วันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ 4 - 5 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา ผมไม่ได้มีภารกิจที่จะต้องเดินทางไปไหน เลยถือโอกาสเข้าไปนอนที่บ้านพักที่สวนของผม ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 10 ก.ม. ซึ่งเป็นปกติของทุกวันหยุด
เช้าวันเสาร์ที่ 4 ฝนตกหนักมาก ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยนั่งดูสายฝน และคิดไปเรื่อยๆ ย้อนไปเมื่ออาทิตย์ก่อน (28-30 ก.ค.2550) ผมและครอบครัว ได้ไปร่วมงานเฮฮาศาสตร์ที่สวนป่าครูบาสุทธินันท์ ที่บุรีรัมย์ ไปงานนี้ผมได้เรียนรู้ในหลายๆ อย่างครับ และที่น่าจะสำคัญจนนำมาเชื่อมโยงกับบันทึกนี้ก็คือ การที่ได้ไปเยี่ยมสวนป่าของครูบา ทำให้ผมมีความเชื่อมั่นในแนวคิดเดิมของตนเอง ที่เคยได้ตั้งเป้าหมายอาชีพหลังเกษียณอายุราชการก็คือการกลับไปเป็นเกษตรกร อยู่กับสวนที่เราได้ลงมือทำไว้แล้ว (10 ปีมาแล้ว)
<p> เมื่อมองฝ่าสายฝนไปเห็นต้นไม้ที่ปลูกไว้หลายๆ ชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นไม้ผลพวกลำไย มะม่วง ไม้ไผ่ ฯลฯ แต่ความคิดที่เชื่อมโยงจากการไปร่วมเฮฮาศาสตร์ก็คือ เราน่าจะปลูกไม้ป่าหรือต้นไม้อื่นๆ ไว้ในสวนแห่งนี้ด้วย จากอดีตผมไม่เคยได้คิดถึงไม้ยืนต้นเหล่านี้มาก่อนเลย คิดแต่จะปลูกไม้ผลที่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ตามกระแสของการพัฒนาทางการเกษตรที่ได้พบได้เห็นมา คือเพื่อผลตอบแทนที่เป็นเงินนั่นเอง</p><p> พื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ติดลำคลองสวนหมาก ได้ถูกปลูกไม้ผลและไม้ยืนต้นต่างๆ ไว้จะเต็มพื้นที่อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นลำไยประมาณ 400 ต้น มะม่วง เกือบๆ 300 ต้น ไม้ไผ่ 100 กว่ากอ นอกนั้นก็เป็นกล้วย หวาย ขนุน ฯลฯ </p><p align="center">
มะม่วง - ลำไย อายุประมาณ 10 ปี</p><p align="center">
ต้นไผ่ 100 กว่ากอ</p><p align="center">
ไม้ผลและไม้ยืนต้นอื่นๆ </p><p> ปลูกต้นไม้และทำสวนมาแล้วร่วม 10 ปี หากคิดรายได้ที่เกิดขึ้น หากคิดต้นทุนบวกลบคูณหารแล้วยอมรับว่ายังไม่ได้กำไรครับ ทำให้ย้อนคิดไปถึงพี่น้องเกษตรกรทั้งหลายที่ผมกำลังทำงานส่งเสริมอยู่ในขณะนี้ ก็คงจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ผลตอบแทนที่คุ้มกับการลงทุน (หากคิดที่จะทำการเกษตรแบบทำมาค้าขาย)</p><p> วันนี้ผมขอถอยหลังจากเส้นทางเดิม 1 ก้าว แต่เริ่มก้าวเดินในเส้นทางสายใหม่ และได้ตัดสินใจใหม่แล้วครับ จุดเปลี่ยนมาจากได้ไปเห็นสวนป่าของครูบาสุทธินันท์ ที่เห็นการสร้างป่าและอาศัยอยู่กับป่า ที่เราสร้างมันขึ้นมา เราสามารถพึ่งพามันได้ ประกอบกับผลตอบแทนที่ได้จากการลงมือทำสวนเองมาแล้วแต่คิดว่ายังไม่สำเร็จ</p><p> คิดเล่นๆ แต่จะทำจริงๆ ต่อไปในอนาคตนี้ก็คือ</p><ul>
</ul><p> คงจะไม่คาดหวังหรือกำหนดอะไรไว้มากไปกว่านี้อีกแล้วล่ะครับ เป็นการทบทวนตนเอง พร้อมกับปฏิบัติและเรียนรู้จากการกระทำ และจะเริ่มที่ตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปแลกเปลี่ยนหรือแบ่งปันประสบการณ์กับใครในเส้นทางสายนี้ในอนาคต</p><p> ส่วนงานประจำก็คงจะให้เป็นไปตามธรรมชาติของมัน บางครั้งก็จะสวนกระแสบ้างเพื่อไปในทิศทางที่ถูกต้องและควรจะเป็น และจะต้องทำงานให้คุ้มกับผลตอบแทนที่ได้รับมา (อันนี้ขอสัญญา) แต่ถึงอย่างไรในระบบก็คงจะทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านี้อีกแล้ว ในทางที่กลับกันการทำงานแบบไม่ติดกรอบ อิงระบบเหมือนชุมชนของ G2K ในแนวทางของเฮฮาศาสตร์ น่าจะเหมาะสมกับตัวเราเองมากที่สุด ได้เห็นตนเอง ค้นพบตนเอง เห็นทางสดใสและมีความปิติสุข คิดว่าได้ปีนมาถึงตรงขอบอ่างในส่วนที่พ้นน้ำได้แล้ว คงจะไม่หวลกลับไปลงน้ำและวนอยู่ในอ่างอีกต่อไป</p><p> ใครผ่านกำแพงเพชรเชิญแวะเที่ยวสวนที่กำลังจะทำให้เป็นป่า และมาเสวนาตามประสาคนนอกกรอบได้นะครับ ช่วงนี้มีหน่อไม้เตรียมพร้อมไว้ต้อนรับครับ…..อิๆๆ (แบบวัยรุ่น)</p><div class="tags">บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ</div><div class="tags"> วีรยุทธ สมป่าสัก 17 ส.ค. 2550 </div>
สวัสดีครับคุณ สิงห์ป่าสัก
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับพี่สิงห์ป่าสัก
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ
ชัดเจน ปลูกป่าซิแน่นอน เย็นร่มรื่น ไม้ผลแซมเพื่อให้สิ่งมีชีวิตใช้เป็นอาหาร (อยากทราบว่าลำไย ลองกอง มังคุด ทุเรียน ขายที่ไหน)
สวัสดี ครับ ท่านสิงห์ป่าสัก
เห็นแล้ว ยูเรก้า จริงๆครับ
ธรรมชาติ + จิตรสงบ(หลุดจากเดิม) = ปัญญา
รูปสวย แอบอิจฉานินๆ สนับสนุนด้วย ในการเกิดปัญญา ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใจจิตร ส่งผลต่อร่างกาย ที่ปฎิบัติในกิจกรรม ตามจิตรต้องการ
เป็นกำลังใจ ให้จริงๆครับ
เรียน พี่แดง - เสวนิตย์
เรียน หนุ่ม ร้อยเกาะ
เรียน พี่เกษตรยะลา
เรียน ท่านพี่เล่าซู
เห็นภาพแล้ว บอกได้คำเดียวว่า สุดยอด
น้ำผึ้งของท่านผมผสมยาบำรุงกับน้ำปั่นผลไม้ดื่มทุกวัน มีแฮงหลาย
เรียน พ่อครูบาสุทธินันท์