ตอบตามตรงนะครับ ได้รับความเศร้าหมองครับ
รู้สึกว่ายิ่งมีชิวิตอยู่ก็ค้นพบว่า ตนเองมีข้อจำกัดต่างๆ มากมาย มีความชั่วช้าสามานย์ ฝั่งลึกอยู่ในใจ
ทุกครั้งที่เผลอสติทีไร ก็จะแสดงธาตุชั่วออกมาทุกที
กล่าวคือ เมื่อตื่นมา ก็จะรู้ว่าตัวเองยังคงอยู่กับที่ คือ จิตใจยังไม่สามารถเข้าถึงกระแสของความปลอดภัย
ปลอดภัยจากกิเลส และความเสื่อมทั้งหลาย ยังคงหลงวนเวียน เกิดๆดับๆ ในห้วงจิตอยู่เรื่อย ห่างไกลจากคำว่า อริยะบุคคลาไปเรื่อยๆ
ทุกวันนี้ผมเองพยายามลองผิดลองถูกอยู่ว่า ในฐานะที่เป็นฆารวาส จะบำเพ็ญธรรมะอย่างไร จะปฏิบัติธรรมะอย่างไรให้มันก้าวหน้า
คือ เราจะรู้ตัวเอง และเห็นข้อชั่ว ข้อเสียของตัวเองเรื่อยๆ เราจะเข้าใจเลยว่า ตัวเองยังแย่อยู่ มันก็บอกไม่ถูกครับ
แต่ในแต่ละวัน ผมในทางหนึ่งก็พยายามไม่ปล่อยให้กิเลส วิ่งพล่านไปทำร้ายคนอื่น และวกกลับมาทำร้ายตนเอง
ในอีกทางก็พยายามสร้างความดีที่ตนถนัด คือ เริ่มให้ เริ่มยอมเสียเปรียบ เริ่มสร้างความรู้สึกดีๆแก่คนรอบข้าง
เพื่อว่าเราตายไป เราจะได้ภูมิใจว่า ถึงแม้กิเลสเราขัดไม่หมดจดในชาตินี้ ก็ขอมีชีวีที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ่างก็พอแล้ว
ดังนั้นในแต่ละวันที่ได้กลับมา คือ โจทย์ในการแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง และโจทย์ในการช่วยเหลือซ่อมเสริมส่วนดี เอื้ออาทร เกื้อกูลให้คนอื่นได้ทำดีครับ
แล้วมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนเหนื่อย จนท้อเลยละครับน้อง เพราะในแค่ไม่ถึงร้อยปี เราคนเดียวจะทำไงให้หมดได้ ชักกังวลครับ