แป้ง
นางสาว ปรีดาภรณ์ แป้ง เรืองสุวรรณ

การทานยา


การทานยาให้ถูกวิธี
การทานยาให้ถูกวิธี
1.ยาก่อนอาหาร : ให้รับประทานยาก่อนอาหาร (รวมทั้งนม ขนม ฯลฯ) ประมาณ 30-60 นาที
2.ยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที : ให้รับประทานอาหารครึ่งหนึ่งแล้วรับประทานยา แล้วรับประทานอาหารต่อจนอิ่ม หรือหลังจากรับประทานอาหารคำสุดท้าย แล้วตามด้วยการรับประทานยาทันที
3.ยาหลังอาหาร : ให้รับประทานยาหลังอาหาร ประมาณ 15-30 นาที
4.ยาระหว่างมื้ออาหาร : ให้รับประทานยาก่อนหรือหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง โดยถ้าเลือกรับประทานเป็นยาก่อนอาหาร (หรือหลังอาหาร) แล้ว ครั้งต่อไปก็ต้องรับประทานก่อนอาหาร (หรือหลังอาหาร) ทุกครั้งของการรักษาคราวนั้นๆ
5.ยาก่อนนอน : รับประทานยาก่อนเข้านอน ประมาณ 15-30 นาที
6.ยาตามอาการต่างๆ : เช่น รับประทานยา ครั้งละ 2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมงเวลาปวด หมายความว่า รับประทานครั้งละ 2 เม็ดเมื่อมีอาการปวด ถ้าต่อมามีอาการปวดอีก แต่ยังไม่ถึง 4-6 ชั่วโมง ก็ยังไม่ควรรับประทานยานั้นซ้ำอีก เพราะอาจเกิดพิษเนื่องจากรับประทานยาเกินขนาดได้ ต้องรอให้ครบอย่างน้อย 4 ชั่วโมง จึงจะรับประทานยาครั้งต่อไป
หมายเหตุ : การลืมรับประทานยาครั้งหนึ่ง ให้รีบรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลามื้อต่อไปแล้ว ให้ข้ามมื้อที่ลืมไปเสีย อย่าเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า ในมื้อต่อไปเป็นเด็ดขาด
และเพื่อให้อาการป่วยนั้นหายแบบฉับพลัน คุณควรรับประทานยาตามกำหนดเวลาที่แพทย์หรือเภสัชกรณ์สั่งอย่างเคร่งครัด...
คำสำคัญ (Tags): #สุขภาพ
หมายเลขบันทึก: 113017เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2007 12:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 11:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีครับ  ในกรณีทานยาไม่เป็นตามที่บอกคือยาทานหลังอาหาร  แต่บังเอิญไปทานก่อนอาหาร  ไม่ทราบว่าจะมีอาการข้างเคียงหรือไม่

น่าจะมีผลเรื่องประสิทธิภาพของยาค่ะ เพราะยาแต่ละตัวที่ให้ทานก่อนหรือหลังอาหารนั้น หมายถึงทานตามที่หมอสั่ง ยาจะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดค่ะ

 

ประวัติผู้ป่วยที่เป็นโรคม้ามโต

ผู้ป่วยที่เป็นโรคม้ามโตหรือม้ามหย่อน ชื่อนาง สุกัญญา ม่วงเกษม เกิด พ.ศ. 2517 อายุ 33 ปีอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 7 ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ได้ป่วยเป็นโรคม้ามโตมานานหลายปี ผู้ป่วยมีอาการวิงเวียน ศรีษะ ผอมแห้ง หมดแรง น้ำหนักลด ทานอาหารไม่ได้นอนไม่หลับ ตัวเหลืองซีด ม้ามข้างซ้ายโตและแข็ง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแน่นท้องเจ็บปวดและทรมานมากประมาณปี พ.ศ. 2549 ได้ไปเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ สิริกิจ จ.ระยอง การการดังกล่าวก็ยังไม่ดีขึ้น ปีพ.ศ. 2551 ได้เข้ารับการรักษา ร.พ. ศูนย์ขอนแก่นแพทย์บอกว่าต้องทำการผ่าตัด แต่ไม่รับรองผล คือ50/50 คนไข้เลยไม่ผ่าตัด เดือน ส.ค 2551 นางสุกัญญา ได้มารับการรักษาโดยการทานยาสมุนไพร และประคบยา หลังจากผู้ป่วยได้รับประทานยาไป 45 วัน อาการดังกล่าวได้หายไปหมด คือไม่วิงเวียน ศรีษะ น้ำหนัดขึ้น ทานอาหารได้นอนหลับ ผิดที่เคยหลือง ก็กลับมามีน้ำมีนวล ม้ามที่เคยโตและเจ็บปวด ก็ยุบหายไปหมด

ขณะนี้นาง สุกัญญา ม่วงเกษม มีสุขภาพที่แข็งแรงและสามารถทำงานได้ตามปกติ

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อที่ คุณ ธิดา อึ้งนภารัตน์ 123/456 ม.เพรสซิเดนท์ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000หรือโทร 083-3459197

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท