งานหนักที่สุดคือ..?


เตารีดที่สิงคโปร์นี่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย รีดเท่าไหร่ก็ไม่เรียบ รีดหน้ายับหลัง รีดหลังยับหน้า รีดไปรีดมา ยับทั้งหน้ายับทั้งหลัง

วันที่ 6 กรกฎาคม 2550

วันนี้เป็นวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันแรกของงานประชุมวิชาการประจำปีของ KKH (ASM) ผมตื่นขึ้นมาก็ปฏิบัติตนตามปกติอย่างที่ควรจะเป็นเฉกเช่นทุกวัน เช้าวันนี้ต้องรีบ round เพราะว่าเมื่อวานเราผ่าตัดไปหลายราย วันนี้มีคนไข้หลายคนต้องดึงก๊อซออกจากช่องคลอด ก๊อซที่ว่านี้เราใส่ไปในช่องคลอดเพื่อหยุดเลือดที่ซึมๆออกมาหลังผ่าตัด

                ช่วงเช้าวันนี้จริงๆแล้วผมต้องเข้าห้องผ่าตัด แต่เนื่องจากมี ASM ครูลีจึงงดผู้ป่วยลวงหน้าไปแล้ว แต่ทว่าท่านหาญไม่ยอมปิดคลินิก ผมจึงลงไปช่วย (โดยไม่ต้องร้องขอ) ทั้งนี้หากเราเสร็จเร็วกว่า 10 โมง ผมกับดันดีจะได้ไปฟังบรรยายเรื่องการติดเชื้อ HIV ในสตรีตั้งครรภ์ เอ..หรือควรจะเป็น สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HIV ดีกว่าครับ ตรงความหมายดี การณ์ไม่เป็นเช่นดังคิด เพราะว่าคนไข้ยังมากเหมือนเดิม กว่าจะเสร็จก็ 10.45 น. เขาบรรยายเลิกพอดี ไม่เป็นไร ฟังหัวข้อถัดไปก็ได้ เกี่ยวกับการระงับปวดในสตรีที่จะคลอดบุตร แต่ฟังได้ประมาณ 15 นาที ก็ได้รับโทรศัพท์มาว่าขอให้ไปช่วยที่คลินิกอีกครั้ง สรุปก็คือ ผมต้องขึ้นๆลงๆ 3 ครั้งเพื่อไปช่วยตรวจคนไข้เป็นรอบๆ

                ช่วงบ่ายผมกับดันดีก็ยังคงอยู่ที่คลินิกจนกระทั่ง 15.20 น. ทั้งนี้เพราะว่าเรายังมีคนไข้หลงเหลืออีกนั้นเอง หลังจากนี้ก็ขึ้นไปกินอาหารว่างที่งานประชุม และขึ้นไปนั่งพักผ่อนที่ภาควิชา ทั้งนี้เพราะว่าการบรรยายช่วงบ่ายนี้ล้วนเป็นของเรื่องเด็กทั้งนั้น เลยไม่น่าสนใจสำหรับหมอรักษาผู้หญิงอย่างกระผม ว่าไปนั่น จริงๆแล้วขี้เกียจต่างหาก ผมอยากจะไปนั่งเปิด internet ที่ภาควิชาต่างหาก เพราะว่าที่นั่นผมสามารถเปิด notebook แล้วเข้า internet ของ Qmax ได้ จะได้เปิด G2K แล้วบันทึกสิ่งที่เขียนไว้ได้ เครื่องของที่นี่เขาไม่ใช้ภาษาไทยครับ (นั่นน่ะสิ แล้วเขาจะใช้ภาษาไทยทำไมเล่า) เสร็จแล้วก็นั่งคุยกับดันดีและอาร์ลีนจนกระทั่ง 17.30 น. เราคุยกันหลายเรื่องครับ เริ่มต้นที่เรื่องศาสนากับดันดี ผมนั่งดูเขาละหมาด แล้วถามว่า เขาเข้าใจความหมายของบทสวดหรือไม่ เขาบอกว่าไม่ เพราะเป็นภาษาอาระบิก เขาทำเพราะเป็นบทบัญญัติของศาสนา พระเจ้ารับรู้ ผมบอกว่าผมเป็นคนศาสนาพุทธ แต่ผมก็ไม่ได้สวดมนต์หรอก แบบว่าค่อนข้างนอกคอกน่ะ ไม่นานอาร์ลีนก็เข้ามาสมทบ เธอเล่าเรื่องของเธอว่าเมื่อชาติก่อนเธอเป็นผู้ชาย ว่าไปนั่น เราเลยคุยกันเรื่องการระลึกชาติ การเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด การชดใช้กรรม คุยกันนานครับ ผมก็ขัดจังหวะไปเรื่อยๆตามนิสัยขี้เล่น สนุกสนานกันเพลินไปเลยครับ ต้องขึ้นอักษรว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังด้วยนะครับ

                วันนี้กลับห้องพักค่อนข้างเร็ว ซักผ้า และรีดผ้าที่เหลือ งานนี้รับประกันได้ว่าเหนื่อยกว่าผ่าตัดหลายเท่านัก ผมใช้เวลา 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6 โมงครึ่งยัน 2 ทุ่มครึ่งเลยครับ เตารีดที่สิงคโปร์นี่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย รีดเท่าไหร่ก็ไม่เรียบ รีดหน้ายับหลัง รีดหลังยับหน้า รีดไปรีดมา ยับทั้งหน้ายับทั้งหลัง
หมายเลขบันทึก: 109187เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2007 20:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ

P

งานนี้รับประกันได้ว่าเหนื่อยกว่าผ่าตัดหลายเท่านัก ผมใช้เวลา 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6 โมงครึ่งยัน 2 ทุ่มครึ่งเลยครับ เตารีดที่สิงคโปร์นี่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย รีดเท่าไหร่ก็ไม่เรียบ รีดหน้ายับหลัง รีดหลังยับหน้า รีดไปรีดมา ยับทั้งหน้ายับทั้งหลัง

สงสารคุณหมอจัง ใส่ยับๆหน่อยคงไม่เป็นไรค่ะ

อ่านประโยคสุดท้ายแล้วได้หัวเราะอีกตามเคย ขอบคุณอ.หมอแป๊ะค่ะ งานนี้พี่ต้องทำอยู่ทุกสัปดาห์ ตอนนี้ใช้เตารีดไอน้ำ (แบบที่เติมน้ำไว้ข้างใน) ราคาไม่ถึงพันก็ใช้ได้ดี อาจารย์หาซื้อเอาไปใช้สิคะ ทุ่นแรงได้มากมาย ใช้แล้วคุ้มมากค่ะ จากที่เคยต้องใช้เวลาครึ่งค่อนวัน กับเสื้อผ้าคน 5 คนที่บ้านตอนนี้เหลือแค่ 2 ชั่วโมงเองค่ะ แถมไม่เจอภาวะ "รีดเท่าไหร่ก็ไม่เรียบ รีดหน้ายับหลัง รีดหลังยับหน้า รีดไปรีดมา ยับทั้งหน้ายับทั้งหลัง " อีกด้วยค่ะ ว่าไปแล้วที่สิงคโปร์เองอาจจะราคาถูกกว่าที่เมืองไทยด้วยซ้ำไป ซื้อมาใช้เถอะค่ะ ขอแนะนำจริงๆ ทุ่นเวลาและไม่เสียอารมณ์ค่ะ เอามาฝากคุณจิ๋มด้วยยิ่งดี

เอาเว็บไซต์ที่มี virtual keyboard ภาษาไทยมาฝากค่ะ http://www.puttipan.com/thaikeyboard/ เข้าไปกดเลือกฟ้อนต์ไทยโดยไม่ต้องใช้แป้นพิมพ์ แล้วก็ copy มาแปะได้เลย ทำให้เราสามารถพิมพ์ภาษาไทยได้ทุกที่ทั่วโลกแม้จะไม่มี keyboard ไทยให้ใช้ค่ะ เป็นผลงานของเด็กไทยที่น่าชื่นชมมากๆค่ะ เคยใช้สมัยที่ต้องเขียนเมลหาคนที่เมืองไทยแล้วไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาไทยค่ะ สะดวกมาก

สุดยอดเลยครับพี่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะทำได้ พิมพ์ช้าไปนิด แต่ก็ได้พิมพ์
ขอบคุณสำหรับยาแก้ลงแดง
ขอบคุณครับพี่โอ๋

คุณ P ครับ

ท้ายที่สุดก็ได้รีดและรีดได้ครับ ผมว่าความสามารถหนึ่งของการเกิดเป็นมนุษย์ก็คือ ความสามารถในการปรับตัว ปรับตัวในที่นี้คงมีทั้ง 2 นัยยะ

คือปรับที่จะยอมรับ ยอมใส่เสื้อยับๆไปทำงาน หรือพยายามรีดจนได้ใส่ แม้ว่าจยังยับอยู่แต่ยับน้อยกว่า

ผมเลือกแบบหลังครับ

แต่ถ้าหากว่ากลับบ้าน 2 สัปดาห์ครั้ง ก็จะพาไปซักที่บ้านครับ เพราะมีน้ำยาปรับผ้านุ่ม และมีคนรีดให้ครับ ฮา

พี่ P ครับ

จริงๆแล้ว เตารีดของเขาดีครับ คุณเทด เจ้าของบ้านเขาเอาเตารีดมาให้ผมใช้ครับ 

ผมกำลังประชดตัวเองต่างหาก เลยพาลไปว่าเตารีดครับ แบบว่า

รำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง

รีดไม่ดี โทษเตารีดโทษผ้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท