รายงานไปบ้าน..สื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

ขอบคุณคุณครูอ้อยมากๆเลยค่ะ ตามไปดูเอกสาร"รายงานไปบ้าน"ของครูอ้อยแล้ว เยี่ยมมากๆค่ะ ครูอ้อยอนุญาตให้นำไปเป็นตัวอย่างให้กับคุณครูที่โรงเรียนน้องฟุง (ป.4 เหมือนกัน) ได้ไหมคะ

คุณครูอ้อยน่าจะเอาลิงค์ถึงบล็อกครูอ้อยที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ใส่ไว้ในประวัติใน"รายงานไปบ้าน"ด้วยนะคะ

วันจันทร์ที่ผ่านมาดูรายการชีพจรโลกเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแล้ว ได้ไอเดียมาด้วยว่า การที่เราจะสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆนักเรียนของคุณครูทั้งหลายให้ได้ผลนั้น เราต้องทำให้คุณพ่อคุณแม่อยากเรียนภาษาอังกฤษไปด้วย เพราะส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่เก่งไม่ชอบภาษาอังกฤษ แล้วจะไปฝากความหวังไว้ที่คุณครูให้ลูกชอบเรียน ซึ่งเด็กๆเค้าสื่อสารได้จากคุณพ่อคุณแม่เองอยู่แล้วว่า พ่อแม่ยังไม่ชอบเลย ลูกจะเรียนให้ดีได้ยังไง แต่จาก"รายงานไปบ้าน"ของครูอ้อยฉบับที่ 2 ที่ 3 อ่านแล้ว คุณพ่อคุณแม่คงจะรู้สึกสนุกไปกับลูกด้วย ครูอ้อยได้รับการตอบรับอย่างไรบ้างคะจากผู้ปกครอง มีเล่าไว้ในบันทึกไหนบ้างไหมคะ จะได้นำไปชักชวนคุณครูอื่นๆให้เห็นประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมน่ะค่ะ

วิธีของครูอ้อย ถ้าได้เผยแพร่ออกไปเยอะๆจะเป็นอานิสงค์อันใหญ่ยิ่งต่อเด็กไทยเลยนะคะ เราเรียนภาษาอังกฤษแบบทรมานบันเทิงกันมานานนมแล้ว สงสารทั้งคุณพ่อคุณแม่และเด็กๆที่ไม่ชอบภาษานี้ ทั้งๆที่ออกจะสนุกสนานและมีประโยชน์นะคะ

ขอบคุณครูอ้อยมากๆสำหรับความคิดริเริ่มและความทุ่มเทที่มีต่อการเป็นคุณครู ชื่นชมมากๆค่ะ

ครูอ้อย....ขออนุญาตเขียนเพิ่มเติมในส่วนนี้ ที่ครูอ้อยได้จัดทำ.....รายงานไปบ้านนี้....

สืบเนื่องมาจาก เมื่อ ปี พ.ศ.2539 เป็นต้นมา ครูอ้อยเป็นครูผู้สอนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ครูอ้อยสังเกตว่า พ่อแม่และผู้ปกครองนักเรียน....ยังรักลูกๆอยู่...หมายความว่า..ยังดูแล เอาใจใส่ อย่างจริงจัง

เมื่อลูกเติบโตขึ้นมา สัก ป.4 พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่าน....เห็นว่าลูกโตเพียงพอแล้ว จึงเพิกเฉย ไม่ดูแลลูกๆเท่าที่ควร

ในปีการศึกษา 2547 ครูอ้อยได้รับคำสั่งจากท่านผู้อำนวยการ ให้ขึ้นมาสอนชั้น ป.4 ครูอ้อยจึงนำวิธีการที่ได้ผลนี้มาใช้ด้วยค่ะ

อ้อ...ลืมบอกไปว่า..วิธีการนี้นี่ล่ะ เป็นส่วนหนึ่งที่ ส่งผลให้ครูอ้อยผ่านการประเมินผลงานทางวิชาการขอกำหนดตำแหน่ง อาจารย์ 3 เชิงประจักษ์ค่ะ....

รายงานไปบ้าน...นับว่าเป็นนวัตกรรมของครูอ้อยชิ้นหนึ่งที่มีรูปแบบการผสมผสานของ จดหมายข่าว บันทึกเหตุการณ์ การวัดและประเมินผล ประชาสัมพันธ์ผลงานของนักเรียน ตลอดจนระบบการดูแลนักเรียน

ผลของรายงานไปบ้าน ระยะนี้ ครูอ้อยเฝ้าดูแล รายงานไปบ้าน และทวงถามนักเรียนอยู่เสมอ นักเรียนยังขาดความรับผิดชอบ ป.4 สู้ ป.1 ไม่ได้เลย ในเรื่องนี้

ครูอ้อยได้รับการตอบของพ่อแม่ผู้ปกครองเพียงครึ่งเดียว นอกจากจะคาดคั้นกันทุกวัน ซึ่งครูอ้อยก็จะเสียเวลามากๆ แต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างมหาศาลกับการเสียเวลา

ครูอ้อย แซ่เฮ