เรื่องเล่าจากดงหลวง 126 จากดงหลวงถึงดงฮา (Dong Ha) 4


สักพักเดียวมีเด็กวัยรุ่นเดินทางนั่งโต๊ะติดกัน เปิดเครื่องแล้วเข้าเวปโป๊ทันที เขาดูเฉยเลยไม่อายสายตาเราเล๊ย....เหม็นบุหรี่ และเด็กข้างๆอย่างนั้นผู้บันทึกจึงรีบคุยกับน้องหนิงให้เสร็จแล้วออกมาจากร้านทันที ก่อนมะเร็งจะเกาะใจผม..

เราเดินทางถึงจังหวัดกวางจิประมาณบ่ายโมงครึ่งรวมเวลาจากมุกดาหารมาถึงที่นี่ประมาณ 6 ชั่วโมงแบบสบาย ผู้บันทึกบอกอ้ายบุญจันทร์ให้ไปหาโรงแรมแบบง่ายๆไม่แพงมากนัก อ้ายบุญจันทร์วนไปมาแล้วก็พามาที่โรงแรมชื่อคุ้นหูพวกเราๆมาก คือโรงแรมแม่โขง คิดว่าเราก็มาจากมุกดาหารเมืองติดแม่โขง ดูบริเวณด้านหน้าแล้วกว้างขวางดี ติดถนนแม้ว่าดูจะไม่เงียบ แต่ก็อยากจะดูชีวิตในเมืองจึงตัดสินใจยึดแม่โขงเป็นเรือนนอนทันที 

สอบถามราคาที่เคาท์เตอร์รีเซฟชั่นเป็นหนุ่มเวียตนามที่พูดอังกฤษได้ดี ทราบว่าหากพักชั้นล่างราคา 3 แสนดองเศษ ชั้นบนราคา 4 แสนดองเศษคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 บาท ผู้บันทึกเลือกชั้นบนเพราะต้องการโผล่หน้าต่างดูชีวิตคนเมืองครับ 

เข้าไปในห้องขนาดกระทัดรัด เหมือนโรงแรมในเมืองไทยหลายแห่ง เช่น โรงแรมตรังแถบวิสุทธิกษัตริย์ ที่ราคา 1200 บาท เฟอร์นิเจอร์ก็มีมาตรฐานทั่วไปคือ แอร์คอนดิชั่น ตู้เย็น ทีวี พัดลม ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ และน้ำอุ่นน้ำเย็น อ่างอาบน้ำ เตียงคู่ เก้าอี้ไม้รับแขกแบบเรียบๆ 1 ชุดเล็กๆ เท่านั้น สำหรับผมอยู่ได้แต่อึดอัดสักหน่อย เพราะผู้บันทึกชอบห้องกว้างๆและโต๊ะทำงานพร้อมปลั๊กไฟ แต่มาคราวนี้มาเพื่อภารกิจเฉพาะในเวลาที่จำกัดเลยไม่ได้เอาคอมพิวเตอร์คู่ใจมาจึงอยู่ได้  

ลองเข้าไปดูในห้องน้ำ โอย..ชาวเวียตนี่โรแมนติกน่าดูเลย หรืออุจาดก็ไม่รู้ เพราะประตูห้องน้ำเป็นกระจกแล้วมีตารางหมากรุกขุ่นๆ หากเข้าไปอยู่ข้างในเปิดไฟทำอะไรอะไร คนข้างนอกก็จะเห็นเป็นเงาๆ วับๆแวมๆ อิ อิ.. 

เดินออกมาเปิดตู้เย็นเห็นเครื่องดื่ม 4 ชนิด คือ น้ำดื่มแตงกวา น้ำดื่มมะขาม เบียร์ และที่คุ้นตาบ้านเราอีกเช่นกันคือ เครื่องดื่มกระทิงแดงของไทยเราครับ ผมลองเปิดน้ำแตงกวาและน้ำมะขามชิมดู  ผมชอบทั้งสองอย่างครับ รสถูกปากคนเอเชียอย่างเรา และไม่หวานมากนัก ดีกว่ากินน้ำดำที่มาจากตะวันตกตั้งแยะ.. 

คืนแรกเพื่อนชาวฮอลแลนด์มารับไปกินอาหารมังสะวิรัตน์บนเรือนแพกลางแม่น้ำกลางเมืองครับ เห็นโต๊ะใหญ่กลางแพเป็นหนุ่มเวียตประมาณสัก 20 คนดื่มเบียร์กันนับขวดไม่ถ้วนมั๊ง..ส่งเสียงเอ็ด ดังลั่น คล้ายๆกลุ่มนักศึกษาเพราะใส่เสื้อขาวกันหมด  แม้เสียงดังเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ก็ไม่มีอะไร 

ตื่นเช้าผู้บันทึกเดินออกไปชมเมืองใกล้ๆก่อนที่เพื่อนจะมารับไปทำภารกิจ พบคิวรถมอเตอร์ไซด์จอดคอยลูกค้าตรงมุมสี่แยกโรงแรมแม่โขง แต่ไม่มีเสื้อยูนิฟอร์มและหมากกันน๊อคแบบบ้านเราในกรุงเทพฯ เดินไปเขาก็มองมาเพื่อหาลูกค้าพร้อมส่งเสียงใส่เรา ฟังไม่ออกหรอกครับ แต่เดาว่าน่าจะเป็นว่า ใช้บริการรถผมไหมครับ...คิดราคากันเอง..ครับผู้บันทึกส่ายหัวแสดงอาการปฏิเสธเขาไป เดินไปหน่อยก็เห็นยองๆเหลาหน้ารั้วโรงแรมนี่เอง คงเป็นร้านแบบชั่วคราวเฉพาะมื้อเช้าเท่านั้น ผู้บันทึกไม่ได้เข้าไปดูชนิดอาหารใกล้ๆเกรงจะรบกวนอาหารมื้อเช้าของเขา 

ผู้บันทึกตั้งข้อสังเกตว่า ชาวเวียตท่านมีศิลปะในวิถีชีวิต ดูบ้านเรือนเขามีอะไรๆที่บ่งบอกของเล่นทางศิลปะอยู่บ้าง แม้การแต่งตัวเรียบง่ายแต่ก็มีเอกลักษณะเฉพาะอยู่ครับ ดูอาเจ๊ขวามือของรูปนั่นซิครับ เริด สะแมนแตนจริงๆ หากเป็นบ้านเราก็อาจจะว่า นี่ต๊องหรือเปล่า.. แต่ผู้บันทึกยืนยันว่าไม่ต๊องครับ  เธอไปซื้อสินค้าจากสาวเวียตที่เธอใช้จักรยานบรรทุกสินค้ามาเร่ขายครับ 

ผู้บันทึกเลยเดินไปมองหาร้าน อินเตอร์เนทคาเฟ จึงเข้าไปลองใช้ดูว่าจะไฮเทคสักแค่ไหน ยังเช้าอยู่เลยมีเด็กหลายคนมาใช้บริการแล้ว สภาพพอใช้ได้ แต่เจ้าของร้านสูบบุหรี่พ่นควันใส่เต็มห้อง ผู้บันทึกลองใช้ดู ก็เป็นอินเตอร์เนทความเร็วสูงใช้ได้ เลยลองเขา G2K ไปหาน้องหนิง และ Post ทักทายดู ก็ใช้ได้ แต่แน่นอนไม่มีภาษาไทย  

สักพักเดียวมีเด็กวัยรุ่นเดินทางนั่งโต๊ะติดกัน เปิดเครื่องแล้วเข้าเวปโป๊ทันที เขาดูเฉยเลยไม่อายสายตาเราเล๊ย....เหม็นบุหรี่ และเด็กข้างๆอย่างนั้นผู้บันทึกจึงรีบคุยกับน้องหนิงให้เสร็จแล้วออกมาจากร้านทันที ก่อนมะเร็งจะเกาะใจผม..

หมายเลขบันทึก: 110116เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2007 02:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

อ่านมาทุกบันทึก แต่เพิ่งมีเวลาเข้ามาคุยด้วยก็บันทึกนี้แหละค่ะ

เบิร์ดชอบอันนี้จัง ^ ^...ประตูห้องน้ำเป็นกระจกแล้วมีตารางหมากรุกขุ่นๆ หากเข้าไปอยู่ข้างในเปิดไฟทำอะไรอะไร คนข้างนอกก็จะเห็นเป็นเงาๆ วับๆแวมๆ อิ อิ.. จานตะนากินบรรเจิดดีแท้ค่ะท่านพี่...

แถมมาตรงนี้อีกอัน

สักพักเดียวมีเด็กวัยรุ่นเดินทางนั่งโต๊ะติดกัน เปิดเครื่องแล้วเข้าเวปโป๊ทันที เขาดูเฉยเลยไม่อายสายตาเราเล๊ย....เหม็นบุหรี่ และเด็กข้างๆอย่างนั้นผู้บันทึกจึงรีบคุยกับน้องหนิงให้เสร็จแล้วออกมาจากร้านทันที ก่อนมะเร็งจะเกาะใจผม..

ทำให้เช้าวันนี้ของเบิร์ดรื่นรมย์ขึ้นมาทันตาเลยค่ะพี่บางทราย...

เบิร์ดชอบชุดบ๋าวได๋ ( เอ ! ชื่อนี้หรือเปล่าชักลืม ^ ^ )ของสาวเวียตนามนะคะ  เพราะเธอใส่แล้วดูอรชร อ้อนแอ้น บอบบางน่าทะนุถนอมเหลือเกิน  แต่อาเจ๊ทางขวาที่พี่บางทรายว่า เธอก็เปรี้ยวได้ใจอะฮั้นยิ่งนัก ฮี่ ฮี่...

ขอบคุณนะคะสำหรับการพาเที่ยวเวียตนาม...น่าสนใจมากค่ะพี่บางทราย

 

  • หุหุแล้วจะกล้าเข้าไหมค่ะเนี่ยห้องน้ำแบบนี้
  • ที่ไหนจะสุขใจเท่าบ้านเรา
  • แต่มันเป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะได้เที่ยวต่างเมือง
สวัสดีครับน้อง
P
พี่ห่างเหินน้องไปนานทีเดียว พี่ทำได้แค่เข้ามา Post บ้างแล้วก็รีบออกไปทำรายงาน รายงาน รายงาน รายงาน งาน งาน งาน... ทำไงได้มันเป็นอาชีพเรานะ
ใช่ครับชุดบ๋าวใด๋ สวยน่ารักมาก สาวๆหุ่นดีๆใส่แล้วรับรองหนุ่มๆเดินตามชื่นชมแน่เลย แต่พี่ไม่เห็นนะครับอาจจะเป็นชุดสำหรับพิธีกรรมกระมัง
พี่ไปพบปะกับเจ้าหน้าที่เวียตนามทำให้พี่ต้องกลับมาเมืองไทยแล้วมุ่งตรงไปหาหนังสือเกี่ยวกับเวียตนามมา 8 เล่มต้องการเรียนรู้เขามากกว่าที่เรารู้จักทั่วไป โดยเฉพาะจากหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีแต่กล่าวว่า เวียตนามกำลังแซงไทย เดี๋ยวพี่จะพูดในเรื่องนี้ครับ
สวัสดีครับน้อง P แก่นจัง 
พี่ก็เชื่อว่าน่าที่จะมีคนเข้าห้องมาแล้ว เพื่อใช้ห้องน้ำก็ร้องกรี๊ด..ออกมาบ้างนะ บางคนอาจจะขอเปลี่ยนห้องที่ไม่มีกระจก (มีห้องที่ไม่มีกระจกหรือเปล่าพี่ไม่ได้ถามมา) แต่บางคนอาจจะบ่นสักคำสองคำแล้วก็ชินไปเอง มั๊ง..
แต่มีบางอย่างที่แปลกมากๆ พี่กำลังจะ Post ขึ้นครับ ลองตามดูนะว่าเป็นอะไร 
  • สวัสดีตอนเช้าครับ
  • ขอบคุณที่นำวิถีประชามาให้รู้อีก
  • สิ่งที่ปวดเศียรเวียนเกล้าผมเป็นที่ยิ่ง  คือ  ภาษาเวียตนามที่เขียนตามป้ายชื่อต่างๆ  อ่านลำบากจริงๆครับ   พี่เป็นหรือเปล่า
  • เช่น Canto  คันโท  คนเวียตนามออกเสียงเป็น  เคิ่นเทอ แน่ะ
  • ขอบคุณครับ
  • ปล.ยังไม่ได้รับเบอร์อีเมล์
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท