ตกลงว่า MacBook ผมนั้น hard disk controller ไม่เสียครับ เพียงแต่ว่าด้วยความสามารถในการ design อันสูงส่งของบริษัท Apple ผู้เป็นผู้นำที่ยืนยงด้าน industrial design นั้น ท่านออกแบบวิธีการใส่ hard disk ไว้พิสดารกว่าใครเพื่อน ถ้าถอดๆ ดึงๆ ไม่ดีด้วยกำลังอย่างที่ผมทำ ยางก็จะหลุดออกมา และเมื่อติดยางเข้าไปใหม่ก็อาจทำให้ขั้วสัมผัส (ซึ่งอยู่ลึกเข้าไป เหล่ตามองไม่เห็น) ไม่เข้าที่ได้
งานนี้เสียเงินไป 3,690 บาท เป็นค่าซ่อมพร้อมค่า hard disk ตัวใหม่ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะมากทีเดียวครับ
เรื่องนี้ต้องยกคุณความดีให้แก่บริษัท Computer & Video Lab ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท Apple ในหาดใหญ่มานาน และมีช่างที่ชำนาญในการซ่อมเครื่อง Mac อยู่ครับ
บริษัทนี้เก่าแก่มาก ผมเป็นลูกค้าตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีทีเดียวครับ
นี่ถ้าเป็นบริษัทอื่นคงต้องส่งเครื่องเข้ากรุงเทพฯ และค่าใช้จ่ายคงไม่ใช่เท่านี้แน่นอน เพราะช่างที่ไม่รู้จักเครื่อง Mac คงไม่กล้าเสี่ยงที่จะเปิดเครื่องออกซ่อมครับ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การซื้ออุปกรณ์ที่ค่อนข้างมีความเฉพาะตัวสูงนั้น ต้องซื้อจากผู้ชำนาญในการบริการหลังการขายเท่านั้น หากคำนึงที่ราคาซื้อที่ถูกกว่าอาจจะได้เจอค่าใช้จ่ายมหาศาลตามหลังมาในอนาคต
สาธุ ลึกซึ้งก็คราวนี้เอง
หลังจากได้เครื่องกลับมาเมื่อวันศุกร์ ผมก็เสียเวลาสองวันทำเครื่องให้เข้าที่ เรื่อง data นั้นไม่มีปัญหา แต่การ setting ของโปรแกรมต่างๆ เพื่อให้ทำงานได้นั้น เสียเวลาเยอะเหมือนกัน
ตอนนี้พอเข้าที่แล้ว พอได้เริ่มงานต่อไปครับ ช่วงที่เครื่องเสียอยู่งานค้างอยู่เต็มไปหมด เยอะจนต้องแกล้งลืม
notebook อีกตัวนั้นผมลง Vista ไว้ เตรียมไว้จะเขียนโปรแกรมหนึ่งที่จะเป็นโปรแกรมบน Windows แต่ไม่ได้เตรียมไว้ทำงานอย่างอื่นเลย พอ MacBook เสียก็สับสนอลหม่านต้องรีบลง Ubuntu ใหญ่ งานก็สะดุดไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย
เรื่องนี้ก็เป็นประสบการณ์เหมือนกันว่า ต้องมีคอมพิวเตอร์สองเครื่องอยู่ในสภาวะพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาอย่างเท่าเทียมกัน ดาบหนึ่งหักดาบสองต้องเข้าที่ได้ทันที
เฮ้อ... ถอนหายใจยาวววววววววววว
สวัสดีครับอาจารย์
(พูดยังกะใช้หลายระบบแน่ะ ... 555
แต่โดยหลักการทำได้ครับ เพราะเคยลอง
...แต่ใช้จริง ก็รุ่นเก๋ากึ๊กส์รุ่นเดียว
ผมถือหลักว่า ใครกล้าหาญลุยทุ่งกับระเบิด ก็ช่วยลุยให้ทุ่งให้สะอาดก่อน แล้วอีกหลายๆๆๆปีข้างหน้าผมค่อยตามไปใช้
..รอจนฮาร์ดแวร์มันปฎิเสธรุ่นที่กำลังใช้นู่นแหละ
วิสต้าเหรอ อือม์ ไปไกล ๆ เลยน้อง ...
คนใช้ เป็นรุ่นไม่กลัวตกเทรนด์อ่ะนะ..)
แวะมาดีใจกับอาจารย์ด้วยครับ
ผมเองใช้คอมหลายตัวเหมือนกัน
ที่ทำงาน ๑ตัว ที่บ้าน ๑ตัว เป็น desk top และมี notebook ๑ ตัว
เคยอ่านที่อาจารย์เขียนเรื่องแนวทางประหยัดแล้วอายเหมือนกัน
แต่เครื่องที่บ้านสมัยพระเจ้าเหาครับ หากยังใช้งานได้ดี เพียงพิมพ์งานบ้างและรับส่งเมล์ครับ
ถนอมสุขภาพนะครับ ฝากความระลึกถึง อ.จัน มะปรางเปรี้ยวด้วยครับ:)
สวัสดีครับอาจารย์
เห็นอาจารย์ใช้ ubuntu อยู่ เลยสงสัยว่าทำไมอาจารย์ถึงไม่ลงทั้ง ubuntu และ Vista ในเครื่องเดียวกันครับ เครื่องนั้นก็จะเป็นดาบสองให้อาจารย์อย่างสมบูรณ์แบบครับ ถ้าอาจารย์ไม่อยากยุ่งกับการแบ่ง Partition ให้วุ่นวาย ลองใช้ Wubi-installer ดูครับ เจ๋งมาก ผมใช้อยู่ครับ
ไม่ต้องแบ่ง Partition ให้วุ่นวาย มันแค่สร้าง Image file ไว้เหมือนกับ Harddisk ตัวนึงไว้ ลองใช้ดูแล้วก็ไ่ม่กระทบกับ Windows เลย แถมยัง mount drive windows ได้อย่างง่ายได้...
ไม่รู้ทราบว่า อาจารย์ทราบมาก่อนหรือเปล่า แต่ผมลอง search ในนี้แล้ว ไม่มีใคร post เรื่องนี้เลย ที่เจอก็จะเป็น ม.วลัยลักษณ์ ซึ่งไม่เกี่ยวกัน แค่ใช้ตัวย่อเหมือนกัน (WUBI) และมีคน Post แนะนำไว้ที่ Blognone อีกที่นึงครับ
ไม่ทราบว่าบน Mac มีซอฟแวร์ทำอิมเมจไฟล์แบบ Norton ghost หรือเปล่าครับ
ที่แล็บผมทำแบบนี้
ลงซอฟแวร์ให้ครบ ปรับค่าอะไรให้เรียบร้อย แล้วทำอิมเมจเก็บไว้ ถ้ามีการปรับค่าต่างออกไป ก็ทำอิมเมจแยกต่างหาก
วันดีคืนดี ทดสอบโปรแกรมจนพัง หรือเครื่องล่มไป เอาอิเมจมา restore ก็ใช้ได้ทันที ประหยัดเวลาการปรับระบบครับ
อาจารย์ครับ
ลืมบอกอาจารย์ไปเกี่ยวกับปัญหาของ wubi ผมเจออยู่เรื่องหนึ่งครับ
"จะมองไม่เห็นไฟล์ที่ตั้งชื่อเป็นภาษาไทยนะครับ"
ผมเขียนอธิบายเพิ่มเติมใน Blog แล้วนะครับอาจารย์ ฝากอาจารย์หาทางแก้ให้ผมด้วยครับ ตอนนี้ยังแก้ปัญหาแบบตรงๆ ไม่ได้ ใช้วิธีเลี่ยงๆ เอาครับ...
ถือว่าโชคดีคับ
อย่าไปทรมานเครื่องมันมากหล่ะคับอาจารย์
^^