เช้าวันเสาร์วันนั้นผู้เขียนตื่นนอนแต่เช้ารีบขับรถไปสำนักงานเพื่อพิมพ์บทความที่สำคัญที่ต้องศึกษาก่อนที่จะเดินทางไปเวียตนาม บังเอิญรถที่ใช้มาทุกวันไม่เป็นใจด้วยต้องจอดทิ้งกลางถนนเพื่อให้เลขาติดต่อศูนย์ซ่อมรถมาลากไปซ่อม คนไทยทั่วไปอาจคิดว่าเพิ่งเริ่มต้นก็ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ว แต่ผู้เขียนไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะปัญหารถที่ใช้นั้นสัมผัสอาการไม่ค่อยดีมาหลายวันแล้วแต่ยังไม่ได้แก้ไขนั่นเอง
วันนี้ท้องฟ้าฉ่ำฝน มืดครึ้มไปทั่ว รถของบริษัททัวร์จากแขวงสะหวันนะเขตมารับที่โรงแรมตรงเวลา เห็นสภาพรถแล้วก็อุ่นใจว่าสภาพดีเยี่ยม แอร์เย็นเฉียบ และมีผู้เขียนนั่งไปคนเดียวกับอ้ายบุญจันทร์พนักงานขับรถซึ่งเป็นพี่น้องชาวลาวที่สามารถพูดภาษาเวียตนามได้อย่างดี สองเราผ่านด่านไทยมุกดาหารแล้วก็ไปตามช่องจราจรที่บังคับให้เปลี่ยนไปใช้ถนนเลนขวาตามระบบของประเทศลาวรวมทั้งเวียตนามด้วย ผ่านด่านที่ฝั่งลาวใช้เวลาไม่นานนักเราก็แล่นฉิวอยู่บนถนนสายที่ 9 ของประเทศลาวมุ่งสู่เมืองกวางจิ(Quang Tri)ของประเทศเวียตนาม
พูดถึงภาษาเวียตนามนั้นมีคนไทยจำนวนมากใช้ไม่ถูกต้อง เช่น เมือง Quang Tri เราก็เรียกว่า เมืองกวางตรี ซึ่งไม่ถูก ภาษาเวียตนามนั้นตัวTr ออกเสียงเป็นตัว จ ในภาษาไทยจึงต้องเรียกว่า “กวางจิ” เมืองนี้มี “ดงฮา” (Dong Ha) เป็น Capital อาจจะเรียกว่าเป็นอำเภอเมืองก็ได้
ผู้บันทึกมีภารกิจต้องไปพบหัวหน้าทีมที่ปรึกษาของโครงการพัฒนาชนบทที่เมือง “ดงฮา” (Dong Ha) ซึ่งได้รับการสนับสนุนแบบให้เปล่าจากประเทศฟินแลนด์เพื่อจะมาร่วมการทำงานพัฒนาชนบทที่นั่น...
ระหว่างทางผู้บันทึกนอนไม่หลับเลยทั้งๆที่เมื่อคืนก็นอนดึก เพราะเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านเมืองอื่นๆก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ มองดูสภาพบ้านเมืองของเขา ประชาชน การใช้ชีวิตและสภาพธรรมชาติต่างๆ ยิ่งอ้ายบุญจันทร์เป็นผู้ที่สามารถอธิบายอะไรต่ออะไรได้มากมายก็ยิ่งสนุก เราสองคนคุยกันไป ขับรถไปเรื่อยๆผ่านเมืองนั้นเมืองนี้ อ้ายบุญจันทร์ก็เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวต่างๆอย่างน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ที่มีการศึกษาสูง แต่การเป็นคนขับรถบรรทุกในเส้นทางนี้มาตั้งแต่หนุ่มจึงชำนาญเรื่องราวบนถนนเส้นทางหมายเลข 9 นี้อย่างดียิ่งผู้หนึ่ง
จากเมือง “อุทุมพรหรือเมืองเซโน” เข้าสู่เมือง “พรานชัย” “เมืองพิน” และ “เมืองเซโปน” มีแพะเดินบนถนนกันอย่างสบายใจ และพบมากกว่าจำนวน วัว ควายเสียอีก ทั้งที่เป็นฤดูการทำนา ถามอ้ายบุญจันทร์ว่าทำไมจึงมีแพะมาก ก็ได้รับคำตอบว่า “วัว ควายนั้นค่อยๆหมดลงเพราะชาวนาใช้รถไถเดินตามกันมากขึ้น และแพะก็เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย การเลี้ยงแพะมักจะเอาไว้ฆ่ากินเนื้อ โดยเฉพาะย่างเนื้อแพะแกล้มเหล้า อ้ายบุญจันทร์ทิ้งท้าย..
เราออกเดินทางจากมุกดาหารประมาณ 9.00 น. ถึงเมือง เซโปน ก่อนเข้าด่านลาวบาวเวียตนามเวลา 12.00 น.พอดี เราก็แวะกินข้าวกลางวันกัน ผมสั่งข้าวผัดผักราคาจานละ 50 บาท..!!!
สวัสดีครับพี่บางทราย
ตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับ....จินตนาการตามได้เห็นภาพดีที่เดียว มีโอกาสจะไปบ้าง
โอชกร
ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ พี่บางทราย