เวทีที่ทุกหน่วยงาน ต่างคนต่าง “แบ” แต่ไม่ได้ “บู” ???


“ทุกหน่วยงานเป็นของชุมชน มิใช่ชุมชนจะเป็นของหน่วยงาน ชาวบ้านจะหยิบใช้หน่วยงานใดไปใช้ประโยชน์ในเรื่องใดก็สามารถทำได้ ชาวบ้าน และภาคราชการ หรือหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องมีการเรียนรู้ และมีจิตสาธารณะร่วมกันในการทำงาน...”

เวทีที่ทุกหน่วยงาน  ต่างคนต่าง แบ แต่ไม่ได้  บู ???

 

                วันนี้เวทีการแลกเปลี่ยนของทีมพี่เลี้ยงโครงการชุมชนอยู่ดีมีสุข (ชุมชนเข้มแข็ง เมืองไทยแข็งแรง)ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เป็นหน่วยงานขับเคลื่อน ได้จัดเวทีนี้ขึ้น  สืบเนื่องจากเวทีที่แล้ว... ตามความรู้สึกของผมวันนี้ผิดจากเป้าหมายเดิมที่เราได้คุยและตั้งเป้าหมายกันไว้เมื่อเดือนที่แล้ว...

                ผมจำได้ว่าเมื่อเดือนก่อนเราได้ตั้งเป้าหมายของการประชุมวันนี้ว่า แต่ละหน่วยงาน จะนำธง หรือเป้าหมายการทำงานในปี  50  ของแต่ละหน่วยงานมาแลกเปลี่ยนกัน  และเล่ากิจกรรมที่ทำให้บรรลุเป้าหมายของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้องค์กรภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมได้รู้ว่าสามารถที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในส่วนใด และผู้ที่เข้าร่วมก็ต้องรู้ด้วยว่ากิจกรรมที่เข้าร่วมนั้นหน่วยงานของตนเองจะไปถึงเป้าหมายหรือธงของหน่วยงานอย่างไร...

                ที่ผมบอกว่าเวทีแลกเปลี่ยนวันนี้ผิดเป้าหมายคือ... ทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมเวทีวันนี้...ต่างก็นำเสนอแต่ตัวโครงการทั้งที่ดำเนินการแล้ว และที่ไม่ได้ดำเนินการ โดยผู้เข้าร่วมไม่รู้ว่าเป้าหมาย หรือธงของแต่ละหน่วยงานคืออะไร... หากเพียงบอกว่าตอนนี้หน่วยงานของตนกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่ได้นำเสนอ  ใครต้องการเข้าร่วมก็เชิญได้ทุกกิจกรรม...

                ผมมองเลยเถิดไปว่า... หากแต่ละหน่วยงานรู้เป้าหมาย หรือธงของตนเอง และรู้เป้าหมายหรือธงของหน่วยงานภาคีเครือข่าย...ก็จะสามารถรู้ว่าเราน่าจะไปเข้าร่วมได้ทุกกิจกรรม และทุกของหน่วยงาน... เพราะเป้าหมายของโครงการใช่เพียงแต่ต้องการให้หน่วยงานภาคีเครือข่ายเพียงแต่เข้าร่วมเพื่อเป็นเกียรติ ให้ดูว่าโครงการหรือกิจกรรมนั้นของหน่วยงานนั้นมีหน่วยงานต่าง ๆมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากเท่านั้น หากแต่ว่า... หน่วยงานต่าง ๆ น่าจะมาช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมของหน่วยงานภาคีเครือข่ายโดยการเข้าร่วมนั้นต้องคำนึงถึงการไปสู่เป้าหมายของหน่วยงานตนเองตามที่ได้กำหนดไว้...

                ผมกลับมาจากการร่วมเวทีด้วยความอึดอัด  เพราะเวลาไม่มีเหลือไว้ให้ได้เสนอแนะและแสดงความคิดเห็น  ผมก็เลยมาทบทวนเรื่องราวต่างๆ  และสรุปเอาเองว่าเวทีวันนี้  ทุกหน่วยงาน  ต่างคนต่าง แบ แต่ไม่ได้  บู  ผมนั่งฟังกิจกรรมต่าง ๆ ที่แต่ละหน่วยงานนำเสนอ และได้มองเป้าหมายหรือธง ของงาน  กศน.  เกือบทุกกิจกรรมที่เราสามารถเข้าร่วมและสามารถที่จะนำกลุ่มเป้าหมายตามกิจกรรมของหน่ายงานต่าง ๆ มายกระดับการศึกษา  ทั้งในส่วนงาน  ของ  พัฒนาชุมชน  เกษตร  สาธารณสุข  และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น  ผมคิดว่า  กศน. เราสามารถบูรณาการกับหน่วยงานอื่นได้ไม่ใช่เพียงแต่เข้าร่วมเป็นเกียรติในกิจกรรม...

                ผมอยากให้เรื่องราวกิจกรรมที่แต่ละหน่วยงานมา  แบ กันวันนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนกันต่อในเวทีหน้าและให้แต่ละหน่วยงานบอก เป้าหมาย หรือธงของตัวเองให้ชัด และมาแลกเปลี่ยนกันว่า  ในปีงบประมาณนี้ หากจะไปให้ถึงเป้าหมาย หรือธง ของตนเองจะต้องร่วมกับหน่วยงานใหน  เรื่องอะไร  จะต้องใช้นวัตกรรมอะไร  มีกระบวนการและวิธีการดำเนินการอย่างไรในการร่วมกันขับเคลื่อน... พูดง่ายๆ คือมา  บู  (บูรณาการการทำงานร่วมกัน) บรรลุเป้าหมายพร้อมกัน... 

                ผมคิดว่าไม่มีหน่วยงานใดที่ทำงานบรรลุเป้าหมายหรือธงของตนเองได้        ไม่ได้พาดพิงขอเป็นตัวอย่างนะครับ...  โครงการชุมชนอยู่ดีมีสุขต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนกิจกรรม  ให้บรรลุเป้าหมาย  คือชุมชนมีความเข็มแข็งอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน  การที่ชุมชนจะเข้มแข็งได้  ส่วนหนึ่งคือต้องทำให้คนในชุมชนมีมีการศึกษา  มีการเรียนรู้  ก็ต้องให้หน่วยงาน  กศน. เข้ามาร่วมขับเคลื่อนกิจกรรม   หน่วยงาน  กศน.  มีเป้าหมาย หรือธง  คือการยกระดับการศึกษาของประชาชน เฉลี่ยที่ 9.5 ปี  เมื่อได้เข้าร่วมโครงการกับโรงพยาบาลก็ดำเนินการในส่วนของงาน กศน. คือทำให้คนในชุมชนมีการเรียนรู้มีการศึกษา  เป้าหมายของโรงพยาบาล และเป้าหมายของ กศน. ก็จะบรรลุเหมือนกัน โดยเป้าหมายหลักคือ ชุมชนเข็มแข็งอย่างยั่งยืน...  หรือจะเทียบกับหน่วยงานก็ลักษณะเดียวกัน  เช่น สำนักงานพัฒนาชุมชนตั้งเป้าหมาย หรือ ธง  คือเรื่อง  ผู้นำ  มชช.  การที่ผู้นำจะผ่านมาตรฐาน  มชช.  ต้องมีการพัฒนาตนเองในทุกด้าน  กศน. ก็สามารถที่จะเข้าไปร่วมกิจกรรมในส่วนของการยกระดับการศึกษาผู้นำชุมชน   พัฒนาชุมชนบรรลุเป้าหมายเรื่องการยกระดับการศึกษาของผู้นำชุมชน  กศน. ได้เป้าหมายการยกระดับปีการศึกษาเฉลี่ย 9.5 ปี  ทุกหน่วยงานสามารถที่จะเชื่อมโยงบูรณาการการทำงานให้ไปถึงเป้าหมาย หรือธง ของแต่ละหน่วยงานได้พร้อมๆ กัน...

                   หากเป็นไปได้เวทีการแลกเปลี่ยนครั้งหน้าจะปรึกษากับทีมโรงพยาบาล...จัดกระบวนการให้เกิดการ บู รณาการ  กันอย่างเป็นรูปธรรม  ใช่เพียงแต่มานั่งแลกเปลี่ยน หรือมาประชุมแล้วบอกว่าบูรณาการแล้ว แล้วกลับไปต่างคนต่างทำ  ผมยังเชื่อและศรัทธาคำพูดของ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  นายวิชม   ทองสงค์  ได้พูดไว้     เมื่อวันที่  21  กุมภาพันธ์  2549  ท่านบอกว่า       ทุกหน่วยงานเป็นของชุมชน         มิใช่ชุมชนจะเป็นของหน่วยงาน ชาวบ้านจะหยิบใช้หน่วยงานใดไปใช้ประโยชน์ในเรื่องใดก็สามารถทำได้        ชาวบ้าน และภาคราชการ หรือหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องมีการเรียนรู้     และมีจิตสาธารณะร่วมกันในการทำงาน...   

หมายเลขบันทึก: 110859เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2007 14:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

   อ่านแล้วโดนใจมากครับครูราญ คล้าย ๆ กันกับบันทึกนี้ครับเอามาฝาก บอกให้บู(รณาการ)เท่าแต่เรา แล้วไยเขาไม่บูกันมั่ง 
   ชอบมากที่ คำพูดของ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  นายวิชม   ทองสงค์  ได้พูดไว้     เมื่อวันที่  21  กุมภาพันธ์  2549  ท่านบอกว่า “ทุกหน่วยงานเป็นของชุมชน มิใช่ชุมชนจะเป็นของหน่วยงาน ชาวบ้านจะหยิบใช้หน่วยงานใดไปใช้ประโยชน์ในเรื่องใดก็สามารถทำได้ ชาวบ้าน และภาคราชการ หรือหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องมีการเรียนรู้ และมีจิตสาธารณะร่วมกันในการทำงาน...” 
   เอามาฝากแล้วก็ขอประโยคนี้ของท่านผู้ว่าฯ ไปอ้างถึงนะครับ

น้องครูราญเมืองคอน

             AAR ได้เด็ดดวง เจาะใจไปเลย...นำไปเป็น ต.ย.การ AAR ต.ย.การถอดบทเรียนได้เลย...สุดยอด

เป็นเรื่องยากที่สุดของการจัดการความรู้เพราะเป็นhardwareที่ติดมากับเครื่อง

ใครๆก็ใช้แว่นของตนเองมองทั้งนั้น การมอง(แบ)ร่วมกันอาจช่วยได้บ้าง คงค่อยดีขึ้นเองแหละครับ

สวัสดีครับ...พี่ชายขอบ...พี่ชายที่แสนดี

  • ขอบคุณมากครับที่ เข้ามา ลปรร เป็นกำลังใจ...
  • ผมคิดว่าหากพี่อยู่ด้วยเมื่อวานพี่ก็ต้องคิดเหมือนผม...บางทีอาจมีคนโดนสวนก็ได้...555
  • ขอบคุณอีกครั้งสำหรับบันทึกดีๆ...อ่านแล้วมีกำลังใจทำครับ...เพราะไม่ใช่มีแต่บ้านเราที่เป็นแบบนี้

พระอาจารย์ที่เคารพ...

  • บอกตรงๆครับ...อึดอัดอยากระบายมากๆกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้
  • หากมีโอกาสผมจะ AAR กับทีมครูอาสาฯของพวกเราดูครับ...จะได้รู้ว่าใครชอบทำงานแบบ "แบ" หรือชอบทำงานแบบ "บู"
  • เราจะเจอสภาพนี้อีกนานมั๊ยครับ...
  • ผมรู้สึกสงสารท่านผู้ว่าฯ จริงๆ ครับ...

เรียน...พี่ภีม...คุณอำนวยในดวงใจ

  • ผมมองอย่างนี้ครับ Hardware ที่ติดมากับเครื่องไม่มีชิ้นเดียวครับ...และหลายชิ้นนั้นต้องทำงานสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน... เครื่องจึงจะใช้งานได้...และ Hardware แต่ละชิ้นก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง...จากคน...ที่สามารถทำให้ Hardware  พัฒนาและมีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
  • ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งไม่มีชีวิตถูกสร้างให้ทำงานเชื่อมโยงสัมพันธ์กันด้วยการใช้คำสั่งครับ...แต่...เราสามารถที่จะคิดและหาวิธีการทำงานที่ดีกว่าได้ 
  • พี่บอกว่าใครๆ ก็ใช้แว่นของตัวเองทั้งนั้น  แต่ผมว่าไม่ว่าจะมีคนมีแว่นสักกี่คนก็ตาม สามารถที่ใช้แว่นของตัวเองมองของสิ่งเดียวกับคนอื่นๆอีกหลายคนได้จริงมั๊ยครับ... ผมว่ามันอยู่ที่เราเต็มใจจะมองให้พร้อมๆกันหรือเปล่า... หรือชอบที่จะชื่นชมเป็นการส่วนตัว...

        ต้องบอกว่าไอ้อย้า   .......(คำอุทานเชิงชื่นชม)  ครูราญก้าวหน้าไปมาก ประชุมเสร็จ มีบันทึกได้เลย และสิ่งที่บันทึกก็ โดนใจหลายคน เยี่ยมค่ะ

 

 

 

 

คุณพัช...

  • ไม่ได้เก่งอะไรมากมายหรอกครับ...เพียงแต่ตอนนี้มีเครื่องมือค่อนข้างที่จะใช้ได้ดี...พอที่จะได้แลกเปลี่ยนกับคนอื่นได้บ้างครับ...
  • ก็บันทึกไปตามความรู้สึกนะครับ...และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ...
  • ได้คุยกับพี่วิเชียรแล้วครับ...พี่ท่านบอกว่าคราวหน้าจะต้องปรับกระบวนการใหม่ครับ...
  • ขอบคุณมากครับที่เข้ามา ลปรร ครับ... 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท