Holistic Corner : เมื่อถูกขอร้องให้ Mercy Killing


เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะกำลังนอนสบายที่มวกเหล็ก  ผมได้รับโทรศัพท์จากแม่คนไข้   " คุณหมอคะ แม่ แมกซ์นะคะ(ผมสมมุติว่าผู้ป่วยชื่อแมกซ์นะครับ )   ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล อยากให้คุณหมอทำให้น้องเขาไปได้ไหมคะ หนูไม่อยากให้ลูกทรมานอีกแล้ว "   ผมบอกว่าอยู่ต่างจังหวัด พรุ่งนี้กลับไปจะเข้าไปดูให้

  เป็นครั้งแรกนะครับ  ที่มีคนขอร้องให้ ทำให้คนที่รัก จากไปอย่างสงบ เพื่อจะได้พ้นทุกข์ทรมาน ผมเจอแมกซ์กับแม่ เมื่อประมาณ 2-3 ปี ก่อน    ที่ pcu หนองกินเพล   แม่แมกซ์อุ้มมาเพื่อขอรับยากันชัก    

ตอนอายุ 9 ปี แมกซ์เดินข้ามถนนจะไปโรงเรียน โดนรถมอเตอร์ไซค์ชน หลังจากนั้น นอนไม่รู้ตัวอีกเลย ได้แต่ลืมตา แขนขาลีบเล็ก   ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 8 ปีแล้ว ทุกข์ทรมาน ทั้งแมกซ์ แม่ และพี่ชาย  มา 8 ปีแล้ว

ผลจากการที่แมกซ์ป่วยพิการมีภาระมาก พ่อที่เป็นคนหาเงิน ก็หนีจากแม่ไป ทิ้งให้อยู่กัน 3 คน  คือ แม่ แมกซ์ และ พี่ชาย  ต่อมาภรรยาพี่ชาย ก็หนีไปอีก เพราะ แมกซ์เป็นภาระ ที่คนอื่นไม่อยากดูแล ทั้งบ้านไม่มีรายได้อะไรเป็นหลักแหล่ง  เมื่อเดือนก่อน แมกซ์ถูก ส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์   กลับมา แม่แมกซ์ ร้องไห้บอกผมว่า คุณหมอขอร้องอย่าส่งไปโรงพยาบาล ศูนย์อีกเลย  หนูไม่ได้กินข้าว 4 วันเต็ม ๆ หาน้ำปะปากิน ไม่มีเงิน อยู่โรงพยาบาล วาริน   ยังได้แบ่งข้าว คนไข้กินได้บ้าง  หลังจากนั้น ผมเยี่ยมบ้านอีก  2-3 ครั้ง

ผมได้สัมผัส ทุกข์สาหัสของครอบครัวนี้ มาเรื่อย ๆ จนคืนวันเสาร์ประมาณตีหนึ่ง     แม่แมกซ์โทรมา บอกแมกซ์หอบหนักมาก ขอนอนโรงพยาบาล ที่โทรมาเพราะกลัวถูกให้กลับบ้าน  ไม่รู้จะทำยังไง   ผมอยู่มวกเหล็กสระบุรี เลยโทรไปที่ ER ฝากให้คุณหมอที่ ER ช่วย admit ให้

เช้าวันอาทิตย์ก็ได้รับโทรศัพท์อีกครั้ง ขอร้องให้ ช่วยให้แมกซ์หายทุกข์ทรมาน  ( ไปเลย )   ผมคิดแล้วคิดอีก ตกลงคงทำไม่ได้ ด้วยประการต่าง ๆ ได้แต่ บอกแม่ว่า " เดี๋ยวหมอคิดดูก่อนนะ จะช่วยยังไงได้บ้าง "   สรุปแล้วคงรักษาให้เป็นไปตาม สิ่งที่แมกซ์เป็น   ให้ยาปฏิชีวนะ รักษาประคับประคองไว้    ช่วงบ่าย ความดันโลหิตต่ำลง หอบมาก   3 ทุ่ม พยาบาลโทรมาบอกว่า " น้องไปแล้วนะคะคุณหมอ " ผมบอก " ดีแล้ว ....."


ผมนึกถึง คำพูดที่บอกว่า " หมอเป็นบุคคลเพียงไม่กี่คน ที่มีอภิสิทธิ์ ที่จะล่วงรู้เรื่องราวในชีวิต  ต่าง ๆ  ของคน " และ มีบางครั้งก็ดูเหมือนจะมีอภิสิทธิ์  ซ่อนเร้น ที่จะกำหนด ให้คนมีชีวิตอยู่ หรือไป ได้อีกด้วย คุณธรรม จึงเป็นสิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะกำกับ ให้เกิดสิ่งที่ถูกต้อง


เมื่อ 2 ปีก่อน   คนไข้ เบาหวานคนหนึ่งรักษาไปรักษามาก็สนิทกัน เจอกันเนื่องจาก ผู้ป่วย admit ด้วยอาการวิงเวียน

" ผมเล่าให้คุณหมอฟังได้คนเดียว ไม่รู้จะบอกใคร เดี๋ยวนี้ ผมหมดความรู้สึก แล้ว  เมียผมมีชู้  ผมมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมให้ใครมาเหยียบผม นี่รอปิดเทอม ลูก ๆ มาครบ ผมกะจะฆ่าให้หมด   ไหนๆ จะไป แล้ว ลูก ๆ อยู่ก็จะทุกข์ ต่อไป   อับอาย "

ผมจำไม่ได้ว่าผมพูดอะไรไปบ้าง ในใจก็คิดว่าแกพูดจริง จะทำจริงไม๊ว้า  เอาไงดีว้า   มาถึงวันนี้ แกก็ยังมารับยาเบาหวาน หน้าตาสดใสขึ้น มาก   ผมก็เห็นยังอยู่กับครอบครัวดี ไม่ได้ถามเรื่องนั้นอีกเลย   พออารมย์ดีขึ้นสติสตังกลับมาแกคงคิดของแกได้

เรื่องนี้ คงไม่มีใครมา เที่ยวบอกคนอื่น  ก่อนว่ากำลังจะไปฆ่าใคร   ทำให้ผมนึกถึงเรื่องอภิสิทธิ์ ที่หมอ จะสามารถได้รับรู้เรื่องราว แม้แต่ความลับของชีวิตคนอื่น  คุณธรรม จึงเป็นสิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะกำกับ ให้เกิดสิ่งที่ถูกต้อง


เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง

1. เวลาคนหนึ่งเจ็บป่วย ไม่ได้มีเฉพาะ ภาวะโรคนั้น ๆ ที่เป็นปัญหา  แต่  มีผลกระทบมากมาย ต่อคนรอบข้าง เหมือนกับครอบครัวแมกซ์ ชีวิตของคนทั้งครอบครัวผกผัน ไปสิ้นเชิง ตั้งแต่วันที่ แมกซ์ถูกรถมอเตอร์ไซค์ชนเมื่อ 8 ปีก่อน หรือ คนไข้ที่เป็นเบาหวาน หมดสมรถภาพ  เมียมีชู้  มีผลกระทบมากจน เกือบที่จะเกิดโศกนาฏกรรม  ในครอบครัวนี้ไปทีเดียว สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่เราควรจะมองให้เห็น เลยกว่าคำว่าป่วยเป็นโรค    แล้วจะเข้าใจว่าทุกข์จริง ๆ คืออะไรกันแน่

2. " หมอเป็นบุคคลเพียงไม่กี่คน ที่มีอภิสิทธิ์ ที่จะล่วงรู้เรื่องราวในชีวิต  ต่าง ๆ  ของคน " และ มีบางครั้งก็ดูเหมือนจะมีอภิสิทธิ์ ซ่อนเร้น ที่จะกำหนด ให้คนมีชีวิตอยู่ หรือไป ได้อีกด้วย คุณธรรม จึงเป็นสิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะกำกับ ให้เกิดสิ่งที่ถูกต้อง

หมายเลขบันทึก: 118219เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2007 00:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 11:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

เป็นเรื่องที่ดีมากครับ ขอนำไปแปะเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ไว้ที

่ SiamCollective.com

ในหมวดสุขภาพนะครับ  

 

ขอบพระคุณมากครับ  

 

ใช่ครับคุณหมอ

         มีอำนาจและความไว้วางใจ

          ผมว่าหมอทุกคนได้อำนาจในการกุมความอยู่หรือไม่อยู่ของชีวิตคนไข้ไว้ได้  ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อการแสดงออกของคุณธรรม จริยธรรมของหมอ มาก ๆ

        หลักการนี้ผมจำได้ว่าเคยอ่านจากคุณหมอประเวศ บ้างเหมือนกัน

        ส่วนเรื่องความไว้ใจที่คนไข้มีต่อหมอเป็นยอดที่ต่อจากส่วนที่หมอมีอำนาจประเด็นแรก  แต่เพียงแค่หมอมีอำนาจแต่ไม่แสดงออกถึงความมีจิตใจที่กอปรด้วยคุณธรรม จริยธรรมแล้ว คนไข้ก็คงไม่มีทางบอกความลับของเขาได้   ก็ขนาดว่าแค่การซักประวัติตรวจรักษา หากหมอไม่ได้แสดงออกว่าการพูดถึงเรื่องสำคัญบางอย่างจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อชีวิตเขา ในขณะเดียวกันชีวิตเขาหรืออาการป่วยของเขาจะดีขึ้นเมื่อเขาบอกประวัติลับ  เขาก็คงไม่บอกครับ

       ผมคิดว่า หมอจิ้นต้องมีคุณสมบัติทางคุณธรรม มากพอที่จะทำให้ความไว้ใจเกิดได้อย่างเต็มเปี่ยม

           ขอบคุณสำหรับการแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอจิ้น

สมัยก่อนดิฉันคิดเสมอว่าคนที่จะเป็นหมอได้ต้องมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่เดียว อย่างน้อยต้องมีทักษะ มีฝึมือในการรักษา ต้องเก่ง แต่ปัจจุบันไม่คิดแค่นั้น ยังคิดว่าหมอต้องมี "ใจ" ด้วย ไม่งั้นก็คงไม่ใช่หมอที่ดี เพราะการรักษาไม่ใช่เพียงร่างกาย แต่เป็นการรักษาใจด้วย

เรื่อง mercy killing นี้เป็นเรื่องที่ตัดสินได้ยาก ในมุมของผู้ดูแลคนคนไข้ดิฉันก็เข้าใจ ในส่วนของจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพของคุณหมอดิฉันก็เข้าใจ มันเป็นทางสองแพร่งที่เลือกยากจริงๆ แต่สุดท้ายธรรมชาติก็เป็นตัวตัดสินเอง....

แต่อย่างที่คุณหมอเล่าว่า พอเวลาผ่านไป..ความคิดเปลี่ยนไป...อารมณ์เปลี่ยนไป ที่เคยคิดว่าไม่ไหวแล้ว อาจจะพอไหว พอทน ไม่ทำอะไรร้ายแรงก็ได้

เคยเจอช่วงเวลาเครียดๆ ที่มีแรงกดดันมากๆ บางช่วงเหมือนกัน แต่พอมีประสบการณ์ ก็ท่องว่าอีกชั่วโมงนึง หรือเมื่อถึงพรุ่งนี้เรื่องนี้ก็จบแล้ว... แล้วมันก็จบลงจริงๆ อย่างน้อยอารมณ์สงบลง ดับลง ความสงบก็ตามมา

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าเตือนใจดีๆ ค่ะ

สวัสดีครับ คุณสุมิตรชัย

ไม่ใช่เฉพาะหมอหรอกครับ เจ้าหน้าที่ของเราทุกคน ก็มีสิทธินี้

เราถึงจำเป็นต้องปลูกฝัง ทัศนคติ ต่อคนให้ดี เราอาจไม่ต้องเป็น คนมีคุณธรรมสูงมากมาย แต่ก็ต้องมีทัศนคติที่ถูกต้อง ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับความไว้วางใจที่ได้รับ

สวัสดีครับอาจารย์ กมลวัลย์

เมื่อถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่อง ชีวิต  นี่ตัดสินใจยากจริง ๆ ครับ ก็อย่างที่อาจารย์ว่านั่นแหละครับ  ในที่สุดธรรมชาติก็เป็นตัวตัดสินเอง

ทัศนคติกับงาน และวิชาชีพ สำคัญมากครับ เพราะหมอต้องทำงานกับ คนกับชีวิตคน ถ้าไม่รู้จักคน ไม่เข้าใจชีวิตคน  ก็หมดกันพอดี เราไม่ได้รักษาโรค แต่เรารักษาชีวิตคน  ครับ

 

หมอจิ้น

อยากให้พวดราชาวสาธารณสุขและองค์กรอื่นๆ ได้ให้บริการด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์กันให้มากๆ จะทำให้พวกเราไปที่ใหนได้เจอรอยยิ้มอย่างจริงใจ เห็นแววตาที่สดใสสุดท้ายนั่นก็คือเกิดสุขภาวะที่ดี

วันนี้สมัครgotoknowได้แล้วแลเปิดblogเรื่องสูงอายุก็พยายามลองทำตามที่หมอจิ้นแนะนำ

พึ่งไปเชียงใหม่เมื่อ9-10ส.ค เรื่องการทำนวัตกรรมที่ได้รับงบจาก  สพช.วันที่21-22ส.ค  ทางสพช.จัดที่เมืองทอง ถ้าหมอจิ้นได้มีโอกาสไปเล่าเรื่องงานที่ทำจะเกิดประโยชน์กับเพื่อนๆชาวสาธารณสุขและองค์กรอื่นๆอีกมาก

สวัสดีครับพี่ท้องฟ้า

วันที่ 29 สค. 50 ผมมี section ที่ต้อง เสวนา เรื่องราวต่าง ๆ  ในงานประชุมประจำปี กระทรวงสาธารณสุขที่ เชียงใหม่ ครับ

 

เวลาคนหนึ่งเจ็บป่วย ไม่ได้มีเฉพาะ ภาวะโรคนั้น ๆ ที่เป็นปัญหา  แต่  มีผลกระทบมากมาย ต่อคนรอบข้าง

................................

เป็นผลกระทบไปจริงๆคะ บางทีผู้ป่วยคิดว่า ทุกข์คนเดียว ทุกข์ที่สุด แต่คนรอบข้างก็ทุกข์เหมือนกัน

    

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • ต่อไปคุณหมอคงต้องเจอเคสแบบนี้มากขึ้นทุกวันๆๆๆนะคะ
  • รู้สึกชื่นชมคุณหมอ ที่ใช้ชื่อบล๊อกว่า การแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ คนไข้ที่มาโรงพยาบาล เขาเชื่อ หมอ มากนะคะ คุรธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ  
P
9. ดอกแก้ว
เมื่อ อา. 02 ก.ย. 2550  

ต้องชื่นชมว่า คุณดอกแก้วเป็นคนไข้ที่ เข้มแข็งจริง ๆ  และรู้ว่า คุณดอกแก้วเข้าใจความรู้สึกเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ครับ

สวัสดีครับ พี่แดง

ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยนะครับ เรื่องหัวใจความเป็นมนุษย์ เกิดจากแรงบันดาลใจจากอาจารย์ จากรุ่นพี่ รุ่นน้อง  ที่ใช้คำนี้มานาน   อย่าง อาจารย์นายแพทย์ ประเวส อาจารย์ นายแพทย์โกมาตร  อาจารย์สายพิณ  ฯลฯ  ที่ทำสิ่งดี ๆ สอนสิ่งดี ๆ  ทำให้ค่อย ๆ เข้าใจสิ่งที่พวกเราสมควรจะฝึก  ลองฝึกดู ลองทำดู ลองเรียนรู้ดู ก็ไม่อยากพลาดที่จะบันทึกเรื่องราวที่พบครับ

สวัสดีค่ะหมอจิ้น อิ๋วค่ะ ...อ่านเื่่รื่องราวในบล็อกแล้วอิ๋วคิดถึงคนไข้ใน ward อิ๋วก็ยังไม่ได้เขยีนเรื่องที่หมอให้เขียน แต่รออีกไม่นานค่ะ ตอนนี้มีหลายเื่รื่อง เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ติดตามเรื่องราวของคุณหมอก่อนนะคะ 

พี่เพิ่งสอน นิสิต 8 คนไป ว่า Mercy killing คือ อย่างไร นิสิต สนใจ ซักถามให้ความเห็นกัน เป็นอันมาก

วันนี้ มาทวน อ่าน พรวนบทความของ อาจารย์ หมอจิ้น

ทำไมพลาด บล็อกนี้ ไปได้

ต้องให้น้องนิสิต มาอ่านแล้วละค่ะ

เลยนั่งทวนอ่าน บล็อก  ทั้งหมดใหม่

ให้แน่ใจว่าไม่พลาด บล็อกดีๆ ของอาจารย์

สวัสดีครับพี่ รวิวรรณ

รู้สึกดีครับที่มีส่วนในการร่วมสร้าง หมอใหม่หัวใจเต็มร้อย

การรักษาโรคเบาหวานแบบหายขาดโดยสมุนไพรไทย

หายขาดจริงๆครับ

โดยความบังเอิญที่คุณพ่อผมได้เดินทางมาหาที่บ้านที่จังหวัดขอนแก่นแล้วมาเจอกับ คุณ ยายผมที่ป่วยเป็นเบาหวานมาหลายปี โดยการรักษาตลอด 12ปีที่ผ่านมาต้องไปรับยาทุกอาทิตย์ ตื่นตั้งแต่ตี 5เพื่อไปโรงบาล แกบอกว่าทรมานมากใครไม่เป็นไม่รู้หรอก เพื่อนๆแกได้ตัดนิ้ว-แขน-ขา บางคนตาบอด และตายไปก็หลายสิบคนแล้ว

พ่อบอกกับแม่ว่าแกมีสูตรสมุนไพรโบราณสมัยคุณปู่ผมที่อยู่ที่มาเลย์เซียก่อนเดินทางมาไทยและนำมาผสมกับสมุนไพรของคุณตาผมที่นำมาจากไร่ที่ จังหวัดเลยผสมชงทานกัน ตอนแรกแกไม่ยอมทาน กลัวสารพัดผ่านไปหลายวันเข้าพ่อผมแกก็ชงทานทุกวันให้แกดูเป็นตัวอย่าง แกเลยยอมหลังจากทานไปสัก 3-4วันแกบอกว่าจะปัสสาวะบ่อยมากและจะมีอาการร้อนวูบวาบ และอาการชาปลายนิ้วตอนเช้าได้หายไปและหลังจากทานไปได้ 7วันแกอยากทานนั่นทานนี่(ปรกติไม่ยอมทานอะไร) ผิวพรรณจากแห้งๆเริ่มมีน้ำมีนวล และขาเริ่มมีกำลังสามารถลุกขึ้นเดินได้ จนแม่ได้พาไปตรวจที่ โรงพยาบาลขอนแก่น ผลออกมาว่าน้ำตาลในเลือดจากเดิม 230 ลดลงเหลือเพียง 115เท่านั้น เอง จนหมอเองก็ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย แกทานมาได้สักประมาณ 1เดือนแล้วกลับไปวัดน้ำตาลอีกก็ได้รับผลว่าปรกติดี จวบจนถึงปัจจุบันนี้คุณหมอ ได้ทำการแจ้งว่าไม่ต้องมาตรวจแล้วครับ หายจากการเป็นเบาหวานแล้ว ก็ทำให้ทุกคนในบ้านประหลาดใจมากครับ

ผมคนนึงที่ไม่เชื่อครับ ก็เลยเอามให้น้องๆที่ทำงานที่ร้อยเอ็ดนำไปให้คนที่บ้านทาน ผลก็เป็นเช่นเดิมกับยายผมทานไปน่าจะประมาณ 83คน มีที่ไม่หาย 3คน ซึ่งจากการสอบถามแล้วได้ความว่าทานไปเพียง 1-3วันแล้วไม่กล้าทานต่อครับ

ส่วนท่านอื่นๆปัจจุบันหายขาดแล้วเพราะไม่ได้นำไปทานอีกเลย

ผมจึงบอกคนที่หายว่าถ้าทานแล้วหายให้ระลึกถึงคุณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วที่ได้คิดค้นสูตรโบราณนี้ไว้ให้แก่คนรุ่นนี้ครับ

อัศจรรย์จริงๆครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อที่ คุณ ธิดา อึ้งนภารัตน์ 123/456 ม.เพรสซิเดนท์ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000หรือโทร 083-3459197

ผมทราบเรื่องนี้จากหนังสือเล่มหนึ่ง อ่านทีแรกผมมีคำถามให้กับตัวเองว่า mercy killing มีอยู่จริงหรือ หากมีอยู่จริงผมมีความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะความทรมานของคนไข้ที่แพทย์ไม่อาจรักษาได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เพราะบางทีคนมีรายได้น้อยก็มีสิทธิ์เลือกได้น้อยตามไปด้วย คนไข้เหล่านั้นควรมีสิทธิ์เลือกว่าจะอยู่ต่อ หรือจากไปโดยที่ไม่ทำให้ญาติลำบากมากไปกว่านี้ เพราะถ้าหากแพทย์ไม่เป็นผู้เปิดประตูให้คนไข้ได้พ้นจากความทุกข์ทรมานนั้นแล้ว คนไข้อาจต้องกระทำด้วยตนเอง อันจะเป็นเหตุให้อับอาย และเป็นที่สงสัยของคนรอบข้าง ผมว่า mercy killing ก็ควรเป็นอีกหนทางหนึ่งให้คนไข้ได้เลือกทางเดินของตนเองครับ ด้วยความเคารพคุณหมอครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท