ท่านอาจารย์ Handy จั่วหัวไว้ว่าขอรับประสบการณ์ในหัวข้อ “การใช้ ICT ในการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยและองค์กร” แหม..อยากจะช่วย แต่ไตร่ตรองดูแล้วประสบการณ์เราจะเข้าแก๊ป หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ อย่างไรก็นำเสนอให้พิจารณาก็แล้วกัน อยากช่วย อ๊ะ
ความเป็นมา: พ.ศ. 2533 ผมเข้าทำงานกับโครงการ “การจัดการน้ำชลประทานในระดับฟาร์ม” (On Farm Water Management Project) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสังคม โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลประเทศเนเทอร์แลนด์ ที่เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์
ความรับผิดชอบ: (คร่าวๆ) ร่วมกับฝ่ายฝึกอบรม ทำการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ICO (Irrigation Coordination Officer) รับผิดชอบเป็นพี่เลี้ยงให้ ICO ไปพัฒนาความสามารถให้กับ คณะกรรมการกลุ่มผู้ใช้น้ำ ที่รับน้ำชลประทานเขื่อนลำปาว ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 100,000 ไร่
ภารกิจ: คัดเลือกนักศึกษาปริญญาตรีด้านสังคมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ พัฒนาชุมชน แล้วร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านฝึกอบรมจัดหลักสูตรฝึกอบรมและเป็นพี่เลี้ยงในการทำงานในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 15 คน จัดประชุมประจำเดือนของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด
สิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์ที่เกี่ยวกับ ICT: ปัญหาที่พบ
ตัวอย่าง memo 1
ผมจึงคิดแก้ปัญหาโดย
ตัวอย่าง memo 2
ผลที่เกิดขึ้น
ตัวอย่าง memo 3
เปรียบเทียบ
เอกสารรวมเล่มบันทึกที่จัดทำขึ้นทั้งหมด
ผลกระทบ
สรุป
นี่คือประสบการณ์แบบคร่าวๆในเรื่องที่เกี่ยวกับ ICT ในองค์กรพัฒนาชุมชนครับ
สวัสดีน้องลูกหว้า
ขอบคุณอย่างยิ่งครับ
นี่คือสุดยอดครับ .. กลั่นมาด้วยใจอยากแบ่งปัน เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ร่วมกัน มีแต่ได้ไม่มีเสียครับ ผู้รับสารจะได้หลากหลายประสบการณ์ จากหลากหลายบริบท นำไปปรุง ไปปรับใช้ได้กว้างขวางยิ่งขึ้นครับ
ลูกหว้า ก็อย่าตื่นเต้น ตกใจมากไป .. ท่านผู้ใหญ่ ทำมามาก ทำมานาน เรา ลูกหลานสั่งสมไปเดี๋ยวก็มากเอง .. นะจ๊ะ .. นะจ๊ะ .. อิ อิ อิ.
สวัสดีค่ะพี่ บางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)
จะมาบอกว่าเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลยค่ะ ^ ^
กำลังหาตัวอย่างคำตอบไปตอบอ. innoPhys ที่มาถามเกี่ยวกับเครื่องมือการจัดการความรู้ถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ต ที่คำถามเครือข่ายชุมชนต่อต้านยาเสพติด พอดีเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ถ้าไม่มีตัวอย่างนี้ จะตอบได้ยากมากเลย
ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอconfirmค่ะ ดีๆมากเลยค่ะ
สวัสดีครับท่าน Handy
สวัสดีครับ pa_daeng
สวัสดีครับน้อง กมลวัลย์
ท่านพี่ sasinanda มา confirm แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ เป็นวิธีการเติมเต็มที่ดีมาก แบบทำได้ตลอดเวลาที่เราเฝ้าสอดส่องดูว่าใครยังไม่เข้าใจเรื่องอะไร หรือเราต้องการจะเพิ่มอะไร เน้นอะไร
การฝึกอบรมนั้น แค่ความรู้ผ่านหู ผ่านประสาทรับรู้ไปเท่านั้น พอการปฏิบัติจริงมันอีกเรื่องเลยนะครับ ต้อง consult มากเลย โดยเฉพาะเรื่องที่ sensitive ยิ่งต้องใกล้ชิด เติมเต็มอยู่เรื่อยๆ
แม้การฝึกอบรมเน้นการฝึกปฏิบัติภาคสนามก็เถอะ เรื่องนี้ขอให้นึกกระบวนการฝึกแพทย์ ที่เรียก Intern ต้องมีการฝึกเป็นปี และมีอาจารย์หมอกำกับตลอด
การฝึกคนทำงานก็เหมือนกันเมื่อเข้ากระบวนการฝึกอบรมที่เน้นการปฏิบัติแล้ว ยังจำเป็นต้องมีพี่พี่ คอยช่วยเติมเต็มอีก อย่างที่ผมและพี่ท่านทำนี่แหละครับ
ต้องอย่าลืมว่าการทำเช่นนี้เป็นเพียงเสริมเท่านั้น กระบวนการทั้งหมดต้องประกอบกันและกัน เพียงการทำบันทึกเสริมนี้มีบทบาทมากเพราะจี้จุดตรงๆไปเลยว่าเขาขาดอะไรเติมเต็มตรงนั้นครับ
ขอบคุณครับที่มา confirm ครับ