รวมโลก


สันติภาพ เสรีภาพ รัก สามัคคี

การรวมโลก



หลักการรวมโลก
การรวมโลก คือ การที่ทุกประเทศบนโลกในปัจจุบันพร้อมใจกันเลิกแบ่งแยกประเทศ ทำข้อตกลงถอนทหาร และจัดให้มีรัฐบาลโลกที่ดูแลโลกทั้งโลก เสมือนหนึ่งว่าโลกทั้งโลกคือประเทศหนึ่งประเทศ     โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้นทันทีหลังการรวมโลกสองประการ   หนึ่งคือ ไม่มีทหารหรือกองทัพใดๆ (มีแต่ตำรวจคอยรักษาความสงบสุขของสังคม)     สองคือ มนุษย์ทุกคนจะเป็นพลเมืองของประเทศโลก มีเสรีภาพที่จะเดินทางไปได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง (Passport)


ทำไมจึงควรรวมโลก
- ไม่มีเหตุผลในการแบ่งชาติ
โลกไม่ได้มีเจตนาจะให้พวกเราแบ่งชาติกัน โลกสร้างเรามาเป็นมนุษย์เหมือนกัน ยืนอยู่บนผิวโลกด้วยกัน --- โลกไม่ได้กำหนดแนวเขตประเทศให้เรา หากแต่เราเองที่พากันแบ่งประเทศ .. อย่างไร้กฎเกณฑ์แน่นอน .. โลกไม่มีการกีดกั้นพรมแดน   โลกให้ศักยภาพเราในการเดินทางไปได้ทั่วโลกทั้งทางบกทางน้ำทางอากาศ .. หากแต่เราเองที่กีดกั้นกันเองในการได้เสรีภาพที่จะท่องไปในโลกทั้งใบด้วยการแบ่งเป็นประเทศเล็กๆ น้อยๆ     --- โลกไม่ได้กำเนิดผู้คนให้แตกต่างเป็นหลายสายพันธุ์ตามที่เราแบ่งกันเป็นประเทศ     เราต่างก็เป็นคนด้วยกันทั้งสิ้น ... แม้จะมีรูปลักษณ์ต่างกันบ้างแต่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวกัน มีความคิด มีอารมณ์ มีความสามารถในการเรียนรู้ไม่แตกต่างกัน ............ เราสามารถอยู่ร่วมกันทั้งโลกเป็น "ชาวโลก" ของ "ประเทศโลก" ได้เหมือนกับที่หลายประเทศในปัจจุบันยังคงความเป็นประเทศอยู่ได้แม้จะมีความหลากหลายในเผ่าพันธุ์ วัฒนธรรม ภาษา ฯลฯ มากมายในประเทศ .... แต่ประเทศโลกจะมั่นคงกว่า เพราะประเทศโลกประกอบด้วยพลเมืองโลกที่มีความเหมือนกันอย่างชัดเจน คือ เป็นคน และ ถือกำเนิดบนผืนโลก

- ผลเสียเนื่องจากการแบ่งชาติ
ความสูญเสียจากสงคราม, การเสียกำลังคนกำลังทรัพย์กับการทหาร, กับระเบิดตามชายแดน, การสูญเสียโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ทั้งโลก, การแก่งแย่งแข่งขันเอารัดเอาเปรียบระหว่างประเทศ, ความคิดแบ่งแยกดินแดน, ผู้ก่อการร้าย, ความยากจน, ภาวะโลกร้อน, การขาดความรักสามัคคีของทุกคนบนโลก, ฯลฯ ...... ฤาจะปล่อยให้โลกถูกทำลายก่อนสายเกินจะแก้ไข

- ผลประโยชน์ที่จะเกิดจากการรวมโลก
---- ไม่มีการแบ่งกั้นพรมแดน ...... เสรีภาพที่แท้จริง และการสามารถเอ่ยคำว่า "โลกของเรา" ได้เต็มปาก
---- ไม่มีทหาร ..... ไม่มีสงคราม .. สันติภาพอันยั่งยืน .... หยุดความสูญเสียทั้งหลายจากสงคราม .... เกิดความโปร่งใสในการใช้งบประมาณทุกกิจการ
---- การพัฒนาอย่างที่เราไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ในสภาพโลกที่แบ่งแยกประเทศนี้ .. เช่น การมีดาวเทียมอินเตอร์เน็ตให้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีได้ทั่วโลก, การมีอาหาร โรงพยาบาล แหล่งความรู้ เพียงพอกับทุกผู้คนบนโลก, เส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อทั่วโลก, การป้องกันภัยธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ, การใช้ทรัพยากรของโลกให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน
---- ความรักกันของคนทั้งโลก อันจะส่งผลให้ทุกผู้คนอยู่อย่างมีความสงบสุข และสนุกสนาน

เป็นไปได้หรือที่จะรวมโลก
ถามตัวคุณเองว่าคุณเห็นด้วยหรือไม่ ... หากคุณเห็นด้วย ก็หมายถึงว่า คนอื่น ซึ่งสามารถเข้าใจหลักเหตุผลนี้ได้เช่นเดียวกันกับคุณ ก็สามารถเห็นด้วยได้เช่นกัน .. และเมื่อทุกคนเห็นด้วยแล้ว การรวมโลกย่อมเป็นไปได้แน่นอน

แนวทางดำเนินงานสู่การรวมโลก
---- รณรงค์ให้เสียงส่วนใหญ่ (เกือบทั้งหมด) ของทุกประเทศเห็นพ้องในการจะรวมประเทศ .. สร้างสำนึกแก่ทุกคนให้เข้าใจความเป็นคนเหมือนกัน   ส่งเสริมความรักสามัคคีของคนทั้งโลก     อธิบายหลักการและเหตุผลของการรวมโลก     และทำความเข้าใจให้ชัดเจนถึงแนวทางรวมกันอย่างสันติ
---- อาจให้องค์การสหประชาชาติดำเนินบทบาทเป็นรัฐบาลโลกชั่วคราว .. เตรียมการเลือกตั้งรัฐบาลโลก และวางแผนงานอื่นๆ
---- ทุกประเทศยุติกิจการทางทหารทั้งหมด
---- ทุกประเทศออกบัตรประชาชนโลก (บัตรมนุษย์) ให้ทุกคน
---- มีรัฐธรรมนูญโลก ที่ให้เสรีภาพแก่บุคคลในการอาศัยอยู่ที่ใดก็ได้บนโลก (ที่ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนบุคคลของผู้อื่น) .. สามารถนับถือศาสนาอะไรก็ได้ ... สามารถแสดงออกและแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีหากไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น .. มีสิทธิ์ได้รับการดูแลจากรัฐบาลโลก และสิทธิ์ร่วมปกครองโลกอย่างเท่าเทียมกัน
---- ทุกอย่างอื่นๆ ดำเนินไปตามเดิมในช่วงแรก ... แนวเขตประเทศ (รัฐ) ต่างๆ ยังเป็นเหมือนเดิม .. ภาษาที่ใช้ยังเหมือนเดิม .. งานและเงินเดือนส่วนใหญ่ยังเหมือนเดิม

ใครควรร่วมส่งเสริมให้เกิดการรวมโลก
เราทุกคน   ไม่ว่าจะจนหรือรวย เพียงเป็นคนที่ภูมิใจในชาติพันธุ์มนุษย์ และสำนึกที่จะทดแทนคุณของโลกและชาวโลก คุณก็ช่วยให้โลกรวมได้ง่ายๆ เพียงช่วยทำความเข้าใจถึงผลดีจากการรวมโลกกับคนรอบข้างอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีการรวมโลก ... เพื่อความภาคภูมิใจในตนเองที่ได้มีส่วนร่วมพัฒนาโลกครั้งใหญ่ในยุคของเรา

ลูกโลก
Version: 30 เมษายน พ.ศ. 2550
คำสำคัญ (Tags): #peace#freedom#love#cooperation
หมายเลขบันทึก: 113021เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2007 12:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 11:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

เป็นแนวความคิดที่สร้างสรรค์มากครับ

คำว่า"โลก"มีหลายความหมาย

ถ้าโลก(Earth)ในความหมายนี้ มันยังไม่ถึงเวลาที่จะแตก

ถ้าโลกในทัศนคติ ความคิด ความเชื่อ การจะรวมโลกต้องสร้างสัมมาทิฐิให้ไปแนวเดียวกัน การทำให้ "คน" (ปนๆคละเคล้ากันไป)มีความเห็นชอบไปในแนวทางเดียวกันนั้นจึงเป็นเรื่องยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย อาจจะต้องใช้เวลา ให้มนุษย์มีอายุยืนถึง80,000ปีก่อน จึงจะทำได้

*ทุก100ปีอายุเฉลี่ยของมนุษย์จะลดลง 1 ปี

(ปัจจุบัน ~ 60 ปี) เมื่ออายุเฉลี่ยของมนุษย์ลดลงเหลือ10ปี จะเป็นจุดที่ ทุก100ปีอายุเฉลี่ยของมนุษย์จะเพึ่มขึ้น 1 ปี

ปัจจุบันโลกก็เสมือนถูกรวมไว้แล้ว แต่เป็นการรวมในลักษณะมิจฉาทิฐิ หรือที่อดีตผู้นำสหรัฐเรียกมันว่า New World Order นั่นเอง   

  

ยังมีอีกแนวคิดหนึ่งนะ ที่จะช่วยสร้างเสริมให้เกิดการรวมโลกได้สำเร็จ และได้อย่างมั่นคงด้วย

 นั่นคือ การคิดค้น ธรรมโลก ... เป็นการรวมเอาธรรมะ ทั้งหมดมาสรุปให้มนุษย์โลกได้ใช้ยึดถือทุกขณะ .. ให้ทุกฝ่ายลดทิฐิยึดถือตำราเก่า แล้วเอาความรู้เอาเหตุผลของแต่ละคนมาถกกัน .... แล้วเราก็จะพบความจริง ....  (ความจริงหนึ่งก็คือ เราคือมนุษย์เหมือนกัน เราควรอยู่กันด้วยความรัก เราควรร่วมกันพัฒนาโลก ฯลฯ ... ที่สำคัญ  เราควรอยู่อย่างมีความสุข .. พอใจ = ไร้ทุกข์  ... ทำดี = มีสุข)

รู้สึกยินดีครับที่ได้พบคนที่มีแนวความคิดคล้ายๆกัน คุณธรรมสากล(universal)นั้น เราอาจต้องก้าวข้ามกำแพง international ไปก่อน

  • universal เปรียบเสมือนเกลือ จะหยิบเม็ดไหนขึ้นมาชิมก็เค็ม
  • international เปรียบเสมือน น้ำทะเล ชายฝั่งก็มีน้ำกร่อย จะนำมาดองปลา ปลาก็คงจะเป็นหนอน

เราคงต้องเดินตามท่านพุทธทาส หรือท่านติช นัท ฮันห์ ที่ท่านศึกษาศาสนาเปรียบเทียบและธรรมะอย่างลึกซึ้ง แล้วสามารถนำคุณธรรมสากลให้นานาประเทศยอมรับได้ โดยไม่มีกำแพงศาสนามาขวางกั้นแต่อย่างใด

บางอย่างก็ต้องเริ่มลงมือทำเลย ผมเชื่อว่าคุณโลกโลกก็สามารถทำได้ หากคุณลูกโลกได้อ่านประวัติของ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน แล้ว คุณลูกโลกจะทราบว่า เพียงระยะเวลาครึ่งชีวิตของคนๆหนึ่ง ก็สามารถนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่โลกใบนี้ได้   

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ครับ  ท่าน Man in Flame

ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนสร้างคุณประโยชน์ได้อย่างยิ่งใหญ่ยิ่งนักครับ ... ขอแสดงความนับถือด้วยใจ

 แต่ผมยังเห็นว่า การรวมโลก ด้วยความรักความร่วมมือร่วมใจ ความเข้าใจในหลักเหตุผลและความจริง ของชาวโลก จะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่านี้อีก .. เพราะจะเป็นการขจัดอธรรม (ความไม่รู้ .. เพราะหลงผิด) ไปจากโลก : )

รวมโลกที่ว่าก็ยังมีข้อเสีย เพราะ รัฐบาล ยังมีอำนาจ ถ้าคนเลือกไม่ได้ โลกก็เน่า สิ่งที่ดีที่สุดคือแตกอำนาจ ไม่ใช่รวมอำนาจ ถ้าคุณเห็นด้วย อุปกรณ์ป้องกัน คือสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าปืนทำอะไรเราไม่ได้ คนอื่นไม่สามารถถูกเนื้อต้องตัวได้ คนอื่นไม่สามารถเดินเข้าอาณาเขตของเราได้ ด้วยพลังคลื่นแม่หล็กดันกัน ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ใครได้ มันจะเกิดขึ้นในอนาคต ข้าพเจ้าขอสัญญา และเมื่อถึงตอนนั้นทุกคนจะอยู่อย่างสันติภาพโดยที่ไม่มีใครทำอันตรายใครได้ ไม่ต้องมี ทหาร ตำรวจ

ขอบคุณคุณเอกที่ให้ความคิดเห็นครับ

คงไม่ต้องถึงขั้นสร้างกำแพงพลังแม่เหล็กป้องกันกันหรอกครับ  .. เพราะถึงสร้างขึ้นมาได้ ก็ป้องกันไม่ได้ หากคนยังมีกิเลส กิเลสก็จะนำพาให้เขาหาทางทำลายสนามแม่เหล็กจนได้ ... เหมือนระบบรักษาความปลอดภัยสารพันที่เราสรรหามาป้องกันบ้านป้องกันรถอย่างทุกวันนี้ ก็ไม่มีระบบใหนป้องกันได้ 100%

แนวทางที่ถูกต้องในการไปสู่สภาวะที่ผู้คนอยู่อย่างไม่เบียดเบียนกัน ก็คือการมีความรักให้กัน ... คนรักกัน ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างเกราะมาป้องกันคนที่เรารักและรักเรามาเล่นกับตน ... หนทางที่จะรักกันได้ ก็คือ การมีธรรม ... ธรรม = ความรู้ .. รู้ตน และรู้ในความจริง .. รู้ว่าเหตุแห่งทุกข์ใจที่แท้ก็คือความอยากในใจตน .. เหตุแห่งทุกข์กายก็คือความไม่เข้าใจในกฏธรรมชาติ เป็นต้น

ตอบความคิดเห็นคุณลูกโลก
ถ้าคุณได้ลองศึกษาถึงธรรมชาติอย่างแท้จริงแล้วคุณจะรู้ว่ากฏธรรมชาติ สร้างพวกเรามาให้เกิดการแย่งกัน "ไม่ได้หมายถึงมนุษย์
แต่รวมทุกๆสิ่ง" นั้นก็หมายถึงถ้าอีกฝ่ายหนึ่งมีสุขอีกฝ่ายจะเกิดทุกข์
ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต ก็คือ จุรินทรีย์ ก่อนที่จะมาเป็นคนได้ถึงปัจจุบัน  จุรินทรีย์ จะต้องแย่งกันกิน  กินจุรินทรีย์ด้วยกัน หลายชนิด จนหลายๆ ปีนานนับ
ก็เกิดการวิวัฒนาการกลายรูปกลายร่างมาเป็นสัตว์หลายๆเซลล์ ถึงแม้จะเป็นสัตว์แล้วก็จะต้องล่ากินเซลล์อื่นๆอยู่ดี เช่น สิงโต ก็ ล่ากินกวาง
วัวก็กินหญ้า หญ้าก็ถือเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นกันเพียงแต่ไม่มีเชลล์ประสาทรู้สึกความเจ็บปวดเท่านั้น
เพราะฉนั้น โลกที่คุณลูกโลกว่า หยุดถึงความอยากของแต่ละคน ทำเป็นไปไม่ได้
ลองนึกภาพง่ายๆ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีน้ำใจให้กันช่วยเหลือกัน แต่ร่างกายของคนในหมู่บ้านก็ยังโดน จุรินทรีย์ เบียดเบียน
ปัญหานี้ก็คือลูกโซ่ที่นำไปสู้ความขัดแย้งในที่สุด
เมื่อมีคนป่วยหลายคน หมอ รักษาไม่พอจึงจำเป็นต้องเลือกที่จะช่วยเหลือใครก่อน ก็คงเป็นญาติเค้าก่อน มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
คนป่วยที่ช่วยไม่ทันก็ต้องตาย ญาติของผู้ตาย ก็เริ่มมีความแค้นความเกลียจชังหมอขึ้น นำไปสู้ปัญหาอื่นๆที่ตามมาภายหลังพอถึงช่วงอาหารมีจำนวนจำกัด ผู้คงก็จะเกิดการแย่ง
กัน "โดยเป็นหลักของความอยู่รอดที่มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใดจะต้องทำ" เมื่อผู้คนที่แย่งไม่ทัน ก็จะต้องใช้กำลัง ทำให้เกิดการฆ่ากันขึ้น
นี้ก็คือกฏธรรมชาติที่เข้าใจง่ายๆ
ดังนั้นอุปกรณ์ป้องกันก็คือสิ่งที่ดีที่สุดซึ่งนำมาสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริง เราจะใช้แนวคิดนี้ปลูกฝังเข้าไปสู้นักประดิษฐ์ และ นักวิทยาศาสตร์ ซึ่ง 2 อาชีพนี้คืออาชีพมหาอำนาจเปลี่ยนแปลงโลกได้
โดย ใช้หลักเกณฑ์ที่ว่า ทุกคนอยากอยู่แบบสันติภาพและมีความสุขกันทั้งนั้น ถึงแม้จะมีผู้ที่เบียดเบียนเกิดขึ้น หรือ หาวิธีสร้างอาวุธโจมตีทำลายอุปกรณ์ป้องกันนี้ แต่เค้าผู้นั้นก็จะไม่สามารถทำลายได้
ถ้าเรารวมพลังกัน เปรียบเทียบ เหมือนการวิ่งแข่ง ถ้าคุณเป็นแชมป์ แล้วคุณฝึกซ้อมตลอดเวลาก็ไม่มีใครที่จะเอาชนะทุกได้ แต่ถ้าคุณหยุดคุณก็จะแพ้มัน

อืมมม
ผมไม่ค่อยเข้าใจหลักการทำงานของเกราะป้องกันของคุณเอกเท่าไรนะครับ
ยังมองไม่ออกว่ามันจะใช้งานทุกเวลาหรืออย่างไร ... เด็กแบเบาะจะใช้มันเป็นหรือไม่ ...
ผมจึงยังคิดว่า การใช้เกราะป้องกันทางกายคงไม่ใช่หนทางให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเป็นแน่
เกราะป้องกันที่น่าจะได้ผลจริงๆ ก็คือเกราะป้องกันทางใจ อันเกิดมาจากความคิด ความรู้ และการยึดมั่นใน

ธรรม
ยกตัวอย่างเช่น  ผมกะคุณเอกเนี่ย แม้จะอยู่ใกล้กัน ก็คงไม่ทำอะไรที่รู้ว่าเป็นการทำร้ายกัน เพราะเรามีธรรมะ

ประจำใจที่รู้ว่า การทำร้ายผู้อื่น ก่อให้เกิดทุกข์ทั้งต่อใจตนและกายตนเอง

อนึ่ง  คุณเอกลองนึกถึงสถานการณ์ที่คุณเอกอยู่กับเพื่อนๆ ที่ดีๆ และรักกัน ในช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกัน
ณ ขณะนั้น  มนุษย์อยู่ร่วมกัน โดยมีความสุขด้วยกันได้ ใช่ไหม
ในทำนองเดียวกัน มนุษย์โลก ก็สามารถมีความสุขด้วยกันได้ทั้งหมดด้วยเช่นกัน
เพียงแต่  เราต้องทำสภาพของโลกให้เหมือนสภาวะที่คุณเอกสนุกสนานกับเพื่อนนั้น .. ทำให้ได้ตลอดไปด้วย
ซึ่งผมเห็นว่า มีทางเป็นไปได้
เนื่องจาก
1. โลกกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์พอ
2. มนุษย์มีพื้นฐานของจิตใจที่งดงามพอ  และมีปัญญาพอที่จะเข้าถึงหลักเหตุผลได้
3. ยังนึกไม่ออกครับ .. แหะ แหะ

อ้อ ... อีกประการหนึ่ง .. หากมนุษย์จำเป็นต้องฆ่าจุลินทรีย์ หรือสัตว์อื่น ด้วยความจำเป็น ด้วยความสมเหตุสมผล .. มนุษย์เราก็คงไม่ต้องเป็นทุกข์ใจครับ

นักประดิษฐ์ และ นักวิทยาศาสตร์ 2 อาชีพนี้มิใช่อาชีพมหาอำนาจที่เปลี่ยนแปลงโลกได้

อาชีพครูต่างหากที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ เช่นเดียวกับพระพุทธองค์ ที่เป็นครูผู้สอนอันยอดเยี่ยมของเหล่ามนุษย์และเทวดา

 

 

 

ขอบคุณในความคิดเห็นครับ คุณ Man in Flame

 

... จะพยายามสอบเป็นครู  เผื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ ... อิ อิ .. ล้อเล่นครับ ... ขอลองเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน

แวะเวียนมาสนทนาอีกครั้งครับ '(^--^)'

  • จะรวมโลกเราต้องรู้จักโลกให้ดี ทุกแง่มุมเสียก่อนครับ
  • เคยอ่านหนังสือของท่านพุทธทาส (หากมีโอกาสจะไปค้นชื่อหนังสือให้นะครับ) ท่านได้ให้ความหมายของคำว่าโลกไว้อย่างลึกซึ้งและพิศดาร มีความหมายหนึ่งที่ผมจำได้ ท่านเขียนไว้ว่าโลกคือความมืด

โลกนี้คือ ถ้ำมืด ไม่เห็นแสง
ไม่มีความ แจ่มแจ้ง ไม่เฉลียว
คิด-พูด-ทำ โมหา ไปท่าเดียว
ลองคิดเที่ยว โลกสว่าง ข้างหน้ากัน!

โลกนี้คือ ร่มไม้ ได้อาศัย
บัดเดี๋ยวใจ พักร้อน แล้วผ่อนผัน
ออกไปสู่ โลกอื่น อีกหมื่นพัน
ไยยึดมั่น หมายมี โลกนี้นาน!

 

แวะเวียนมาสนทนาอีกครั้งครับ '(^--^)'

  • จะรวมโลกเราต้องรู้จักโลกให้ดี ทุกแง่มุมเสียก่อนครับ
  • เคยอ่านหนังสือของท่านพุทธทาส (หากมีโอกาสจะไปค้นชื่อหนังสือให้นะครับ) ท่านได้ให้ความหมายของคำว่าโลกไว้อย่างลึกซึ้งและพิศดาร มีความหมายหนึ่งที่ผมจำได้ ท่านเขียนไว้ว่าโลกคือความมืด

โลกนี้คือ ถ้ำมืด ไม่เห็นแสง
ไม่มีความ แจ่มแจ้ง ไม่เฉลียว
คิด-พูด-ทำ โมหา ไปท่าเดียว
ลองคิดเที่ยว โลกสว่าง ข้างหน้ากัน!

โลกนี้คือ ร่มไม้ ได้อาศัย
บัดเดี๋ยวใจ พักร้อน แล้วผ่อนผัน
ออกไปสู่ โลกอื่น อีกหมื่นพัน
ไยยึดมั่น หมายมี โลกนี้นาน!

 

แวะเวียนมาสนทนากับคุณลูกโลกอีกรอบครับ '(^--^)'

  • การที่เราจะเปลี่ยนหรือรวมโลก เราต้องทำความรู้จักโลกในทุกแง่มุมก่อนครับ
  • เคยอ่านหนังสือของท่านพุทธทาส (จะกลับไปค้นชื่อของหนังสือก่อนนะครับ) ท่านได้เขียนเกี่ยวกับความหมายของโลกไว้อย่างลึกซึ้งและพิศดาร มีความหมายหนึ่งที่ผมจะได้คือ โลกคือความมืด

โลกนี้คือ ถ้ำมืด ไม่เห็นแสง
ไม่มีความ แจ่มแจ้ง ไม่เฉลียว
คิด-พูด-ทำ โมหา ไปท่าเดียว
ลองคิดเที่ยว โลกสว่าง ข้างหน้ากัน!

โลกนี้คือ ร่มไม้ ได้อาศัย
บัดเดี๋ยวใจ พักร้อน แล้วผ่อนผัน
ออกไปสู่ โลกอื่น อีกหมื่นพัน
ไยยึดมั่น หมายมี โลกนี้นาน!

ขอบคุณท่าน Man in Flame อีกครั้งที่มาให้ความรู้

ผมอ่านบทกลอนแล้ว เข้าใจว่าท่านพุทธทาสจะหมายความว่า "โลกในชาติปัจจุบันของเรานี้มีทั้งสุขและทุกข์ ไม่ได้มีอะไรวิเศษวิโส   แล้วเราจะต้องไปยึดติดทำไม  ควรปล่อยวาง ยอมละทิ้งมันไป เพราะยังมีโลกใหม่ (ชาติใหม่) ดีๆ รออยู่อีกมากมาย"

....

ในความเห็นของผมแล้ว .. คงไม่เห็นด้วยนัก เนื่องจาก หากการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง เราก็ควรต้องทำดีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่หากได้เกิดมาชาติหน้า ก็จะได้อยู่ในโลกที่ดีขึ้น ... หาไม่แล้ว โลกหน้าที่ได้เกิดมา ก็คงย่ำแย่ไม่แพ้เดิม

... อนึ่ง .. ผมยังไม่มั่นใจนะครับ ว่าตายแล้วจะได้เกิดใหม่ .. แต่ก็ค่อนข้างมั่นใจ ว่าผมก็คงต้องตายในสักวันหนึ่ง เหมือนมนุษย์ทั่วไป  :-)

โลกไม่ใช่ของเรา

คืนเขา? ไปเถอะ

ลึกซึ้ง ล้วน เสาะหา

มากมาย มีที่มา

กล้าบวกบ้า ที่จะ ทำ

JUST FIGHT FOR FREEDOM !

i love people when they act like this*

no war

no ayatollam

no shah

no president

no nationalism

no militarism

no ideology

no religion

no god

no state

no leader

no followers

destroy that which destroys you

LOVE PEACE

ขอบคุณท่านสุขสำราญที่มาให้ความคิดเห็น

ข้าน้อยจะเร่งสร้างความรักความเข้าใจของมวลมนุษย์ต่อไปครับ

ผมก็เคยคิดแบบคุณลูกโลกเหมือนกันครับ ว่าทำไมเราต้องมีประเทศ มีการแบ่งแยก? (มาแนวเพลง imagine) แต่ถ้าพูดถึงมันก็เป็นไปได้ยากมากๆ นอกเสียจากว่าจะเกิด mass effect อะไรขึ้นมาจริงๆ เช่น ภาวะมนุษย์ต่างดาวบุกโลก!?(รวมโลกเพื่อให้แข็งแกร่ง)-ซึ่งเป็นไปไม่ได้ หรือประชากรบนโลกต้องน้อยมากๆ แตกหักจนถึงขั้นให้มวลมนุษย์รวมเป็นหนึ่ง เพราะทุกคนล้วนหวงอำนาจ คนที่อุดมการณ์ดีๆ พอมีอำนาจแล้วเสียก็มีให้เห็นเยอะในประวัติศาสตร์โลก ผู้ที่มีอำนาจไม่ได้ต้องการพึ่งพาอาศัยกันอย่างสันติ เพียงคิดแต่ต้องการเพิ่มอำนาจ เป็นส่วนใหญ่ครับ (รอดูโอบามากเย่สวีแคน) คงต้องล้างสมองกันกระมัง ชอบในแนวคิดคุณลูกโลกมากครับ สนับสนุนให้ดำเนินงานต่อไป แม้ว่ามันจะเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยากจริงๆ แต่ยังไงมันก็มีความเป็นไปได้.. โดยที่ไม่ต้องเป็นแบบตัวอย่างตามด้านบน ผมมีความเชื่อว่ามนุษย์ทำได้ทุกอย่างจริงๆครับ

ผมคิดว่า พวกผู้นำก็ทำตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน

เราประชาชนธรรมดาคงต้องช่วยกัน

บอกต่อ จนกระทั่งทุกคนเห็นด้วยกับการรวมโลก

เป็นไปได้แน่ครับ

อย่างน้อย ... แค่ได้ตั้งใจทำก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองแล้วครับ

ขอแจ้งข่าวครับ

ท่านสามารถร่วมลงคะแนนเสียงประชามติชาวโลกสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลโลกได้ที่ http://www.voteworldgovernment.org ซึ่งมีเวอร์ชั่นภาษาไทยให้เลือกด้วย

ท่านสามารถอ่านแนวคิดเรื่องการรวมโลกอย่างครบถ้วนได้ที่ http://www.WeLoveOurWorld.com (ต้องขออภัยที่เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น .. แต่เว็บไซต์นี้มีเครื่องมือแปลของ Google แปลหน้าเว็บเป็นภาษาอื่นๆ ได้)

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นโต้ตอบกับผมเรื่องการรวมโลก หรือ ธรรมะโลก ได้ที่เว็บไซต์ของผมเองคือ http://www.GoodJai.com

มาร่วมรวมโลก เพื่อความอยู่รอดของโลก และชีวิตที่ดีขึ้นของเราชาวโลกทุกคนครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท