สายๆของวันตื่นขึ้นมาด้วยกระทู้ถามจากคนรู้จักที่ผมคิดว่า เป็นประเด็นที่ผมควรจะนำมาเขียนเป็นบันทึก ใน Gotoknow เพื่อแลกเปลี่ยนและเสนอความคิดในฐานะทีมงาน งานสัมมนาการจัดการความรู้ที่เชียงใหม่
มีหลายท่านถามไถ่เรื่อง กระแสการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ ซึ่งกระแสการจัดงานที่เชียงใหม่ แรงและเป็นที่สนใจของหลายท่าน มีทั้งลังเล และครุ่นคิดสงสัย รูปแบบการจัดงาน
เรื่องเดิม
ทาง มรภ.เชียงใหม่ นำโดย คณบดีพิชัย กรรณกุลสุนทร ท่านต้องการอบรมการใช้ weblog และการจัดการความรู้ อันเป็นพื้นฐานของการพัฒนางานภายในให้กับบุคลากรโดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่กลุ่มหนึ่ง เมื่อได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ท่านคณบดีจึงเห็นว่าไหนๆก็ได้ลงมือทำแล้วก็จัดงานใหญ่ไปเลย เปิดกว้างสำหรับ blogger ทั่วไปที่จะเข้ามา ถือเป็นการแลกเปลี่ยนกับ blogger ทั่วประเทศด้วย theme ใหม่ conceptใหม่ งานและกลุ่มเป้าหมาย ก็เปลี่ยนไปงานใหญ่เราก็ระดมสรรพกำลังเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็น blogger ชาวเหนือที่อาสามาทำงานด้วยใจ เตรียมงานร่วมกัน(แบบไม่เงียบ) เป็นแรมเดือน ตรงนี้เป็นมูลเหตุในการจัดงานในครั้งนี้
หัวใจของการจัดงาน
ผมมองว่า การเรียนรู้เรื่องเครื่องมือที่เอื้อต่อการจัดการความรู้ Weblog ที่จะนำมาให้ผู้ที่สนใจกว่า 80 % ในเวทีสัมมนาได้เรียนรู้ คือการเรียนรู้บวกกับการเสริมแรงจากรุ่นพี่ชาว blog ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการใช้เครื่องมืออันทรงพลานุภาพนี้ เรามองถึง “หัวใจ” ของงานว่า เราไม่อยากเน้นสาระวิชาการที่หนักอึ้ง และเชื่อว่าหลายท่านก็เมินหน้าหนี เราจึงออกแบบบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนรู้ และมีความสุข ภายใต้บรรยากากาศของล้านนา ความเป็นมิตร และความสวยงามของธรรมชาติป่าเขา การนำเสนอออกไปทางบันทึกก็เป็นการประชาสัมพันธ์ถึงบรรยากาศ เราอยากให้คนเข้ามาร่วมเยอะ คนเหนือเรียกว่า “งานปอย” ช่วยกันทำ ช่วยกันดู ใช้พลังของคนที่มาด้วยใจ
กระบวนการ
การเรียนรู้มีทั้งการเรียนรู้โดยตรงจากวิทยากรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเน้นการเขียน blog และเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ Blogger ชื่อดัง ถึงเคล็ดลับการเขียน การนำเสนอ และประโยชน์ทั้งตัวเองและสังคมแบบเจาะลึก เสริมพลังใจให้คนใหม่ๆที่ตัดสินใจเดินเข้ามา กระบวนการในงานสัมมนาจึงดูหลวมๆไม่เร่งรัด รีบร้อน หนักหน่วง หากแต่สบายๆผ่อนคลาย ให้การดำเนินเวทีเป็นไปอย่างธรรมชาติและมีความสุข สิ่งหนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจที่แทรกในกระบวนการต่างๆคือ การนำเสนอตัวตนของชาวเหนือผ่านการต้อนรับแขก ศิลปวัฒนธรรม ที่เราได้แทรกไว้ทุกช่วงเวลา และเต็มที่ยิ่งใหญ่ในงาน welcome party ที่อยากให้ทุกท่านมาสัมผัสด้วยตัวเอง
สิ่งที่เราต้องการ
หากวัดจากวัตถุประสงค์โดยตรงคือ การที่ได้จำนวน Blogger เพิ่มขึ้นเชิงปริมาณ และเราคาดหวังเรื่องคุณภาพด้วย การที่เราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้คนที่หลากหลาย ทั้งอาชีพ หน้าที่ ภาระงาน ประสบการณ์ ตลอดจนแนวคิด ภายใต้บรรยากาศที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี เราเชื่ออย่างหนึ่งเรื่องของ “เครือข่าย” โดยเฉพาะเครือข่ายที่ใช้ใจมาร้อยรัด ผู้ที่เข้ามาร่วมก็มาด้วยใจ งานใหญ่แค่ไหนก็สำเร็จลงได้ในอนาคต “เฮฮาศาสตร์” เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนมีใจ และผมคิดว่าพลานุภาพที่เกิดขึ้นประเมินไม่ได้
(เครือข่าย – ใจ – บรรยากาศ – คนดี-พื้นที่ -โอกาส) เราเตรียมไว้เพื่อสร้างเครือข่ายในงานสัมมนาในครั้งนี้ เป็นเป้าหมายที่เราต้องการให้เกิดขึ้น
วิชาการ ไม่จำเป็นต้องเครียด!!!
ความพอเพียงหรือไม่?? ต้องดูเจตนา ดูต้นทุน ดูกระบวนการ งานใหญ่ กิจกรรมมากมีผลที่คาดหวังที่ซ้อนกันอยู่ ประเด็นพอเพียงหรือไม่ ที่มีผู้ตั้งคำถาม ต้องดูวัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการผลที่ได้ทั้งหมด อาจเป็นคนละส่วนกันหากถามว่า “พอเพียง” หรือไม่ และหัวใจของคำว่าพอเพียงของเราก็คือ การที่อยู่ได้ในกระแสทุนนิยมด้วยความเข้าใจและสร้างดุลยภาพระหว่างกัน...งานนี้เราเริ่มด้วยวิธีคิดแบบนี้
เงินลงทะเบียนจำนวนไม่มากแต่เราดูว่างานใหญ่มาก เพราะเป็น “งานปอย” อย่างที่กล่าวมา คนละเล็กละน้อยเติมกำลังใจแรงใจ และดวงใจของคนทำงานที่มีจิตกุศล ยิ่งมีหลายๆดวงรวมกันสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ครับ
Think big you will be Big!!!
ปลดปล่อยอคติในใจ เปิดใจให้กว้างและเดินเข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีดีด้วยกันเถอะครับ พวกเราชาวเชียงใหม่ และ blogger ชาวเหนือ พร้อมต้อนรับแขกแก้วมาแอ่วเมือง
“สร้างสรรค์ปัญญา เพื่อพัฒนา
สังคมแห่งการเรียนรู้”
* * *งานปอย = คือ งานบุญฉลองสมโภช ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ ศาลาการเปรียญ ที่คนเหนือจะร่วมแรงร่วมใจกัน ทำบุญโดยการลงมือ ลงแรง อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย งานใหญ่ หนักแค่ไหนก็สำเร็จลงได้ได้ใจที่อิ่มเอิบ สนุกสนาน เป็นมิตร
สวัสดีครับ น้องเอกที่น่ารัก
ความทุ่มเทในงานนี้ ได้แสดงออกอย่างต่อเนื่องซึ่งผมคงต้องคารวะในการนี้
เนื้อหาสาระดูจะแน่น บรรยากาศน่าจะยอด ความอบอุ่นและความรัก จิตนาการได้เลยว่าคงสุดยอด
สังคมในปัจจุบัน มีความคิดที่ต่างๆกันไป ความต้องการของผู้คนก็แตกต่างกันไป
งานที่ได้ทุ่มเทขึ้น เป็นทางหนึ่งที่เป็นการเคลื่อนไหวทางสังคม ด้วยจุดมุ่งหมายหนึ่ง และเป้าหมายหนึ่งๆ น้องเอกทำได้ครับ
การตีค่าของงาน ขึ้นกับแกนความสัมพันธ์ของงาน และเป้าหมาย ผมเห็นงานนี้เป้าหมายหลักน่าจะเป็นความอบอุ่นและความรักของชาว g2k เป็นหลัก ถ้าเรื่องราวนี้สามารถบรรลุได้ก็ไม่เสียดายกำลังกายและกำลังใจที่ได้ทุ่มเท
ผมไม่สามรถช่วยอะไรได้ เพียงแต่ให้กำลังใจแก่น้องเอก ได้บรรลุความประสงค์นี้ ขอให้สำเร็จครับ ไม่ต้องไปสนใจเสียงวิจารย์ที่ไม่ได้สร้างสรรค์ครับ
สวัสดีครับ
บนเส้นทางแห่งชีวิต ที่มีการงานเป็นแกนนำ มีกุศลกรรมเป็นหางเสือ มีความ "รักผู้อื่น" เสมือนลำเรือ แน่นอนว่าต้องฝ่าทั้งแดด ทั้งฝน ทั้งคลื่นลมแรงครับ
มันจะสลับกันมาบ้าง ทะยอยกันมาบ้าง หรือบางทีก็ประดังกันมา จนเราแทบตั้งตัวไม่ติด
ขอจงมั่นใจ ไม่ต้องหวั่นไหว เจตนาคือเรื่องใหญ่ ส่วนใครจะคิดอ่านอย่างไรเป็นไปได้ 108 ครับ
ทุกความคิดเห็นล้วนมีเหตุปัจจัยอยู่เบื่องหลัง หลายครั้งเป็นเป็นเรื่องกิเลสส่วนบุคคล ที่เขายังไม่อาจก้าวพ้น ทั้ง 3 กองที่เป็นเครื่องนำทุกข์มาสู่มวลมนุษย์ครับ ทั้ง โลภะ โทสะ และ ที่น่ากลัวมากคือ โมหะ
อิทธิบาท ๔ และ พรหมวิหาร ๔ น่าจะเป็นหมวดธรรมที่ช่วยได้มากในยามนี้ครับ
ขอให้กำลังใจแก่ทุกฝ่ายทุกคน ... รอยยิ้มแห่งมิตรแท้ จะทำให้ท่านหายเหนื่อย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าครับ.
สวัสดีค่ะ น้องเอก
พี่ไม่แน่ใจว่าคนที่ถามเขาถามแบบบวก หรือ แบบ ลบ หรือแบอยากรู้ที่มาที่ไป ... การทำงานใดๆ คงไม่มีงานใดที่จะสมบูรณ์แบบ perfect ในสายตาของทุกๆคน เพราะต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมองอยู่แล้ว ยิ่งบางคนถ้าเขาไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่รู้วัตถุประสงค์ เขายิ่งจะไม่เข้าใจ อันนั้นก็คงต้องทำความเข้าใจอย่างที่น้องเอกทำนี่แหละค่ะ
แต่ในมุมมองและความคิดของพี่ พี่กลับรู้สึกว่านี่แหละคือมิติใหม่ของการจัดสัมมนา ที่ผู้จัด ผู้เข้าร่วม วิทยากร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างร่วมกันทำงานนี้ด้วยใจ ด้วยความสุข สนุก โดยเฉพาะผู้จัดที่คำนึงถึงผู้เข้าร่วมสัมมนาที่จะต้องได้ความรู้ พร้อมกับความสุข และสนุก
สำหรับพี่ และ blogger ท่านอื่นๆด้วย พี่คิดว่าเราต่างอยากเข้าร่วม และเฝ้ารองานนี้มากๆ (เช่นเดียวกับเฮฮาศาสตร์) เพราะนอกจากจะได้แลกเปลียนและรับความรู้ตรงๆแล้ว เรายังจะได้พบกับ blogger ที่เราอ่านแต่บันทึก แบบ f to f จึงเพิ่มความตื่นเต้นเข้าไปในความรู้สึกของการร่วมสัมมนาในคราวนี้ด้วยค่ะ
ถาม-ตอบ หนุ่มดอยเต่า
ขนาดรู้ว่าตัวเองคงไม่ได้มีโอกาสมาร่วมงานครั้งนี้ยังคอยติดตามการเตรียมงานอยู่ ที่คุณจตุพรเล่ามาน่าสนใจมากและเป็นมิติใหม่แห่งการจัดสัมมนา การจะทำอะไรที่เป็นสิ่งใหม่และแตกต่างต้องตั้งมั่น เชื่อมั่นในความปราถนาดีที่คิดอย่างรอบคอบแล้วของตนเอง(และทีมงาน) จากนั้นเดินหน้าอย่างมีความสุข รอต้อนรับแขกเมืองที่จะมาเยือน
ระหว่างจัดงานนี้ตัวเองอยู่ใกล้แค่ลำปาง ไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่ามะโอค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเอก
ส่งกำลังใจมาช่วยด้วยคนค่ะ ติดเพราะอยู่ไกลและมีงานต้องรับผิดชอบพอดีในช่วงนั้น ไม่งั้นจะแว้บตัวไปแอ่วเหนือด้วยคนแล้ว
รับรู้ได้ถึงความตั้งใจในทุก ๆ เรื่องของทีมงานในครั้งนี้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอแสดงความยินดีด้วย ที่การจัดงานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และ มีประโยชน์ต่อผู้ที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้กันโดยทั่วหน้า
เสียดายนัก ที่ไม่ได้ไป แต่ก็ได้ติดตามข่าวคราวอยู่เสมอ สิ่งใดก็ตามถ้าร่วมแรงสามัคคีกัน งานนั้นย่อมสำเร็จไปได้ด้วยดี
ยินดีด้วยกับความสำเร็จ
สุข สงบ เย็น
เดียวดายกลางสายฝน
น้องชาย
สรุปได้เยี่ยม
ขยายความได้ยอด
คนคงเข้าใจได้เยอะ
สิ่งที่ออกมารับรองไม่แย่
ทุ่ม...สุดหัวใจค่ะ เพื่อร่วมพัฒนา.....ตัวเอง....สังคม....ประเทศชาติ.....ฯลฯ
สวัสดีครับ
งานเริ่ม ต้นจากผู้คนที่มีความรัก ความเมตตา และความดีที่สูงยิ่งครับ
งานเกิดขึ้นเพื่อการสร้าง ปรับปรุง พัฒนาและแบ่งปันสิ่งดีๆ กับผู้คน
ผู้ร่วมงานที่เข้ามา ล้วนมากด้วยเป้าหมาย วัตถุประสงค์ แต่ส่วนมากมาด้วยใจที่เป็นกลาง มาเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ มาเยี่ยม สัมผัสกับความดีงาม และงดงามของผู้คน ทั้งผู้จัดและเข้าร่วม
คนที่รับรู้ เรียนรู้งานนนี้ก็มีความคิดหลากหลาย อาจจะคาดหวัง ประเมิน มีมุมมองต่องานไกมือนกัน ทั้งบวก กลางๆ หรือลบ เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติครับ
สำหรับผมที่มาเพราะ คิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่รู้น้อย เป็นแก้วที่ยังไม่เต็มเสมอ และมาด้วยจิตใจที่กลางๆ พยามไม่ให้มุมมอง ที่มีอคติ หรือการปรุงแต่เข้ามาครอบงำมากเกินไปครับ เพราะทุกอย่างก็ขึ้นกับเหตุและปัจจัย แต่จุดเริ่มต้น คือความศรัทธาในคนทำงาน และผู้ร่วมงานทุกๆคนครับ
เพราะว่าทุกคนมีความดี ความจริง ความงามในตัวเองเสมอ..มากน้อยต่างกัน แต่เรามาเพิ่มเรียนรู้ และเพิ่มเติมความดี ความงาม และความจริง ให้งอกเงยยิ่งๆขึ้นครับ
ขอบคุณครับ.......
สวัสดีครับกัลยาณมิตรทุกท่าน
ผมอยากบอกว่าทางผู้จัด-เจ้าภาพ รู้สึกมีกำลังใจมากครับ จากการประเมินผ่านการให้ข้อเสนอแนะ การชื่นชมซึ่งกันและกันเป็นยาใจที่ทำให้เราเดินทางกันต่ออย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
บันทึกนี้เขียนให้ทราบโดยละเอียด ก่อนที่จะมาเป็นวันนี้ว่าเราคิดอะไร และมีแนวทางแบบไหน บันทึกนี้ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์หากผู้อ่านได้อ่านและทำความเข้าใจ
ความเข้าใจต่อการปฏิบัติของผู้คน อาจมีหลายมุม ตามวิธีคิดและประสบการณ์ ซึ่งก็ห้ามยากไม่ให้คิด และหากความคิดเจือด้วยอคติแต่เพียงน้อยก็ทำให้คิดและวิจารณ์ในแนวทางตรงข้าม บั่นทอนกำลังใจ
แต่ผมอยากให้รับรู้ว่า สิ่งที่พวกเราทำ พวกเราเหนื่อยนั้น เกิดจากความตั้งใจที่จะสร้างสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในสังคมไทย อาจไม่ได้มากมายแต่ก็ก็ได้ลงมือทำ และก็ทำอย่างดีที่สุดครับ
"จิตที่เป็นกุศล คิดแต่สิ่งที่ดี การทำงานการงานใดก็สำเร็จด้วยพลังของจิตที่ดีนี้ และจะมีพลังยิ่งๆขึ้นไปหากดวงจิตกุศลหลายๆดวงมารวมกัน...งานที่ว่าใหญ่และยากก็สำเร็จได้โดยพลัน" (อ.พิชัย พูดในร้านเพลิน ฮิลล์ไซต์คอนโด:เชียงใหม่)
กระผมขอขอบพระคุณทุกท่านครับ
สวัสดีค่ะ .คุณเอก พี่อ๋อย เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนทำงาน ได้รับ แผ่นงานวิจัยที่ส่งไปให้แล้วนะ เสียดายมากไม่มีโอกาส ได้มาร่วมงานด้วย ติดเป็นวิทยากรให้กับเขตพื้นที่ค่ะ
ทุกสิ่งขึ้นอยู่ที่เจตนาค่ะ
.... เชื่อมั่น ศรัทธา ....
เดินหน้าต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ
น้องเอกครับ
ผมเชื่อแน่ว่า น้องเอกคงได้ยินอะไรมา และคงเป็นอะไรที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจมากพอสมควร จึงเกิดบันทึกนี้ขึ้นมา
ผมเพียงอยากบอกว่า มาขอบคุณในความอาทรและห่วงใยทั้งหมด ที่อยู่ในรูปแบบของการอธิบายความของน้องเอก
คงอาจเป็นเพราะบุคลิกของผม ที่ชอบสื่อไปทางสนุกสนานและออกจะเล่นหวัว
จนบางท่านอาจรู้สึกว่า ไร้สาระ
และการสื่อประชาสัมพันธ์ในเรื่องรายละเอียดต่างๆมาก
จนบางท่านอาจรู้สึกว่า เว่อร์ไป...หรูหราเกินไป ฟุ่มเฟือยเกินไปหรือปล่าว
ที่จริง ท่านไม่ผิดที่คิดอย่างนั้น
เพราะท่านยังไม่ได้มารับรู้จริงๆ...ผมจึงอยากให้ท่านมา
มาสัมผัสในความจริงใจ ทุกๆรูปแบบที่เราตั้งใจจัดขึ้น...ตามที่น้องเอกเล่า
เราเชื่อว่า...หากเราเอาใจใส่ ต้อนรับทุกคนอย่างอบอุ่น ให้รู้สึกว่าเหมือนมาบ้านเพื่อนหรือบ้านญาติ แทนที่จะมางานสัมมนา คงจะดีไม่น้อย
เพราะเราเองก็รู้สึกว่า เวลาไปงานสัมมนาใหญ่ๆ ผู้เข้าร่วมสัมมนามักไม่ค่อยมีความสำคัญหรือสัมพันธ์อะไรมากทั้งระหว่างผู้จัดและระหว่างผู้เข้าร่วมสัมมนาด้วยกันเอง
ดังนั้น เราจึงเน้นการสร้างความสัมพันธ์และการสนุกสนานเฮฮาฉันเพื่อน...ให้เกิดความรู้สึกสบายใจ ไม่เครียด ไม่เกร็ง สบายๆ ...เพราะเมื่อคนเรารู้สึกผ่อนคลาย อะไรที่มีอยู่ในหัวและในหัวใจก็จะพรั่งพรูออกมาได้ง่ายกว่า
แบบที่น้องเอกว่า งานวิชาการไม่จำเป็นต้อง(เคร่ง)เครียด J
เราเชื่อว่า...คนที่มารับการอบรม นอกจากอยากรู้เทคนิคแล้ว ยังอยากรู้วิธีคิดและวิธีเขียนของ bloggers แต่ละท่าน ที่จะทำให้เกิดพลังใจและประหยัดระยะเวลาในการเรียนรู้...เป็นการเรียนรู้จากพี่ๆ
เราเชื่อว่า...เมื่อมี bloggers มารวมกันมากๆ และเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายในฐานที่มาและฐานการแสดงออก แต่มีใจมุ่งรักในสิ่งเดียวกัน...ยังไม่ทันรู้จักหน้า ก็รู้จักใจกันแล้ว
การมามีโอกาสรวมตัวกันคราวนี้ ...คงมีสิ่งดีดีเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
ทั้งงานวิชาการ และการสร้างพลังเครือข่าย
เมื่อจบงาน...เครือข่าย เกิดขึ้นแน่นอน ทั่วประเทศครับรับรองได้!
ในฐานะเจ้าภาพ เราจึงเตรียมการต้อนรับ ด้วยการเอางานศิลปวัฒนธรรมเราออกมาอวดและด้วยศักยภาพที่ผมมีรวมทั้งทีมงานที่อาสามาช่วย...งานจึงดูใหญ่และอลังการอย่างช่วยไม่ได้
แต่มิได้หมายความว่าต้องใช้เงินมากและแพงมาก
สังเกตุจากเงินค่าลงทะเบียน เพียง ๑,๕๐๐ บาท ต่อ ๓ วัน
ค่ากิน ๗ มื้อ ค่าของว่าง ๖ มื้อ (มีมื้อใหญ่ด้วย)
ทุนที่จัดงานนั้น มาจากเงินที่ผมตั้งงบไว้ในคณะ แตไม่ใช่ตัวเลขมากมายหากหารด้วยจำนวนคนและผลลัพท์ที่พึงได้
เพราะเราใช้หัว มากกว่าใช้เงินเดินงาน และใช้พลังกุศลจิตเป็นตัวขับเคลื่อน สร้างเครือข่ายครับ...งานปอย ร่วมด้วย ช่วยกัน
ร่วมมาเป็นเจ้าของงาน เป็นเจ้าภาพด้วยกัน
ทุกคนที่มาช่วยผม จึงช่วยเต็มที่ ช่วยด้วยใจ...เพราะผมเทใจให้ดูก่อน
แต่บังเอิญบุคลิกภาพของผมเป็นคนสนุกสนานร่าเริง แต่ทำงานจริง ทำงานด้วยความรัก
จึงทำให้เวลาทำงานเหมือนไม่ได้ทำงาน (แปลกๆเนาะ) ...ดูเป็นเหมือนทำเล่นมากกว่าทำงานครับ
เลยต้องขออภัยและขอโทษที่ชี้แจงมายาว...และขอเชิญชวนทุกท่าน
ให้โอกาสผมและทีมงาน โดยมาสัมผัสและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในมิติฐานความรักฉันเพื่อนพี่น้อง
ความใกล้ชิดเป็นญาติอย่างยิ่ง...
วันที่ ๑๓ สิงหาคม อัศจรรย์แห่งพลังกุศลจิตจะสร้างสิ่งที่ดีดีครับ
เมื่อคิดดี...พูดย่อมดี...การกระทำย่อมดีด้วยเรียน อ.พิชัย, คุณเอก และทีมทำงานทุกท่านค่ะ
ขอบคุณในเจตนาทั้งผู้จัด และผู้เป็นกัลยาณมิตรครับ
จิตใดที่ตั้งอยู่เป็นกุศล การกระทำก็เป็นกุศล ส่งผลให้กิจการ งานสำเร็จไปด้วยดี
ขอบคุณ อ.นม. ที่เป็นเพื่อนที่ดี และให้กำลังใจเสมอมา
ขอบคุณท่าน อ.พิชัยพิชัย กรรณกุลสุนทร หัวเรื่อใหญ่ที่สร้างสรรค์โอกาสดีๆให้กับประเทศไทย
ขอบคุณอย่างจริงใจ กับพี่อ๋อย หิ่งห้อย
พี่สาวที่น่ารัก จาก มรภ.กำแพงเพชรครับ พี่เป็นตัวอย่างในการเดินทางไกลของผมเลยครับ
สวัสดีไปยังสาวพังงาpoo
ที่ละเอียดอ่อน ละมุนลไม ใจงาม ที่มอบกำลังใจมากให้ครับ
เหนื่อยมากและทุ่มเท ก็คุณซูซานLittle Jazz \(^o^)/ แม้เจ้าตัวจะออกปากว่าไม่เคยทำงานท่ามกลางสาธารณชนแบบเป็นวิทยากร แต่งานนี้มาด้วยใจ และตั้งใจเกินร้อย ขอบคุณมากครับ
และขอบคุณพี่ติ๋ว นาง กฤษณา สำเร็จ พยาบาลที่คอยพยาบาลทั้งกายและใจ เพิ่มความสนุกให้ใครต่อใคร ให้แฮปปี้กันทั้งโลก ให้ลึกไปถึงจิตวิญญาณ รอพบพี่ติ๋วที่เชียงใหม่นะครับ