ฉันเริ่มงานอาจารย์ครั้งแรกด้วยการสอนวิชาการเขียนบทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ด้วยความรู้และประสบการณ์ตรงจากการเขียนบทสารคดีทางโทรทัศน์ การคลุกคลีในทีมเขียนบทภาพยนตร์อีกเล็กน้อย ประกอบกับการดูหนังเป็นกิจวัตรตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา (ไม่ต้องเดากันหรอกว่า...นานแค่ไหน)
แม้จะมีความมั่นใจในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมาสอนเด็กกว่า 150 คน ฉันเกิดความเครียดสะสมขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผลงานของเด็กไม่ถูกใจฉันเอาซะเลย เอาล่ะสิ มันอยู่ที่เด็กหรืออยู่ที่ฉันกันแน่ ฉันเพียรสอนและสั่งงานให้ผลิตงานเขียนเกือบทุกประเภทที่มี หวังลึกๆ ว่าเขาจะสามารถแยกแยะความแตกต่างของงานเขียนรวมถึงสามารถใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม แม้ว่าฉันต้องตรวจงานกว่าพันชิ้น!!!
เป็นพันชิ้นที่เต็มไปด้วยคำถาม...ทำไม? ทำไม? ทำไม? มันไม่เป็นอย่างที่ฉันคาดหวังเลยสักนิด และแล้วเวลาก็ผ่านไป หมดเทอมแล้ว ในใจฉันรู้สึกว่า...ฉันไม่ประสบความสำเร็จเอาซะเลย...ซึ่งเด็กก็อาจจะคิดเหมือนฉันเช่นกัน
เมื่อฉันมาเริ่มงานอาจารย์ เวลาส่วนตัวของฉันก็ร่อยหรอ กิจกรรมการดูหนังของฉันก็ค่อยๆ จางไป จากที่เคยดูถึง 2 - 3 เรื่องในวันเดียว กลายมาเป็น 2-3 เดือนดูสักเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรื่องที่ฉันเลือกที่จะดูก็ต้องเป็นหนังที่ดูแล้วเดินยิ้มออกจากโรงจนถึงบ้านเท่านั้น ใช่แล้ว!!! หนังรักโรแมนติก
อิ่มใจ...อุ่นใจ หนังรักเป็นหนังที่จรรโลงใจ บางทีตอนนี้ฉันอาจจะหาคำตอบได้บ้างแล้วว่า...ทำอย่างไรจะให้เด็กนักศึกษาเขียนบทเป็นสักที
ฉันจึงถือโอกาสใช้บล็อกแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นจุดประกายให้นักศึกษาซึ่งฉันเชื่อมั่นว่าคงไม่มีหนุ่มสาวคนไหนไม่สนใจใน "ความรัก" บางครั้งบางทีเขาอาจจะได้ใช้บล็อกแห่งนี้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรักที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงทางอ้อมเกิดเป็นโครงเรื่องหรือพล็อท (Plot) เพื่อสร้างสรรค์บทละครหรือบทภาพยนตร์ดีๆ ขึ้นมาสักเรื่อง ไม่แน่ว่า..."หนังรัก" ในดวงใจของคุณเรื่องต่อไปอาจเกิดขึ้นจากบล็อกแห่งนี้ก็ได้...ใครจะรู้...
ซึ่งฉันเชื่ออย่างเหลือเกินว่า...เมื่อเด็กได้เริ่มต้นเขียนจากสิ่งที่สนใจและใกล้ตัว มันจะเป็นหัวไม้ขีดชั้นดีที่สร้างเปลวไฟให้ลุกลามต่อไปอย่างไม่มีวันดับ...
และแน่นอน...เมื่อบล็อกนี้เติบใหญ่...อาณาเขตผืนนี้คงไม่ได้มีแค่เพียงบทหนังรัก
ขออวยพรและเป็นกำลังใจให้อาจารย์นะคะ.....หวังว่านักศึกษาจะได้พัฒนาการเขียนดังที่อาจารย์ตั้งใจ...
ถ้าจะให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรักบ้างก็คงต้องขอตัว.....แต่ที่เคยเห้นมากับตัวแล้วดังมาก็คือเรื่อง"เพื่อนสนิท"นั่นแหละคะ.....
เราซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เองก็ไม่รู้เรื่องอะไรว่าไอ้เพื่อนนักเขียนไส้แห้งของเพื่อเราเองมาแฝงตัวในหมู่เพื่อนพ้องน้องพี่คณะเรา...แล้วในอนาคตมันก็เอาชีวิตของพวกเรา(ที่พวกเรากันเองคิดว่าก็มันส์กันสุด ๆ )ไปเขียนเป็นหนังสือ ได้รางวัล ขายดิบขายดีแล้วก็เป็นภาพยนตร์จนคณะเราเกิดไปเลย
หลายคนคงอยากรู้ว่าดากานดา กับ ไข่ย้อย เป็นใคร อันนี้ไม่มีใครรู้ได้ หรือจะมีคนนั้นจริง ๆ หรือไม่(ต้องถามคนเขียนเอง)
แต่ที่อยากจะบอกก็คือว่า เรื่องใกล้ตัว ชีวิตธรรมดา ๆ นี่แหละ คือแรงบันดาลใจ บวกกับจินตนาการแล้วสร้างสรรค์ออกมา แต่การเขียนจะเขียนได้ดี คิดว่า การอ่านที่มากและหลากหลายจะช่วยได้ดีที่สุด ซึ่งเดี๋ยวนี้มีสำนักพิมพ์ใหม่ ๆ มากมายทางอินเตอร์เน็ต
แล้วสุดท้าย.....แม้ว่าผู้เขียนเองชอบดูหนังแอ็กชั่น แต่ชอบอ่านนิยายซึ่งก็คงไม่พ้นความรักแหละ........หวังว่าจะมีเรื่องรักที่น่าประทับใจจากblog นี้ในเร็ววันนะคะ
จะรออ่านคะ
ขอชื่นชมความเพียรพยายามในทุกวิถีทางของผู้ที่ทุ่มเท เพื่อสร้างเหล่าอนาคตของชาติทั้งหลายให้มีคุณภาพ สมแล้วที่เธอเป็น นางงามผู้รักเด็ก เอ๊ย ..อาจารย์ผู้เป็นแม่พิมพ์ของชาติ
Hello ... นี่ผมเข้ามาช้าเกินไปหรือนี่ ...
อาจารย์ได้หายตัวไปแล้ว โอ้ ...
โปรดกลับมาสู่ ... Gotoknow hill :)
อาจารย์มาช้าจริงๆๆด้วยแต่มาเร็วกว่าผม อิอิๆๆ