ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์


 

 

ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์

 

            เมื่อตอนเด็กๆผมรู้สึกภาคภูมิใจในท้องถิ่นอำเภอสองพี่น้องของผมมาก เพราะบ้านผมจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงเช่น วัดหลวงพ่อโหน่ง(วัดอัมพวัน) วัดสองพี่น้อง และวัดไผ่โรงวัว โดยเฉพาะวัดไผ่โรงวัว ขณะที่ผมเป็นเด็กเลี้ยงควายอยู่ชายถนน จะมีคนมาจอดรถถามเส้นทางอยู่บ่อยๆ ปัจจุบันนี้ผมก็ยิ่งภูมิใจยิ่งขึ้น และก็ยังมีคนมาจอดรถถามผมอยู่แต่เดี๋ยวนี้เขาจะถามเส้นทาง ไป วัดทับกระดาน โดยเฉพาะวันใกล้ๆสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออก เขาไปทำไมกันที่วัดทับกระดาน จุดหมายสำคัญของเขาคือไป ดูวิถีชีวิต ประวัติความเป็นมา ของราชินีลูกทุ่งเมืองไทย พุ่มพวง ดวงจันทร์ และบางท่านก็มาขอโชค ขอลาภ กับหุ่น รูปปั้น ของเธอ เขาลือกันว่าได้สมใจกันไปหลายราย บางคนจะไปประกวดร้องเพลงก็มาบนบานให้ประสบความสำเร็จ แล้วพี่ผึ้งก็ไม่เคยทำให้น้องๆผิดหวัง

 

            ชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นเรื่องราวที่น่าติดตามเสียยิ่งกว่านวนิยาย ผมขอนำผลงานการเรียบเรียงของคุณสุภัค มหาวรากร ที่เรียบเรียงลงไว้ในหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคกลาง มาเป็นแนวทางนำเสนอนะครับ

 

            พุ่มพวง  ดวงจันทร์ เป็นชื่อการแสดงที่ครูเพลงลูกทุ่ง มนต์ เมืองเหนือตั้งให้ ชื่อจริงของเธอคือ รำพึง จิตรหาญ ชื่อเล่นว่าผึ้ง เกิดเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๐๔ ที่บ้านดอนตำลึง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรนายสำราญ นางเล็ก จิตรหาญ ครอบครัวนี้มีบุตรทั้งสิ้น ๑๒ คน พุ่มพวง หรือ รำพึงเป็นบุตรคนที่ ๕

 

            ครอบครัวของพุ่มพวง ฐานะยากจน มีอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างตัดอ้อยเป็นรายได้จุนเจือ เมื่อครอบครัวมีบุตรหลายคน รายได้ก็น้อย ทำให้เด็กหญิงรำพึงต้องออกจากโรงเรียนบ้านดอนตำลึง ในขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เมื่อปี ๒๕๑๓ เธอต้องไปช่วยครอบครัวหารายได้เลี้ยงตัวเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง เป็นผลให้เธออ่านหนังสือไม่ค่อยออก

 

            ในความโชคร้ายของชะตาชีวิต เธอยังมีความโชคดีที่เป็นผู้มีพรสวรรค์ในการร้องเพลง เมื่ออ่านหนังสือไม่ออกก็ต้องอาศัยการจำ และเธอก็จำได้ดี(ถ้าได้เรียนต่อคงเก่งมาก) เธอจึงหัดร้องเพลง และเริ่มเข้าประกวดในงานต่างๆตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ โดยใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย เมื่อเริ่มประสบความสำเร็จในการประกวดใกล้บ้าน เธอก็ออกล่ารางวัล ไปทั่วจนชนะการประกวด ตั้งแต่อำเภอศรีประจันต์ บางปลาม้า แล้วข้ามจังหวัดไปถึงอำเภอเสนา  ผักไห่ มหาราช วิเศษชัยชาญ บ้านแพรก หนองโดน พระพุทธบาท สระบุรี จนหาคู่แข่งไม่ได้ จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯไปทำงานกับ ดวง อนุชา แต่ยังไม่ทันได้เป็นนักร้องอาชีพก็ต้องเลิกทำงานและเดินทางกลับบ้านอำเภอสองพี่น้อง

 

            พ.ศ.๒๕๑๘ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ นักร้องลูกทุ่งราชาเพลงแหล่ผู้โด่งดัง นำวงดนตรีมาแสดงที่วัดทับกระดาน น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อยได้มีโอกาสขึ้นร้องเพลงแสดงความสามารถกับวงดนตรีไวพจน์ เพชรสุพรรณ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เห็นความสามารถ เกิดความเมตตา จึงรับเป็นบุตรบุญธรรมและพาไปอยู่กรุงเทพฯ รำพึง จิตรหาญ ได้เริ่มงานศิลปินด้วยการเป็นหางเครื่องและบางครั้งวันไหนนักร้องขาดก็ได้เป็นนักร้องแก้ขัด จนกระทั่งได้บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกที่ห้องอัดเสียงกมลในเพลง แก้วรอพี่ซึ่งเป็นผลงานของไวพจน์ เพชรสุพรรณ ที่แต่งแก้กับเพลง แก้วจ๋าของ คมเพชร แก้วเมืองกาญจน์ และใช้ชื่อในการการร้องเพลงนี้ว่า น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ

 

            ชีวิตรักของ น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ เกิดขึ้น ในวงดนตรีไวพจน์ เพชรสุพรรณ เมื่อเธอเริ่มสนิทสนมกับ ธีระพล แสนสุข นักดนตรีและนักแต่งเพลงในวง และในที่สุดเธอก็ตกลงใช้ชีวิตคู่กับ ธีระพล แสนสุข ทำให้ต้องแยกออกจากวงดนตรีไวพจน์ เพชรสุพรรณ มาเริ่มงานกับศรเพชร ศรสุพรรณนักร้องเสียงเด็ดชาวสุพรรณอีกคนหนึ่งที่กำลังมีชื่อเสียง น้ำผึ้ง ต้องทำงานเป็นทั้งหางเครื่องและนักร้อง ในวงศรเพชร

 

            ชื่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ ถือกำเนิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ โดยครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง มนต์ เมืองเหนือ รับเป็นลูกศิษย์ เปลี่ยนชื่อ น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ เป็นพุ่มพวง ดวงจันทร์ เริ่มงานด้วยการร้องเพลงแก้กับ ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด จนเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นจึงได้ตั้งวงดนตรี พุ่มพวง ดวงจันทร์ และได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในบริษัทเสกสรรเทปของประจวบ จำปาทอง นับเป็นนักร้องหญิงคนแรกของบริษัท หลังจากที่มีนักร้องชายเสียงดีชาวสุพรรณคือเสรีย์ รุ่งสว่าง เซ็นสัญญามาก่อน

 

            ปีพ.ศ.๒๕๒๑ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เริ่มประสบความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจคือการได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จากเพลง อกสาวเหนือสะอื้น ผลงานของธีระพล แสนสุข นับเป็นรางวัลเกียรติยศสำหรับชีวิตเด็กสาวท้องนาผู้อาภัพ แม้จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ก็ไม่ย่อท้อมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนร้องเพลง จนมีความสามารถเป็นที่ยอมรับ

 

            ผลงานเพลงลูกทุ่งของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้ทยอยออกมาอย่างมากมาย ปีพ.ศ.๒๕๒๕ นับเป็นปีทองของพุ่มพวง ที่ส่งผลให้เธอได้รับทั้งชื่อเสียงและรายได้มหาศาลที่ตามมา เนื่องจากเธอได้ร่วมงานกับครูเพลงลพ บุรีรัตน์ ครูลพได้แต่งเพลงหลายเพลงที่กลายเป็นเพลงยอดนิยมมาจนถึงปัจจุบัน เช่น เพลงสาวนาสั่งแฟน นัดพบหน้าอำเภอ อื้อฮือหล่อจัง กระแซะเข้ามาซิ ห่างหน่อยถอยนิด และบทเรียนราคาแพง เป็นต้น นอกจากเนื้อหาสาระและทำนองเพลงที่เร้าใจ สนุกสนานแล้ว เอกลักษณ์เฉพาะตัวในการร้องการเต้นที่กลมกลืนสอดรับกับเนื้อเพลง อารมณ์เพลง เธอจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความสามารถในการร้องเพลงยอดเยี่ยม และมอบฉายาราชินีลูกทุ่ง สืบต่อจาก ราชินีลูกทุ่งคนก่อน คือผ่องศรี วรนุช

 

            ชีวิตคนเราเป็นไปตามกรรมที่ครอบงำโลก มีสุข มีทุกข์ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ มีเสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา แม้ชีวิตพุ่มพวง จะประสบความสำเร็จแต่ชีวิตรักและครอบครัวกลับประสบความล้มเหลว จนทำให้ต้องแยกทางกับคู่ชีวิตคนแรก ธีระพล แสนสุข

 

            ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ พุ่มพวง ได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ โดยเป็นดารานำแสดงในภาพยนตร์เรื่อง สงครามเพลง ของฉลองภักดีพิจิตร การแสดงภาพยนตร์ พุ่มพวงต้องใช้ความวิริยะ อุตสาหะมาก เพราะเธออ่านหนังสือไม่ออกต้องให้คนอ่านหนังสือให้ฟังแล้วท่องจำบทภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามเธอก็สามารถแสดงภาพยนตร์จนมีผลงานถึง ๑๖ เรื่อง และยังแสดงละครโทรทัศน์อีก ๑ เรื่องคือเรื่อง น.ศ.ยี่ส่าย ของไพจิตร ศุภวารี

             การเข้าสู่วงการนักแสดงภาพยนตร์ ละคร ทำให้เธอได้พบรักกับ ไกรสร แสงอนันต์ และได้จดทะเบียนสมรสกับไกรสร แสงอนันต์ ในปี พ.ศ.๒๕๒๗ มีบุตรชาย ๑ คน คือ นายสันติภาพ ลีละเมฆินทร์ ที่เรารู้จักกันในนาม น้องเพชร หรือ บ่อยบ๊อย

ปัจจุบัน กำลังเป็นนักร้องที่เริ่มมีผลงานออกสู่วงการเพลง โดยนำผลงานของแม่มาขับร้องในลีลาที่ตนเองถนัด

 

            วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๓๒ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีอีกครั้งเป็นรางวัลขับร้องเพลงดีเด่น เนื่องในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่ง ภาค ๒ ในเพลง สยามเมืองยิ้ม ผลงานประพันธ์ของครูลพ บุรีรัตน์

             วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๓๕ พุ่มพวง ป่วยเป็นโรคไต อาการอยู่ในขั้นรุนแรงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสิน จังหวัดจันทบุรี ต่อมาย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช แพทย์ตรวจพบว่า พุ่มพวงมีอาการภูมิแพ้ตัวเอง หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า

 โรคลูปุสอาการอยู่ในขั้นอันตรายลุกลามถึงไต วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๓๕ หลังจากออกจากโรงพยาบาลศิริราช พุ่มพวงเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก  เพื่อกราบพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น.พุ่มพวงช็อกและหมดสติ ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช พุ่มพวงถึงแก่กรรมอย่างสงบในเวลา ๒๐.๔๕ น. ขณะมีอายุได้ ๓๑ ปี

 

            วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๕ ตั้งศพพุ่มพวงที่วัดมกุฎกษัตริยาราม มีแฟนเพลงจำนวนมากไปร่มแสดงความรักความอาลัย วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๕ เคลื่อนศพพุ่มพวงไปยังสถานที่พระราชทานเพลิงศพ ณ วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งเป็นวัดที่พุ่มพวงทำบุญ และเคยร้องเพลงพิสูจน์ความสามารถจนได้มาเป็นนักร้องที่ยิ่งใหญ่

 

            วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๓๕ เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ครอบครัวจิตรหาญ และวงการเพลงลูกทุ่ง เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จมาพระราชทานทานเพลิงศพพุ่มพวง ดวงจันทร์ มีประชาชานมาทั่วประเทศมาร่วมงานกว่า ๑๕๐,๐๐๐ คน ครูพิสูจน์ กับครูลักขณา ใจเที่ยงกุล ก็ได้ไปร่วมงานนี้ด้วย ผมจำได้ว่าผมขับรถจักรยานยนต์ไปกันเพราะไม่มีที่จอดรถ คนต้องเดินเข้าไปเป็น กิโลเมตรจากที่จอดรถ วันนั้นผมได้ประจักษ์แก่ตาถึงความยิ่งใหญ่ของพุ่มพวง ทุกคนมาเพราะรักเพราะศรัทธาในตัวพุ่มพวง รวมทั้งผมด้วย

 

            แม้พุ่มพวง ดวงจันทร์ จะเสียชีวิตไป ๑๕ ปีแล้ว แต่แฟนเพลงจำนวนไม่น้อยยังคงรักและอาลัยในตัวเธออยู่เสมอ เห็นได้จากประชาชนจำนวนมากที่เดินทางไปวัดทับกระดาน เพื่อเคารพรูปหุ่นขี้ผึ้ง พุ่มพวงดวงจันทร์ เพื่อศึกษาเรื่องราวชีวิตของเธอ และเชื่อกันว่าเมื่อมีชีวิต พุ่มพวง ให้ความสุขแก่แฟนๆด้วยเสียงเพลง เมื่อจากโลกนี้ไปแล้วพุ่มพวงก็ยังให้โชคลาภแก่แฟนๆอีกด้วย วัดทับกระดานจึงเป็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอสองพี่น้อง ดังที่ผมกล่าวไว้ในตอนต้น

 

            ผลงานของพุ่มพวงที่ขับร้องไว้ยังคงได้รับความนิยมและมีจำหน่ายในท้องตลาด มีรายชื่อเทปคลาสเซ็ทที่ไปสำรวจเท่าที่ได้ข้อมูลก็มีหลายรายการทีเดียวผมขอคัดลอกมานำเสนอดังนี้

 ๑.    แก้วรอพี่

๒.   เสียสาวเมื่ออยู่ม.ศ.

๓.   อกสาวเหนือสะอื้น

๔.   จะให้รอพ.ศ.ไหน

๕.   ดวงตาดวงใจ

๖.    สาวนาสั่งแฟน

๗.   นัดพบหน้าอำเภอ

๘.   ทิ้งนาลืมทุ่ง

๙.    คนดังลืมหลังควาย

๑๐.           อื้อฮือหล่อจัง

๑๑.           ห่างหน่อยถอยนิด

๑๒.          ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน

๑๓.          รวมเพลงยอดนิยม

๑๔.          รวมเพลงยอดนิยม ๒

๑๕.          เพลงเศร้าสุดรัก

๑๖.           ซุปเปอร์ฮิตพุ่มพวง

๑๗.          พุ่มพวงเงินล้าน

๑๘.          ทุ่งนางคอย

๑๙.           พุ่มพวงเห่ระเบิด

๒๐.          ท็อปฮิตลูกทุ่งมาตรฐาน

๒๑.          ทีเด็ดพุ่มพวง

๒๒.        ตั๊กแตนผูกโบ

๒๓.         หนูไม่รู้

๒๔.         หนูไม่เอา

๒๕.        เงินน่ะมีไหม

๒๖.          พุ่มพวงหลายพ.ศ.

๒๗.        ขอให้รวย

๒๘.         น้ำผึ้งเดือนเก้า

๒๙.          ซุปเปอร์ลูกทุ่งท็อปฮิต

๓๐.          มนต์เสียงเพลง สายัณห์-พุ่มพวง

๓๑.          พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซุปเปอร์ลูกทุ่ง ๑

๓๒.         พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซุปเปอร์ลูกทุ่ง ๒

๓๓.         พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซุปเปอร์ลูกทุ่ง ๓

๓๔.         พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซุปเปอร์ลูกทุ่ง ๔

๓๕.         พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซุปเปอร์ลูกทุ่ง ๕

 

นอกจากนี้ยังมีเทปคลาสเซ็ทเสียงร้องของพุ่มพวงอีกหลายชุดที่ออกวางจำหน่ายหลังจากที่พุ่มพวงเสียชีวิตแล้วเช่น คิดถึงพุ่มพวงและโลกของผึ้ง ยังมีเทปเกี่ยวกับพุ่มพวงซึ่งทำเป็นอนุสรณ์หลังจากพุ่มพวงเสียชีวิต เช่น แหล่ประวัติพุ่มพวง ดวงจันทร์ โดยไวพจน์ เพชรสุพรรณ หนึ่งในดวงใจผลงานของยุ้ย ญาติเยอะ(จริยา ปรีดากูล) เหลือแต่ดวงจันทร์ ที่ครูลพ บุรีรัตน์แต่งให้พุ่มพวง

 

ในปี ๒๕๔๑ บริษัท เจเอสแอลจำกัดได้ทำละครโทรทัศน์เรื่อง ราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง ๗

 นี่แหละครับชีวิตอันยิ่งใหญ่ ของผู้หญิงตัวเล็กๆเด็กบ้านนอกผู้สร้างชื่อด้วยเสียงและลีลาการร้องเพลงที่ลือลั่น...ให้กล่าวขวัญอยู่ในดวงใจของแฟนเพลงไปอีกนานแสนนาน เหมือนเพลงที่ผมแต่งให้คน อ.สองพี่น้องร้องว่า ราชินีนักร้องลือลั่น ๆพุ่มพวง ดวงจันทร์ อยู่ในดวงใจ

 

คำสำคัญ (Tags): #ราชินีลูกทุ่ง
หมายเลขบันทึก: 120590เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2007 10:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 08:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
*ลืมไปเลยนะคะว่าพุ่มพวง เธอได้ตายไปแล้ว *เพลงของเธอยังดังติดตลาด ตลอดเวลาฟังเมื่อไรก็ไม่เบื่อ *ผู้เข้าประกวดร้องเพลงลูกทุ่งมักจะนำเพลงของเธอไปร้องประกวด *ตัวผู้เขียนเองก็จะร้องเพลงของเธอเวลาได้รับเชิญในงานต่าง ๆ เพลงที่ชอบมากคือ "สาวเพชรบุรี" "คืนนี้เมื่อปีกลาย" เอแล้วเพลงอะไรหนาที่ร้องว่า "ฉันทูนให้เธอแล้วทุกสิ่ง แม้ความสาวสดเพลิดพลิ้งที่หญิงห่วงหวงก็ถูกเธอลวงหลอกทำลาย" เพลงนี้ชอบร้องมากเพราะมันสะท้อนความรู้สึกของตัวเองออกมาดีจริง *แต่เวลาจะร้องเพลงของเธอ จะขออนุญาตเธอก่อนทุกครั้ง ทำให้มั่นใจในการร้อง *ขอบคุณพี่พิสูจน์ที่เสาะแสวงหาความรู้มาให้

สวัสดีค่ะ

P

          ประทับใจกับประวัติของพุ่มพวงมาก แต่ก่อน ชอบฟังเพลงของเธอ สนุกสนาน ร้องตามง่าย

น่าเสียดายอายุสั้นค่ะ

  • ขอบคุณครับ คุณศศินันท์ แวะมาชื่นชมพุ่มพวง
  • เธอเป็นนักร้องในดวงใจของคนไทยทีเดียวครับ
  • และขอขอบคุณ พุ่มพวง ๒
  • ศน.สุมาลี เงาเสียงของพุ่มพวง ครับ
  • ที่แวะมาเสวนากัน
  • ขอบคุณค่ะพี่พิสูจน์ที่ยังฟังหนูร้องเพลงได้เพราะ
  • นึกได้แล้ว เพลงที่ชอบมากสี่สุดตามเนื้อร้องนั้นชื่อเพลง "บทเรียนราคาแพง"
  • เป็นบทเรียนที่แพงจริง ๆ สมกับชื่อเพลง
  • เวลาจะร้องเพลงของพุ่มพวง ต้องรวบรวมสมาธิ เพราะเพลงของเธอแต่ละเพลงต้องใช้พลังเสียงมาก
  • อย่างนี้ ใช่ไหมครับ ศน.สุมาลี ที่เรียกว่าแฟนพันธุ์แท้ ของพุ่มพวง

 

ชอบคุณพุ่มพวงมากค่ะ เพราะประทับใจการเรียนรู้ด้วยตนเองของเธอมาก ถ้ายังมีชีวิตอยู่จะให้เป็นบุคคลดีเด่นของกศน.

ันที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕

เสียงเพลงสุดท้ายจากเวทีที่จัดขึ้นเฉพาะกิจเงียบไปเมื่อเวลาค่อนรุ่ง ผู้คนนับหมื่นที่อัดตัวเองแน่นอยู่ในลานวัดมกุฏกษัตริยาราม ตลอดจนบนถนนกรุงเกษมหน้าวัด ทยอยแยกย้ายกลับคืนยังบ้านตน แต่ก็มีกว่าพันคนที่ยืนหยัดปักหลักอยู่ ณ ที่นั้น ดวงใจทุกดวงระลึกถึงคนคนเดียวกัน ริมฝีปากต่างเม้มสนิท ไม่มีถ้อยวาจาใดแทรกทำลายความวังเวงที่ทุกผู้คนสมัครใจให้ปรากฏขึ้น เพื่อคารวะแด่ดวงวิญญาณที่จากไป

บนเวที บรรดานักร้องชายหญิงต่างอยู่ในภวังค์ สายตาจ้องมองไปจุดเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย สุดสายตาคือโลงศพสีขาวคลุมด้วยแพรลูกไม้ขาวขลิบทองซึ่งตั้งอยู่ในศาลา

ในโลงย่อมไร้ลมหายใจ แต่ในหัวใจไฉนกลับคล้ายได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของใครคนหนึ่งที่พึงใจในเสียงดนตรีมาชั่วชีวิต

หญิงสาวในโลงศพสีขาว ผู้ขับเสียงเพลงเพื่อผู้อื่นตราบกระทั่งวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๓๕ อันเป็นวาระสุดท้าย นักร้องนักดนตรีทุกผู้คนจึงรวมตัวกันจัดเวทีตระการ ร้องกล่อมเธอตอบแทนตลอดคืนอันยาวนานที่กำลังผ่านไป

แดดเช้าแรขอบฟ้าด้านตะวันออก แสงแดดเดินทางมาพร้อมกับผู้คนที่มุ่งหน้าจากเคหสถาน จากจำนวนพัน...เพิ่มเป็นสองพัน สามพัน กระทั่งลานวัดกว้างใหญ่กลายเป็นสถานแออัดของผู้คนร่วมหมื่นอีกครา สายตาแต่ละคู่ตรึงอยู่กับโลงศพสีขาวในศาลาหมายเลขสิบ กระทั่งมีเสียงซุบซิบเบาๆ ถึงการปรากฏตัวของใครคนหนึ่งที่ประตูวัด

“โน่นแน่ะ มาแล้ว” เสียงกระซิบบอกต่อกันกลายเป็นระงมไปทั่วบริเวณ เรียกให้ทุกผู้คนมองไปเป็นตาเดียว

“บวชเป็นพระแล้ว” ใครคนหนึ่งพึมพำราวจะอโหสิให้

“เขาสำนึกได้”

“เชอะ” อีกน้ำเสียงสะบัดอย่างขุ่นในใจ จนคนข้างๆ ต้องปลอบเตือน

“เห็นแก่ผ้าเหลืองเถอะ เดี๋ยวคนตายจะไม่สบายใจ”

พระเกสโรภิกขุ หรือพระเอกไกรสร แสงอนันต์ ในความรู้จักของผู้คน ก้าวย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ มุ่งตรงไปยังศาลาวางศพ สีหน้าของพระเรียบเฉยราวไม่รับรู้ความรู้สึกของผู้คนเรือนหมื่นที่รายรอบ หากสิ่งซึ่งไม่สามารถซ่อนได้คือดวงตา มันก่ำแดงราวเพิ่งผ่านการร้องไห้

เคียงมากับเกสโรภิกขุ คือ หลวงพ่อพระอมรเวที รองเจ้าอาวาสวัดเฉลิมพระเกียรติ นนทบุรี ผู้เป็นพระคู่สวดในวันอุปสมบท และเด็กชายตัวน้อย วัยประมาณสี่ขวบเศษ

“นั่นไงน้องเพชร น่าสงสารจัง”

“บ่อยบ๊อย เขาชื่อน้องบ่อยบ๊อย”

“อย่าเรียกชื่อนั้น” หญิงสาวคนแรกเสียงแข็ง “คนที่จะเรียกอย่างนั้นได้ มีแต่แม่เค้าคนเดียว”

ก้าวขึ้นสู่ศาลาตั้งศพ ภิกษุหนุ่มยืนตรงหน้าโลง ค้อมศีรษะสงบนิ่ง ขณะที่เด็กชายทรุดตัวลงกับพื้นกราบศพมารดา ห่างออกไปที่อีกมุมหนึ่งของศาลา เล็ก จิตรหาญ หญิงชราวัยห้าสิบเจ็ดยืนน้ำตาคลอ

เข็มนาฬิกาเคลื่อนตัวถึง ๐๙.๐๐ น. ขณะบนศาลากำลังมีพิธีทำบุญเลี้ยงพระ รถด๊อดจ์หกล้อสีครีม ทะเบียน ๔ น – ๑๗๗๗ กรุงเทพมหานคร เคลื่อนตัวเทียบหน้าศาลาเชื่องช้า ยงยุทธ สนทอง ผู้เฒ่าวัยห้าสิบในชุดเครื่องแบบขาวกระดุมทองเหลืองก้าวลงจากที่นั่งคนขับ ตรวจความเรียบร้อยของรถเป็นครั้งสุดท้าย

ฉัตรหนึ่งคู่เคียงด้วยพัดจำนวนเท่ากันปักปรากฏอยู่เบื้องซ้ายขวาเทพพนม ถัดเข้าไปเป็นวอหลังคาสีทองมีอุบะมะลิระย้า ม่านสักหลาดแดงขึงบังทั้งสี่มุม ประดับด้วยกุหลาบสีชมพูกว่าร้อยดอกที่บานกลีบกระจายกลิ่นราวจะส่งให้ข้ามถึงสัมปรายภพ

เด็กสาววัย ๑๖ – ๑๗ สี่คนในชุดหางเครื่องสีส้มแสดขลิบดำนั่งประจำอยู่สี่มุม เธอทุกคนใบหน้าหม่นเศร้า ผู้เฒ่ามองแล้วอดพึมพำด้วยความเห็นใจไม่ได้ ความตายนับเป็นเรื่องโหดร้ายของชีวิต ครั้นมองทอดไปทั้งบริเวณลานเล่า ทุกใบหน้าล้วนบอกความรู้สึกเดียวกัน เป็นบรรยากาศที่ทำให้ชายชราหวนนึกถึงงานหนึ่งที่ตนเคยทำเมื่อวัยฉกรรจ์

เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓ ยงยุทธ สนทอง ขับรถบรรทุกร่างไร้วิญญาณของพระเอกตลอดกาล มิตร ชัยบัญชา จากวัดแคนางเลิ้งไปยังฌาปนสถานวัดเทพศิรินทร์ ขับผ่านธารน้ำตาและความโศกเศร้าของผู้คนรอบทิศ มาในวันนี้...คนคนเดียวกันและรถคันเดิมกำลังจะทำหน้าที่ที่ประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้อีกครา

เป็นประวัติศาสตร์ที่เขาไม่อยากให้บังเกิดแม้แต่น้อย

ชายชรามองเข้าไปในศาลาตั้งศพ รูปถ่ายหญิงสาวที่ตั้งเยื้องหน้าโลงยิ้มละไมราวมีชีวิต ใบหน้าเอิบอิ่ม สดใสเช่นเดียวกับทุกคราวที่ปรากฏกายต่อหน้าคนนับพันนับหมื่นในความทรงจำ ผู้เฒ่าแว่วยินเสียงเพลงที่เธอเคยขับกล่อมสร้างความสุขเพลงแล้วเพลงเล่า....

ภวังค์ของสารถีชราถูกปลุกด้วยเสียงจากความเป็นจริงเวลา ๐๙.๔๕ น. แตรวงประโคมบรรเลงเพลงธรณีกันแสงในท่ามบรรยากาศเยือกเย็น ชายหนุ่มนับสิบในเครื่องแบบเจ้าหน้าที่วัดช่วยกันยกโลงศพจากศาลามุ่งตรงมาที่รถ เสียงสะอื้นไห้เบาๆ จากผู้คนรายรอบเป็นเสียงร่ำโฮสุดกลั้น หลายคนถลาเข้าหาโลง เอื้อมมือเคาะส่งความคิดถึงเป็นครั้งสุดท้าย

โลงสีขาวคลุมแพรสีขาวมัดโยงด้วยสายสิญจน์ อีกปลายของเส้นด้ายขาวอยู่ในมือเกสโรภิกขุ หนุ่มใหญ่ อำนาจ จิตรหาญ อุ้มกระถางธูปเดินนำหน้าเคียงมากับแม่เล็ก ผู้มีรูปของบุตรสาวอยู่ในอ้อมกอด ขณะที่ไพจิตร ศุภวารี ผู้ยิ่งยงคนหนึ่งของวงการบันเทิงอุ้มเด็กชายสันติภาพหรือน้องเพชรตามมา

แดดที่แผดจ้าอาจจะเผาหยาดน้ำทั้งมวลบนโลกให้เหือดระเหยเป็นไอได้ แต่แดดจากดวงอาทิตย์ดวงเดียวกันไม่อาจเผาหยาดน้ำตาที่เอ่ออาบแก้มผู้คนได้ แม้ทำงานใกล้ชิดกับความตายมากกว่าครึ่งชีวิต ผู้เฒ่าสารถียังรู้สึกสะทกสะท้านในอก

“หนูเอ๋ย หลับให้สบายเถอะนะลูก พ่อจะขับรถพาหนู ไปช้าๆ ไม่ให้กระเทือน” แกกระซิบในขณะขยับเกียร์ เท้าถอนจากคลัตช์แผ่วเบา

รถเคลื่อนจากวัดไปช้าๆ มุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ สองฝั่งถนนมีผู้คนรอส่งเธอแน่ขนัด จากถนนราชดำเนิน เคลื่อนข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า มุ่งไปตามถนนสายตลิ่งชัน- สุพรรณบุรี กระทั่งถึงแยกวัดไผ่โรงวัว จึงเลี้ยวเพื่อเข้าสู่มาลัยแมน แล้วตัดตลาดทุ่งคอกเข้าถนนสายพระแท่นดงรัง เพื่อไปถึงจุดหมายวัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี สถานที่สำหรับการพระราชทานเพลิงในอีก ๓๒ วันข้างหน้า

กับการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิต...หญิงสาวในโลงศพสีขาวจะรู้ไหมว่าเธอได้รับการทะนุถนอมเพียงใด และหากล่วงรู้ได้ เธอจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อที่ครั้งยังลืมตามองเห็นโลก การเดินทางแต่ละครั้งของเธอหมายถึงความสุข ความอิ่ม และลมหายใจของทุกคนที่อยู่ข้างเคียง ไม่ใช่เฉพาะเธอเอง!

หญิงสาวผู้ยุติชีวิตแค่วัยสามสิบเอ็ด ผู้ต้องเริ่มเดินทางตั้งแต่อายุยังไม่เต็มสิบขวบ

ชีวิตที่ทำเพื่อผู้อื่นเสมอมา จะรู้ไหมว่า วันนี้...มีผู้ทำให้เธอบ้างแล้ว

หากล่วงรู้ได้ เธอจะดีใจหรือเสียใจหนอ

พุ่ม...พานดอกดุจดั่ง เเก้วมณี

พวง...ระย้าเเย้มดี สว่างหล้า

ดวง...ประหนึ่งกระดังงา หอมกรุ่น

จันทร์...เจ้าลาลับโลก ล่วงลับหลับนิรันดร์

เปนดวงใจดวงหนึ่งในใจของน้องทั้งน้ำเสียงอันไพเราะกับความสง่างามในสายตาของน้องอยากบอกฝากสายลมทั้งกลางวันและกลางคืนว่าน้องไม่เคยลืมเลือนพี่เลยและจะนำภาพพี่ที่ติดตาน้ำเสียงที่ไพเราะติดตามน้องตลอดกาลจนวันที่ดับสลายแบบพี่ไปพบพี่ทุกปีที่วัดทับกระดานเมื่อถึงวันที่13มิถุนายนทุกปี คิดถึงพี่เสมอ เจอพี่ในฝันยังไม่อยากตื่นเลย

รักคิดถึงเสมอจากใจน้องถึงพี่ พี่ผึ้ง

คุนพุ่มพวงท่านยังไม่ได้จากเราไปไหน ท่านยังเฝ้ามองอยู่ทุกครั้งเพื่อคอยเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีความฝันที่อยากจะเป็นนักน้อง เกือบทุกเวทีประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง เพลงม่ายขันหมาก สยามเมืองยิ้ม แก้วรอพี่ และอีกหลายๆบทเพลงยังถูกขับขานครั้งแล้วครั้งเล่าโดยนักร้องผู้มีความใฝ่ฝันอยู่เสมอ ท่านเปรียบดั่งคชสารที่จากเราไป แต่การจากไปของท่านไม่ใช่การจากไปที่เปล่าประโยชน์เสียเปล่า แต่ท่านได้ฝากมรดกทางวัฒนธรรมไว้ให้ชนรุ่นหลังได้อนุรักษณ์สืบไปดั่งคชสารที่ฝากงาอันงดงามดั่งแก้วมณีไว้

รักคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเป็นนักร้องที่ชื่นชอบมากๆ

อาจารย์นพพร ชื่นพันธ์

ขอแสดงความเสียใจ และระลึกถึงราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์

ชอบเพลงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ มากมากเลยค่ะ เช่น เพลง สาวนาสั่งแฟน

เพลง ตั๊กแตนผูกโบว์ เพลง หนูไม่เอา และเพลง หนูไม่รู้

อ่านด้วยร้องไห้ด้วย รักแม่ผึ้งมากที่สุด. เนี่ยฟังเพลงแม่ผึ้งทุกวัน. ด้วยความฝัน อยากจะเป็นนักร้องลูกทุ่ง อยากเป็นเหมือนแม่ผึ้ง. ไม่น่าเชื่อว่าถึงแม่ผึ้งจะจากไปก่อนหนูเกิด..หนูเลยอดเห็นแม่ผึ้ง เสียใจสุดๆ ไม่มีใครเทียบได้จริงๆ ดีใจ อย่างน้อยก็คนจังหวัดเดียวกัน

พอดีผมก็ชอบพี่พุ่มพวง อยากฟังเพลงราชินีลูกทุ่งเข้าตรงไหนได้หรอครับบอกผมทีเนอะ     พ่อผมคนสุพรรณ เข้าชอบฟัง ผมก็เลยได้ฟังไปด้วย

เนื้อหา เยอะมาก ที่ยังไม่ได้อ่านก็เยอะจริงๆ

ตอนนี้ ผมกำลังรวบรวมเพลงที่คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ร้องเอาไว้ แล้วนำเสนอที่บล็อกครับ

http://queenofcountrysong.blogspot.com/ แวะเข้าไปเยี่ยมชม คอมเม้นท์กันได้นะครับ

...แวะเข้าไปเสนอแนะบ้าง จะขอบคุณทุกท่านมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท