ไวรัสคอมพิวเตอร์ ไวรัสสังคม ไวรัสโลก


สวัสดีครับทุกท่าน

         ตั้งแต่ปลายเดือน กรกฏาคม 2550 เป็นต้นมา ผมเจอไวรัสที่แพร่ระบาดมาตัวหนึ่ง พวกตระกูล .zip ที่ไม่ว่าจะส่งผ่านทางเมล์หรือโปรแกรมสื่อสารต่างๆ เมื่อโดนแล้วก็เห็นคนอื่นโดนกันเยอะ ก็เลยศึกษาดูว่าไวรัสเหล่านี้มีพฤติกรรมอย่างไร เสียเวลาไปหนึ่งวันครับ คุณลองตามไปดูได้นะครับ ว่าคนเข้ามาดูมาอ่านกันหลายคนครับ http://gotoknow.org/blog/mrschuai/116391 

ลองดูจำนวนคนที่เข้ามานะครับ

 

ทำให้เราทราบได้ว่าประเทศเรายังมีภูมิคุ้มกันเหล่านี้บกพร่องอยู่ครับ นั่นคือภูมิปัญญาที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้นะครับ เพราะผมเองก็ไม่เคยเจอปัญหาเหล่านี้หนักเหมือนกันครับ โดยเราฝากชีวิตเราเอาไว้กับโปรแกรมสแกนไวรัสต่างชาติ คือไวรัสต่างชาติสร้าง ต่างชาติก็เขียนตัวแก้ออกมา เลยเกิดเป็นธุรกิจเป็นลำเป็นสันในการเขียนตัวแก้ ไม่มีไวรัสออกมา บริษัทหรือองค์กรที่ทำหน้าที่ฆ่าไวรัสก็อยู่ไม่ได้อีกครับ คุณเริ่มมองเห็นอะไรแล้วใช่ไหมครับ

       นี่เราโดนไวรัสกันเพียงแค่ตัวสองตัวนะครับ ส่วนหนึ่งก็โดนกันเยอะ แล้วยังมีอีกหลายๆ คน ครับที่โดนแล้วไม่ได้เข้ามา เพราะจะมีโปรแกรมอื่นๆ ช่วยเหลือไว้ได้นะครับ แล้วหากเกิดว่าวันหนึ่งจะเกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้

  • มีชุดของไวรัส หรือหนอน ที่มีการเจาะระบบเปิดช่องโหว่เอาไว้ให้แล้วฆ่าออกไม่หมดแต่จะทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ที่เราใช้มีช่องโหว่เพื่อเปิดช่องทางให้ไวรัสตัวต่อไปเข้ามาทางช่องโหว่เหล่านั้น

  • แล้วจะมีไวรัสถูกปล่อยให้ไหลเข้าไปในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ทที่พร้อมๆ กัน โดยมีไวรัสถูกปล่อย จำนวนห้าสิบตัว ให้ไหลเข้าไปในระบบเครื่องข่าย จากนั้น จะมีหนอนถูกปล่อย ออกมาอีกห้าร้อยตัว โดยมันจะกลายพันธุ์ได้ด้วย ไปกัดกินข้อมูลของเรา กัดกินพื้นที่ข้อมูล ทำงานอุปกรณ์และอื่นๆ ฐานข้อมูล

  • จากนั้นจะมีการปล่อยลูกๆ ของไวรัสและหนอนออกมาอีกทุกๆ วันละ สิบตัว พร้อมไข่ที่รอวันจะถูกฟักตัวให้ออกมาเป็นตัว

  • คำถามคือ ประเทศไทยเราพร้อมแค่ไหนที่จะจัดการในการป้องกันอะไรเหล่านี้ครับ แน่นอนว่าไวรัสมักจะออกมากัดกินระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เพราะคนใช้กันเยอะ แต่ใช่ว่าระบบปฏิบัติการอื่นจะไม่มีนะครับ

  • แล้ว ระบบธุรกิจต่างๆ ระบบการเรียนการสอน ระบบการสื่อสาร และอื่นๆ พังไหมครับ จะแก้ไขอย่างไรครับ

    นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆ คิดแบบเพ้อๆ ฟุ้งๆ ให้เห็นให้ดู ให้คิดกันเล่นๆ ครับ

   ต่อมา มาดูไวรัสสังคมกันต่อครับ ไวรัสสังคมคุณคิดว่ามีอะไรบ้างครับ คือความเป็นอยู่แบบแบบไม่มีผลประโยชน์ร่วมแบบสมบูรณ์ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้ไวรัสเข้าแทรกได้ง่ายๆ เอาง่ายๆ แค่ระบบทุนนิยมและสังคมนิยมครับ ระบบสองอย่างนี้ จะเป็นไวรัสของกันและกันครับ หากเราหาจุดสมดุลระหว่างกลางไม่ได้ เพราะว่าอยู่กันคนละแนวทาง เดินคนละแนวทางกัน ทุนวิ่งเข้าไปหาสังคมนิยม จะเกิดอะไรขึ้น อันนี้ก็พอจะมองกันออกใช่ไหมครับ นี่เรายังไม่รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากปัญหาอื่นๆ ไวรัสมากมาย ที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ หรือไม่ครบวงจรในตัวของมัน ทำให้เกิดไวรัสเกิดขึ้นมาได้ แล้วเซลล์ไวรัสเหล่านี้มักจะเจริญเติบโตได้ดีด้วยซิครับ มีระบบที่ดีในการกัดกิน

   ต่อมา มาดูไวรัสโลกกันบ้างครับ คุณคิดว่าอะไรครับ ที่เป็นไวรัสร้ายกัดกินโลก ลองคิดๆ กันดูนะครับ

  ต่อมาคือว่า อะไรที่สำคัญต่อการจัดการกับไวรัส และผมก็เชื่อว่าเราไม่มีทางจะจัดการได้หมดด้วยครับ เพราะว่าที่เราคิดว่าไวรัสนั้นหายไปแล้ว ทราบได้อย่างไรว่ามันหายไปจริง วันหนึ่งอาจจะกลับมาก็ได้

   คุณคิดว่าภูมิปัญญา จะเพียงพอไหมครับ ในการจัดการกับไวรัส เพื่อความเข้าใจ เพื่อการอยู่ร่วม คุณมีแผนจะจัดการอย่างไรครับ ในการป้องกันภูมิคุ้มกันบกพร่องเหล่านี้ครับ

   ไวรัสที่น่ากลัวที่สุดคืออะไรครับ......

  • ไวรัสคอมพิวเตอร์

  • ไวรัสในสิ่งมีชีวิต

  • ไวรัสทางปัญญาบกพร่อง

  • ไวรัสความเห็นแก่ตัว

  • ไวรัสตัวใครตัวมัน

  • ไวรัสละเลย

  • ไวรัส อื่นๆ เชิญคุณบรรเลง

ขอบคุณมากๆ นะครับ

เม้ง

หมายเลขบันทึก: 117524เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2007 02:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
ถ้าใช้ GNU/Linux หรือ OS อื่นๆให้หลากหลายกว่านี้ หรือแม้แต่ใช้โปรแกรม chat ให้หลากหลายขึ้น คนเขียนไวรัสก็ลำบากขึ้นบ้าง.  

ธรรมชาติของ GNU/Linux มักจะหลายหลายกว่า Windows อยู่แล้ว แม้แต่โปรแกรมที่อยากให้ run ได้บางทีก็ยัง run ไม่ได้เลย :-P. โอกาสที่จะติด virus ก็อาจจะน้อยลงด้วย.

ปัญหาอีกอยากคือการ login เป็น administrator ตลอดเวลา ก็สร้างปัญหาเหมือนกัน. บางระบบจึงกันไม่ให้เข้าแบบ admin เลยแต่ว่าให้เลือกใช้เป็นทีๆไป. แบบนี้ Mac OS X ทำแล้ว Ubuntu ทำแล้ว เข้าใจว่า Vista ก็น่าจะทำแบบนี้เหมือนกัน?

เปลี่ยนจากใช้โปรแกรมต่างชาติมาใช้โปรแกรมสาธาระดีกว่าครับ. อย่างน้อยๆคนไทยที่อยากศึกษาว่าเราจะเขียน OS อย่างไรให้ดีให้ปลอดภัยก็ศึกษาได้อย่างเต็มที่ถ้าเราใช้ซอฟต์แวร์เสรีอย่าง GNU/Linux. แต่ถ้าเราใช้โปรแกรมแบบปิด โอกาสที่เราจะรู้จะอะไรมากขึ้นมันมีน้อยเหลือเกิน.
P

สวัสดีครับน้องวีร์

  • ขอบคุณมากเลยน้อง เห็นด้วยมากๆ นะครับ เราควรจะมีระบบปฏิบัติการที่เราเข้าถึง เข้าใจที่ดีพอจะดีกว่าครับ เพราะหากเราเล่นในระดับ application ยากมากๆ ครับ ที่จะลงถึงระดับตอหม้อ หรือฐานรากของระบบ ไม่รู้เค้าวางแผนอย่างไรไว้บ้าง นี่หล่ะครับ ที่น่ากลัวครับ วันดีคืนดีอาจจะมีอะไรขึ้นมาให้สนุกเล่นใครจะทราบครับ
  • ในระบบลีนุกซ์ที่ผมชอบอยู่มากเลยก็คือ การมีเจ้าของ มีสิทธิ์ในระบบแฟ้มนะครับ ที่ทำให้มันไม่สามารถจะเปิดได้หากเจ้าตัวไม่ได้เปิดเอง แต่ทุกระบบจะมีแนวทางในการให้เจาะได้ทั้งนั้นครับ เพราะจะมีช่องโหว่อยู่เสมอครับ
  • การใช้ให้อย่างหลากหลายอย่างที่น้องว่า ก็เป็นทางออกหนึ่งครับที่ทำให้เราอยู่รอดได้ใช่ไหมครับ เหมือนกับแนวทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงไงครับ 
  • คำว่าเศรษฐกิจ มันมาจากแนวของทุนนิยม
  • ส่วนคำว่าพอเพียง มันมาจากแนวสังคมนิยม
  • เมื่อสองคำนี้โดนจับแต่งงานกัน ก็เลยอยู่ตรงกลาง เลยโป๊ะเชะ อยู่รอดได้ครับ
  • ดังนั้นความหลากหลายก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญทำให้เราไม่พัง ไม่ตายพร้อมกันทีเดียว
  • ผมอยากให้คนไทยหันมาศึกษากันจริงๆ จังๆ อย่างที่หลายๆ กลุ่มเริ่มทำกันแล้วในเรื่องของระบบปฏิบัติการที่ต่อยอด ไม่ว่าจะเป็น Linux สายพันธุ์ต่างๆ นะครับ
  • ผมก็จะโยกย้ายตัวเองไปฝังตัวบนลีนุกซ์เช่นกันครับ หลังจากที่ใช้วินโดวส์ผสมกับลีนุกซ์จนมาช่วงหนึ่งวินโดวส์มากเกินไป
  • อย่างน้อยหากไวรัสทำลายวินโดวส์มาช่วงที่เราใช้ลีนุกซ์ เราก็รอดใช่ไหมครับ
  • ระบบใดก็ตามที่เราซื้อเค้ามา เราเป็นได้แค่คนที่โดนสนตะพายครับ เพราะคนอื่นจะจูงจมูกเรา เพราะตำแหน่งนั้นมันเจ็บครับ คล้องคอแล้วดึงกับสนตะพายแล้วดึง น่าจะต่างกันครับ แต่ก็ไม่ดีทั้งสองนั่นหล่ะครับ
  • หากเราเริ่มต้นจากภูมิปัญญาของเรา ของสังคมไทย ของชุมชนที่อยู่ได้ เราก็อยู่รอดได้ครับ เพราะอย่างระบบอื่นๆ เค้ากว่าจะแข็งแรงเค้าก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนกันครับ ดังนั้นหากเราเรื่องระบบปฏิบัติการภูมิปัญญาไทย Thai Wisdom Operating System : TWOS ตั้งแต่วันนี้ ก็คงไม่สายครับ อย่างน้อยเราสร้างคนเพื่อมารองรับตรงนี้ได้ครับ ส่วนระบบแฟ้มเอกสารเราเพียงเรียกใช้และเรียกอ่าน เขียนลงไปให้สอดคล้องตามระบบไฟล์มาตรฐานได้ ก็ได้ผลเหมือนกันครับ
  • ขอบคุณมากครับ
P Windows ก็เหมือนมีสิทธิการเข้าถึงไฟล์เหมือนกันครับ. น่าจะตั้งแต่ Windows 2000 เป็นต้นมา (มั้ง).  ทุกระบบมีช่องโหว่ก็จริงครับแต่ไม่แน่ว่าจะโหว่เท่ากัน. คล้ายๆว่ารัฐบาลไหนก็มีทุจริตเปล่าครับ? แต่ว่ามากน้อยมันก็มีผลเหมือนกัน. 

เราไม่ต้องจำกัดเฉพาะคนไทยก็ได้นะครับ. จะเป็น world wisdom operating system ไปเลยก็ได้. ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้รัฐชาติมาเป็นเส้นแบ่งภูมิปัญญา และความร่วมมือระหว่างกัน. หรืออาจจะเป็น ระบบปฎิบัติการพอเพียง เลยก็ได้เน้นแนวความคิด แต่ไม่ต้องผูกติดกับรัฐชาติ. ทุกวันนี้มีคนสนใจศึกษาพัฒนาใช้งานซอฟต์แวร์เสรีกันอย่างกว้างขวาง แต่ก็ไปเจอตอขวางที่เป็นหน่วยงานของรัฐและสถาบันการศึกษาก็มีอยู่บ่อยๆ เช่น การบังคับให้ใช้ฟอนท์ angsana หรือบังคับให้ใช้ไฟล์ .doc เป็นต้น. 

เรื่่องรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลก็เป็นประเด็นที่สำคัญครับ  พี่น้องของเราในหลายประเทศถูกกดขี่โดยระบอบกรรมสิทธิเอกชนที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนอย่างมากมาย. อาทิเช่น ไฟล์ mp3 ถ้าหากอยู่ในอเมริกา เราไม่สามารถเผยแพร่ได้อย่างเสรี เพราะขัดกับสิทธิบัตรซอฟต์แวร์. ตอนนี้ยุโรปก็มีคนผลักดันให้มีสิทธิบัตรซอฟต์แวร์เหมือนกัน  ประเทศไทยก็ไม่น่าไว้วางใจนัก.  ดังนั้นผมคิดว่าเราควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ที่จะลดละเลิกการใช้ สนับสนุน ผลิตภัณฑ์ที่สิทธิบัตรซอฟต์แวร์เป็นเงื่อนไขในการขูดรีด.
P

สวัสดีครับน้องวีร์

  • ขอบคุณมากครับ
  • ใช่ครับ แนวทางของวินโดวส์พยายามจะเลียนแบบการกำหนดการคุณสมบัติไฟล์ อย่างยูนิกซ์ที่ทำกันครับ เพราะวินโดวส์มาจาก stand alone ครับ ส่วนยูนิกซ์ มาจากในระดับระบบเครื่อข่าย ดังนั้นปัญหาเรื่องไวรัสมันเลยต่างกันมากครับ
  • ส่วนระบบปฏิบัติการนั้น จริงๆ ทำในระบบเล็กๆ ก่อนแบบให้เหมาะและสอดคล้องกับคนไทยก่อนในความหมายของพี่ หากทำได้เข้าท่าแล้วค่อยขยับขยายก็ดีครับ แต่ทุกวันนี้ การเป็นแนวทางของ OpenSource เป็นสิ่งที่ดีครับ
  • จริงๆ แล้วการต่อยอดผ่านระบบปฏิบัติการที่มีอยู่แล้วก็เป็นสิ่งที่ไม่หนักมากเกินไปด้วยครับ แต่หากเราขุดตั้งแต่ตอหม้อมาเลย อย่างลีนุกซ์พวก gentoo ที่ทำให้เราเข้าถึงได้ทุกระดับแบบบุกลุยด้วยตัวเอง แบบนี้จะทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้นครับ แต่หากจะให้สูงขึ้นมาหน่อยอย่าง debian, ubuntu ก็ตามแต่ระดับของผู้ใช้ครับ
  • สำหรับมาตรฐานกำหนดฟอนต์นั้น บางทีพี่มองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะสาระเท่าไหร่ครับ เพราะสาระจริงๆ อยู่ที่เนื้องานในสาระนั้ๆมากกว่าครับ
  • ส่วนเรื่องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ นี่ เรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่หนักเลยครับ ต่อไปคงทำอะไรแทบไม่ได้ ทั้งๆที่ภูมิปัญญามันก็ถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ ทำให้เกิดกันได้ ต่อไปก็คงต้องห้ามเรียนรู้ในบางเรื่อง อิๆๆ
  • ผมจะหนีวินโดวส์ก็เพราะเรื่องพวกนี้หล่ะครับ
  • ขอบคุณมากครับ
นอกจากลิทสิทธิเรายังเจอสิทธิบัตรอีกอะครับ. สงสัยคล้ายๆสิทธิบัตรยาหนะครับ :-P.
  • ท่านทั้งหลายโชคดีจังเลยค่ะที่เก่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์....แต่กลุ่มผู้ปฏิบัติการ"ใช้อย่างเดียว"อย่างพวกพี่เห็นทีจะลำบากหน่อยละค่ะ...ไม่รู้เรื่องอะไรเลย  เปิดใช้งานอย่างเดียว   ถ้าเจอไวรัสคงมีแต่จุกกับเจ๊งน่ะค่ะ...
  • ขอบคุณสำหรับข้อคิดและความคืบหน้าค่ะ
P ถ้าเราใช้ซอฟต์แวร์แบบพอประมาณ ไม่ต้องเก่งก็อาจจะไม่ปัญหาเรื่อง virus น้อยลงก็ได้นะครับ.
P

สวัสดีครับน้องวีร์

  • นั่นนะซิครับ เราโดนออกกฏออกมาให้วิ่งตามกัน และมีเกมส์อะไรให้เล่นในกลางอากาศ ในกระดานจินตนาการ ว่าสิ่งนั้นมีสิ่งนี้มี แล้วก็ทำกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ ว่าแล้วก็คล้ายๆไวรัสนี่หล่ะครับ
  • ขอบคุณมากครับ

 

P

สวัสดีครับน้องนนท์

  • สบายดีไหมครับ
  • ขอบคุณมากเลยครับ ที่เข้ามาเยี่ยมครับ
  • ดีใจด้วยนะครับ ที่ลบได้ ก็ต้องระวังกันนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ

 

P

สวัสดีครับพี่สาว

  • เป็นไงบ้างครับ สบายดีนะครับ
  • เป็นอย่างไรบ้างกับการขึ้นเวทีครับผม
  • ผมเองไม่ได้เก่งอะไรเลยครับ มีพอถูไถเล็กๆ น้อยนะครับ ยังต้องศึกษาอีกมากมายครับ
  • มีอะไรช่วยได้ก็เขียนไว้นะครับ หากพอจะช่วยได้ก็ด้วยความยินดีนะครับ

ขอบคุณน้องวีร์ที่ช่วยแนะนำพี่สาวกฤษณานะครับ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ

 

ผมไม่เก่งแต่ไม่ได้ใช้ WIndows Live Messenger ก็เลยไม่โดนไม่ด้วย :-P.  ยิ่งเปิดหลายอย่าง โอกาสโดนโจมตีก็มาก?
สวัสดีค่ะ คุณเม้ง
Pเม้ง สมพร ช่วยอารีย์
  • พี่ติ๋วสบายดีค่ะ.....
  • แต่ที่ออกจะกดดันหน่อยก็เรื่องความงามที่เบรคไว้ไม่อยู่น่ะค่ะ...หนุ่มชาวเชียงใหม่เค้าเฝ้าดูอยู่...กิ๊กๆ....

สวัสดีค่ะ คุณบ่าววีร์

  • พี่ติ๋วขอบคุณค่ะที่ให้คำแนะนำค่ะ
  • ไปเที่ยวเชียงใหม่จะได้เจอกันไหมน้อ....
     
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท