อยากบอกศิษย์...จากใจครู


ครูทุกท่านย่อมมีความหวังดีต่อศิษย์ เพียงแต่การแสดงออกอาจมีรูปแบบแตกต่างกันไป

การจากไปของผศ. สุรินทร์  ชูชาติไทย ทำให้อาจารย์หวนนึกถึงความเป็นครูและคำสอนของท่าน    เมื่อได้อ่านคำสอนของท่านในวารสารทันตภูธรปีที่  17 ฉบับที่  2  ก็ยิ่งคิดถึงอาจารย์ขึ้นมาอย่างจับใจ และเห็นว่าน่าจะเป็นคำสอนที่เป็นมงคลและสมควรนำมาเริ่มบันทึกในหน้า "อยากบอกศิษย์..จากใจครู" นี้ 

ดาราภาพยนตร์นั้น  เมื่อแสดง เขาย่อมแสดงให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง  ไม่ว่าเขาจะถูกให้แสดงเป็นพระราชา  พลทหาร  เศรษฐี หรือขอทาน  เขาจะต้องแสดงให้สมบทบาทที่ได้รับ  จนคนดูลืมตัวตนจริงๆ ของเขาไปเลย

การทำงานก็เหมือนกัน  ต้องทำงานให้สมบทบาทที่ได้รับมอบหมาย  เมื่อเป็นลูกน้องก็เป็นลูกน้องที่ดี  เมื่อเป็นนายก็เล่นบทนายที่ดี  เป็นหมอก็เป็นหมอที่ดี  ไม่ใช่เป็นหมอแต่เล่นบทนักธุรกิจ  หรือช่างเสริมสวย

ครูอยากเห็นเธอได้รับตุ๊กตาทอง

(ผศ. ทพ. สุรินทร์  ชูชาติไทย)

คำสำคัญ (Tags): #คนดี
หมายเลขบันทึก: 120582เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2007 09:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เป็นคำสอนที่เป็นมงคลดีจริงๆด้วยค่ะ ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกัน การทำงานต้องทำให้สมบทบาท

การเป็นอาจารย์ไม่เพียงแต่สอนเฉพาะในเนื้อหาทางวิชาการเท่านั้น   จะต้องสอนการอยู่ในสังคมอย่างมีคุณธรรมร่วมด้วย 

การสอนต้องใช้หลากหลายวิธี  อาจจะไม่ได้ถูกใจนักศึกษาไปทั้งหมด  แต่นั่นคือหน้าที่ของอาจารย์ 

มนุษย์ทุกคนล้วนมีหน้าที่แตกต่างกันไป เราต้องทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ ครูมีหน้าที่ให้ ส่วนผู้เรียนมีหน้าที่รับและนำไปเผยแพร่ต่อ หากเรามัวแต่ตำหนิผู้อื่นจนลืมมองไปว่าตนเองทำหน้าที่ได้ครบถ้วนแล้วหรือไม่ จะทำให้ตัวเราไม่มีความสุขรวมทั้งบุคคลรอบข้าง และจะสร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้น หันหน้าเข้าหากันและปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ จากนั้นช่วยเหลือผู้อื่น เท่านี้จะทำให้เราอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่เป็นนักเรียนแต่รวมถึงการทำงานในหน้าที่ต่างๆกันในอนาคตด้วยครับ
มีครั้งหนึ่งที่ผมได้เข้าร่วมการสัมมนาวงเล็กๆ ที่มีครูจากโรงเรียนประชาบาลมาแลกเปลี่ยนแนวคิดงานสร้างเสริมสุขภาพในโรงเรียน  ครูคนหนึ่งได้ทำให้ผมรู้สึกเห็นใจและชื่นชมครูในโรงเรียนประชาบาลเป็นอย่างมาก  โดยครูท่านนี้ได้กล่าวถึงความในใจของตนตอนหนึ่งว่า ความสุขของครูนั้นมิได้อยู่ที่สามารถส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนที่เก่งเท่านั้น  แต่ยังอยู่ที่การช่วยให้นักเรียนที่อ่อน  ให้เขาเข้มแข็งและพอที่จะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้

-ครูสมศรี (อิ๋ว) ค่ายเด็กรักษ์ฟันครั้งที่ 3-

หากคุณกำลังรู้สึกท้อแท้  เหนื่อยล้ากับการพร่ำสอนลูกศิษย์  ในขณะที่เห็นเพื่อนครูคนอื่นๆ กำลังก้าวหน้าในงานวิชาการจนได้รับการเลื่อนตำแหน่งแล้วเลื่อนตำแหน่งอีกละก็  ลองฟังสิ่งที่ศิษย์คนหนึ่งได้เขียนถึงครูที่ยิ่งใหญ่ของเขาไว้สักนิด  ในตอนหนึ่งของคำไว้อาลัยการจากไปของครูท่านนี้ว่า

 ผมรู้สึกซาบซึ้งกับการทำหน้าที่ที่หนักอึ้งของครูมากเหลือเกิน  จะมีกี่คนนะที่จะตระหนักดีว่าการสร้างคนนั้นใช้เวลาและเป็นงานยากยิ่งกว่าการสร้างองค์ความรู้ใดๆ เสียอีก 

ตอนนี้คุณรู้สึกหายเหนื่อยขึ้นบ้างหรือยังครับ

-คำอาลัยต่อ ศ. เดวิด  ไวอาทท์ นักประวัติศาสตร์ไทยผู้ยิ่งใหญ่-

สวัสดีค่ะ อาจารย์อ๊อด

ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ อ๋อเป็นบรรณาธิการวารสารทันตภูธรคนปัจจุบันค่ะ รู้สึกดีใจมากๆค่ะ  ที่อาจารย์อ๊อดได้อ่านวารสารทันตภูธรค่ะ  สอบถามจากพี่แพร ได้ความว่า อาจารย์อ๊อดเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งชมรมทันตภูธรรุ่นแรกๆ และดีใจมากๆๆๆที่คำสอนของอ.สุรินทร์เผยแพร่ออกสู่สาธารณะได้กว้างขวางขึ้นเช่นนี้

ขอบพระคุณค่ะ

อ๋อค่ะ

ลูกศิษย์ที่ดี ต้อง ไม่ ทำ ความ เดือดร้อน ให้ ตนเอง คนรอบข้าง ครูบาอาจารย์ สังคม ส่วนรวม และที่สำคัญ ผู้อยู่เบื้องคือทางบ้านพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่น้อง ไม่เช่นนั้น ทางบ้าน จะ ห่วง ไม่ สบายใจ ต้องเป็นคนดีของสังคม มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี รักเรียน ไม่สนุกไปวัน วัน

ภาระของพ่อแม่นั้นใหญ่หลวง

ได้ฟังความรู้สึกของผู้ปกครองท่านนี้แล้วก็พลอยรู้สึก ไม่สบายใจ ไปกับท่านด้วย 

ไม่อยากให้ท่านใช้นามแฝงว่า "หนักใจกับลูกมาก" อีกเลยครับ เพราะท่านไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่ "หนักใจ" เช่นนี้ตลอดไป  ชื่อคนเขายังเปลี่ยนกันเป็นว่าเล่นเลยครับ

ที่อาจารย์ว่า "ภาระของพ่อแม่นั้นใหญ่หลวง" นั้น ก็เพราะ ท่านต้องรับผิดชอบ ดูแล เอาใจใส่ ให้ความรักแก่ลูกอย่างมากที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน (จริงๆ) เป็นเวลาหลายๆ ปี  ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ท่านจะเกิด "ความคาดหวัง" อย่างที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อน เช่นกัน

พระผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เคยกล่าวไว้ว่า พ่อ แม่ นั้นเป็นต้นแบบของ ความเมตตา ความกรุณา ความมุทิตา ได้อย่างยอดเยี่ยม  แต่พ่อแม่น้อยคนที่จะเป็นตัวอย่างของ ความมีอุเบกขาได้

"ความมีอุเบกขา" คำนี้มีการให้นิยามกันหลายหลาก  แต่ที่อาจารย์เข้าใจได้ดีที่สุด ก็คือ การที่เรามีความเข้าใจกับความจริงของธรรมชาติ  และสามารถรับกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วยความมีสติ ไม่รู้สึก "บวก" หรือ "ลบ" สุดๆ นั่นเอง  (ดัดแปลงจากนิยามของพระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ. ปยุตโต)

การเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์ จึงน่าจะเป็นกระบวนการปฏิบัติธรรมชั้นสูงเลยทีเดียว ซึ่งถ้าทำได้ ผู้ปกครองท่านนี้คงจะไม่กลายเป็นผู้ที่หนักใจกับลูกมากอีกต่อไป

สำหรับลูกๆ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรฝึกฝนที่จะพัฒนาจิตใจของตนเองตามไปด้วย  อย่างน้อยเราควรที่จะมี เมตตา และกรุณา กับพ่อแม่ และผู้อบรมเลี้ยงดูเราให้มากขึ้น  ลองคิดอย่างมี common sense (สามัญสำนึก) ว่าเมื่อเรากลายเป็นพ่อแม่เสียเองแล้ว  เราอยากให้ลูกของเราทำตัวอย่างไร  เราก็ควรปฏิบัติตัวเช่นนั้นกับพ่อแม่ของเราซะ ตั้งแต่วันนี้

ก่อนที่จะสายเกินไป...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท