัก ชุมชน 5 ส. ชุมชนคนทำเว็บ ชุมชนคนการเงิน ชุมชนคนพัสดุ เป็นต้น ทั้งนี้หน่วยพัฒนาองค์กรจะได้ประสานงานกับชุมชนต่างๆ เพื่อเข้ามาลงทะเบียนจัดตั้งชุมชนอย่างเป็นทางการ และนำลงในเว็บ KM เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกในชุมชน รวมถึงพนักงานคนอื่นๆ เข้ามาลปรร.ต่อไป และพนักงานหน่วยพัฒนาองค์กรจะเข้าไปมีส่วนส่งเสริมสนับสนุน/อำนวยความสะดวกและร่วมลปรร.กับชุมชนต่างๆดังกล่าวอย่างเต็มที่ และที่สำคัญผมได้รับทราบจากท่านรองฯ บริหารว่ามวล.สนับสนุนการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เช่นจะมีงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของแต่ละชุมชน สนับสนุนให้มีการเดินทางไปลปรร.ภายนอกมหาวิทยาลัย รวมถึงการไปลปรร.กับมหาวิทยาลัยอื่นๆ เป็นต้น เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยในการพัฒนาบุคลากร ช่วยพัฒนาระบบงาน ช่วยพัฒนาองค์กร และช่วยสร้างความเป็นชุมชนให้เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย และท้ายที่สุดแล้วคงจะช่วยทำให้มวล.กลายเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ได้ในที่สุด
เห็นชัดเจนเลยครับว่า คุณบรรจงวิทย์ เป็นคน OD ตัวจริง เพราะสามารถเข้าใจบทบาท และการทำงานในการส่งเสริมให้เกิดการจัดการความรู้ในวลัยลักษณ์ของเราได้เป็นอย่างดี
ในช่วงบ่ายของวันที่ 17 /1/49 ที่ผ่านมา ผมในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ และในฐานะผู้แทนสมาชิกสังกัดหน่วยพัฒนาองค์กร ได้มีโอกาสเข้าร่วมการสัมมนาสมาชิกสัมพันธ์ ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ มวล. จำกัด จัดขึ้น ณ ห้องตุมปัง อาคารบริหาร การจัดสัมมนาฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ให้ผู้แทนสมาชิกและสมาชิกที่สนใจเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ(ร่าง)แผนปฏิบัติการประจำปี 2549 ก่อนที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ฯ ประมาณเดือนมีนาคม 2549 2)เพื่อให้สมาชิกสะท้อนปัญหาการดำเนินงานของสหกรณ์ในปีที่ผ่านมา พร้อมกับเสนอแนะแนงทางในการดำเนินการ 3)เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกรรมการ / ฝ่ายจัดการสหกรณ์ กับสมาชิก และ 4)เพื่อให้สมาชิกได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานสหกรณ์ ในการสัมมนาฯ ดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประมาณ 40 คน มีพี่นิรันดร์ จินดานาคทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ (แบบกันเอง) และเป็นคุณอำนวยคอยกระตุ้นให้สมาชิกเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่
ก่อนที่จะมีการลปรร. ดร.โอภาส ตันติฐากูร ประธานกรรมการดำเนินการและประธานกรรมการอำนวยการได้กล่าวเปิดการสัมมนาและรายงานสรุปผลความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะกรรมการอำนวยการ หลังจากนั้นดร.วันชาติ ปรีชาติวงศ์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเงินกู้ และพี่นิรันดร์ จินดานาค ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาและประชาสัมพันธ์ ได้รายงานสรุปผลการดำเนินการของคณะกรรมการเงินกู้ และของคณะกรรมการศึกษา ฯ ตามลำดับ
ในช่วงเวลาของการ ลปรร. นั้นสมาชิกได้ให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวสมาชิกเองและต่อสหกรณ์ เช่น แนวทางในการเก็บออมเงิน / สร้างทรัพย์สมบัติให้กับตนเองในอนาคต การขยายสิทธิในการอนุมัติเงินกู้สามัญให้กับสมาชิกที่เป็นพนักงานในระบบสัญญาจ้าง การส่งเสริมให้สมาชิกมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น แนวทางในการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้พนักงานสมัครเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เป็นต้น
สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหม่และเป็นสิ่งที่ดีทั้งสำหรับพนักงาน(ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์และไม่เป็นสมาชิกสหกรณ์) และสำหรับสหกรณ์ คือผู้เข้าร่วมการสัมมนาฯ ได้เสนอแนะและเห็นชอบให้สหกรณ์ประสานงานมายังหน่วยพัฒนาองค์กร เพื่อจัดตั้ง"ชุมชนคนสหกรณ์" ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์คล้ายๆกับการจัดสัมมนาฯในครั้งนี้ เพียงแต่มีการเปลี่ยนเวทีจากเวทีจริง ณ ห้องตุมปัง เป็นเวทีเสมือนจริงคือผ่านเว็บ / บล็อค KM ขณะนี้ผมได้จัดส่งใบสมัครไปให้สหกรณ์แล้ว สมาชิกต้องติดตามความคืบหน้าในเว็บ/บล็อก KM ต่อไป
เป็นข่าวที่น่ายินดีอย่างยิ่งครับ
ขอคิดเข้าข้างชาว วลัยลักษณ์สักนิดว่า KM ในรูปแบบของเราน่าจะมีผลก้าวหน้าให้เห็นบ้างแล้ว จากที่เริ่มรุ่น 1 โดยมีวิทยากรจาก สคส.(คุณธวัช,คุณอุรพิน)ช่วยเหลือ ทีมหัวหน้าส่วน ฝึกทำหน้าที่"คุณอำนวย" โดยหลักคิดให้ฝึกหัดจากการปฏิบัติจริง แล้วทีมวิทยากรจาก สคส.ก็มาถ่ายทอดวิทยายุทธ์เพิ่มเติมให้กับเราก่อนที่จะใช้ยุทธการ "ถอดล้อพ่วง" ในรุ่น 2 ทีมหัวหน้าส่วนต้องดำเนินการด้วยตัวเราเอง เราเตรียมความพร้อมแล้วแบ่งหน้าที่กันทำตามความถนัด สามารถทำสำเร็จได้
วันนี้เราเห็นเมล็ดพันธุ์ที่เราช่วยกันหว่านและเฝ้าดูแลบำรุงรักษาด้วยความรัก กำลังงอกงาม "คุณกิจ"ของเราเริ่มสร้างชุมชนต่างๆ(คุณบรรจงวิทย์กล่าวแล้ว)อย่างน่าชื่นใจ และยังขยายสาขาไปยัง สหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งชาว วลัยลักษณ์เป็นสมาชิกอยู่อีกด้วย เราถือว่าเป็นกำลังใจอันมีค่ายิ่งแก่ทีมหัวหน้าส่วนและทีมงานในการมุ่งม่นพัฒนาตนเองให้เป็น "คุณอำนวย"ที่ดีทำงานร่วมกับหน่วย ODภายใต้การสนับสนุนช่วยเหลือจาก "คุณเอื้อ"รองฯบริหารต่อไป
ช่วยแนะนำทีม "คุณอำนวย"ของ วลัยลักษณ์ด้วยค่ะ เรากำลังจะทำต่อ รุ่น 3 วันที่ 22-24 มีนาคมนี้คะ
การจัดโครงการ ลปรร.ฯ รุ่นที่ 3 มีกำหนดการสำคัญๆดังนี้
- วันที่ 20 /3/49 จัด ณ ห้องโมคลาน อาคารบริหาร มวล.
เช้า - พิธีเปิดโดยอธิการบดี
- บรรยายพิเศษเรื่อง " รักวลัยลักษณ์ ทำงานเพื่อ
วลัยลักษณ์ " โดยรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร
- บรรยายพิเศษเรื่อง " แนวคิดและกระบวนการ
จัดการความรู้ : ประสบการณ์การจัดการความรู้
ในคณะแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ "
บ่าย - บรรยายพิเศษ (ต่อ)
- แนะนำ WU WEB / BLOG
วันที่ 22-24 /3/49 จัดโครงการฯ ณ โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อ.สิงหนคร จ.สงขลา
- วันที่ 22 /3/49 กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ / Walk Rally
- วันที่ 23-24 /3/49 กิจกรรมการลปรร./การเล่าเรื่องความ
สำเร็จหรือความภูมิใจเล็กๆ ในการทำงาน / การสะกัด
ความรู้ / การสร้างตารางอิสรภาพ / การประเมินหน่วย
งานตนเอง / การนำเสนอเครื่องมือชุด"สายธารแห่ง
ปัญญาและบันไดแห่งการเรียนรู้" / การทำ AAR /
พิธีปิดโดยอธิการบดี / กิจกรรมก่อนลา
สำหรับคณะทำงานฯ ที่จะจัดกิจกรรมในวันที่ 22/3/49 และ ทำหน้าที่ร่วมเป็นวิทยากรในวันที่ 23-24/3/49 จะประกอบด้วย หัวหน้าส่วนพัสดุ หัวหน้าส่วนกิจการนักศึกษา หัวหน้าส่วนสารบรรณฯ หัวหน้าส่วนการเงินฯ หัวหน้าส่วนการเจ้าหน้าที่ หัวหน้าส่วนส่งเสริมวิชาการ หัวหน้าส่วนแผนงาน หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ หัวหน้าส่วนอาคารสถานที่ และ หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายใน (ซึ่งจะมีการปรึกษาหารือเพื่อแบ่งภารกิจในแต่ละเรื่องต่อไป) โดยมีพนักงานหน่วยพัฒนาองค์กรทำหน้าที่ประสานงานและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ และมี "คุณเอื้อ" / รศ .สมนึก คอยสนับสนุน /ให้กำลังใจและอำนวยการจัดโครงการฯ เพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้
ได้อ่านติดตามความก้าวหน้าของ KM แล้ว คึกคักจังเลยค่ะ เสียดายเราอยู่ไกลไปหน่อย แต่น้องหนึ่งพัสดุ ยังได้กรุณาโทร.มาเชิญชวนเข้าเป็นสมาชิกชุมชนคนพัสดุ พี่ปลารีบตอบรับโดยเร็วพลัน เพราะจะได้ปรึกษาสมาชิกเรื่องการจัดซื้อถนัดหน่อย