บุคลิกแบบไหน ทำให้ก้าวหน้า " แบบเปิดหรือแบบปิด "
-
บุคลิกแบบเปิด ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นคนมีบุคลิกภาพที่เปิดรับมิตรภาพ ความคิดเห็นและเพื่อนใหม่เข้ามาในชีวิตตลอดเวลาอีกทั้งจะเป็นคนชอบ " ก่อน " เช่น ยิ้มก่อน ขอโทษก่อน แนะนำตัวก่อน ไปรอก่อน และเรื่องโทษหรือโกรธกัน ส่วนใหญ่ก็จะ "เอาไว้ก่อน " จะเห็นว่าแทบทุกอย่างจะก่อนเสมอ แต่ไม่ใช่ " ขอฉันก่อน "(แซงคิว) อย่างนี้คงไม่ใช่บุคลิกภาพแบบเปิดเป็นแน่แท้
- ด้วยบุคลิกภาพที่ชอบ"ก่อน" จึงเป็นที่รักใคร่ของทุกคนเข้าไหนเข้าได้เพราะ
ยิ้มก่อน ก็ได้รับการยิ้มรับ
ทักทายก่อน ก็ได้รับการทักทายตอบ
ขอโทษก่อน ก็ย่อมได้รับการให้อภัย
แนะนำตัวก่อน ก็ย่อมเป็นที่รู้จัก
ไปรอก่อน ก็ย่อมเป็นที่ชื่นชม
คนประเภทนี้ชีวิตทั้งชีวิตจะไม่เดือนร้อนเพราะมีเพื่อนฝูงช่วยเหลือตลอดเวลา เรียกว่า ถึงจะล้มแต่หัวไม่เคยถึงพื้นสักครั้ง เนื่องจากจะมีบรรดามือของกัลยาณมิตรรีบเข้ามาช้อนเอาไว้ไม่ให้ล้ม
บุคลิกแบบปิด มักจะเป็นคนชอบ " สุดท้าย " ยิ้มก็เป็นคนสุดท้ายเพื่อนก็ยิ้มทักทายก่อน เขา ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะยิ้มตอบไปดีหรือจะหน้าบึ้งต่อไปอย่างนี้สบายใจกว่า ทักทายพูดคุยก็เป็นคนสุดท้าย ขืนทักใครก่อนเดี๋ยวจะหาว่าอยากรู้จัก ใครอยากจะทักก่อน ก็ทักได้แต่จะตอบหรือไม่ ฉันขอคิดดูก่อน
คนเหล่านี้จะมีชีวิตอยู่ในโลกของตัวเอง ถามเอง ตอบเอง คิดเอาเอง ซะส่วนใหญ่ ชอบเก็บตัวเงียบ ซึ่งในโลกของความเป็นจริงนั้น คิดว่าจะไม่สุงสิงกับใคร คนที่มีบุคลิกภาพแบบปิด จะชอบทำกิจกรรมที่มีคนร่วมอยู่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เห็นคนแล้วมีอาการไม่ปกติ ครั่นเนื้อครั่นตัวคล้าย ๆ จะเป็นไข้ ใจสั่น ๆ ยิ่งเจอคนแปลกหน้า บางทีขาแข้งสั่น เดินขาขวิดไขว้ล้มลุกล้มหงาย ไม่เป็นขบวน ก็อย่าหวังให้คนเหล่านี้ไปคบกับใครเขาได้แค่เอาชีวิตรอดไปวัน ๆ ยังจะดูเป็นภารกิจอันยากเย็นอยู่แล้ว แล้วก็อย่าหวังว่าชีวิตคนเหล่านี้จะงอกงามก้าวหน้า
ฉะนั้นจะอยู่อย่างมีบุคลิกภาพที่ดี ควรอยู่อย่างคนมีบุคลิกภาพแบบเปิดกว้าง อย่างท้าทาย เพราะคนเราจะขึ้นที่สูงได้ ชีวิตนี้ต้องมี " เพื่อน "
จากข้างต้นตัวเราจะเลือกเป็นแบบไหนอย่างที่เห็น หรืออย่างที่เป็น
ข้อความนี้ จากการสื่อสารของฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของโรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์ กทม.