พวกเราคงจะทราบกันดีว่า อินเดีย จีน และไทยเป็นมหาอำนาจด้านประชากรที่มีเชื้อ HIV สูงในเอเชีย วันนี้มีข่าวดีที่ว่า อินเดียอาจจะมีเอดส์น้อยกว่าที่คิดไว้ครับ...
แหล่งข่าวจากหน่วยงานควบคุมโรคเอดส์อินเดีย (India’s AIDS control programme) รายงานผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า
ประมาณการณ์จำนวนคนที่ติดเชื้อ HIV (เชื้อที่ทำให้เกิดโรคเอดส์) ของอินเดียคือ จำนวนผู้ติดเชื้อน่าจะอยู่ที่ 2.47 ล้านคน น้อยกว่าที่องค์การสหประชาชาติประมาณการณ์ไว้ (น้อยกว่า 5.7 ล้านคน)
เดิมมีการประมาณการณ์จากผลการตรวจเลือดผู้หญิงที่ไปฝากครรภ์ และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คนติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด โสเภณี ฯลฯ
การศึกษาใหม่ทำจากข้อมูลฐานประชากร (population-based) ซึ่งมีความแม่นนยำสูงกว่าวิธีเดิม
เดิมคาดว่า อินเดียน่าจะเป็นประเทศที่มีคนติดเชื้อเอดส์มากที่สุดในโลกคือ 0.9% ของประชากรประมาณ 1,100 ล้านคน
การศึกษาใหม่มีข่าวดีคือ จำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์น่าจะมีประมาณ 0.36% ของประชากร ซึ่งน้อยกว่าอาฟริกาใต้ และไนจีเรีย
พวกเราที่มีโอกาสเดินทางเข้าไปในอินเดีย เช่น ไปนมัสการสังเวชนียสถาน ไปทัวร์ทัชมาฮาล เดินทางผ่านอินเดียไปเนปาล ฯลฯ ควรระวังการเข้าไปสถานที่ติดแอร์ เช่น รถทัวร์ติดแอร์ รถไฟ ฯลฯ เนื่องจากอาจมีโอกาสติดวัณโรคปอดได้
คนที่ติดเชื้อ HIV มีโอกาสติดเชื้อวัณโรค (tuberculosis / TB) สูงถึง 40% ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่
การระบาดของโรคเอดส์จึงมีส่วนเพิ่มการแพร่เชื้อวัณโรค และเพิ่มความเสี่ยงต่อวัณโรคชนิดดื้อยา
ถ้าจำเป็นต้องเดินทางในอินเดีย... เรียนเสนอให้เช่าเหมารถจี๊ปคันเล็กๆ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในห้องแอร์ หรือสถานที่ติดเครื่องปรับอากาศที่มีคนใช้บริการมากๆ เพื่อลดโอกาสติดวัณโรคปอด
การป้องกันเอดส์ทำได้ด้วยการไม่สำส่อนทางเพศ การใช้ถุงยางอนามัย (condom) และไม่ดื่มเหล้า (เบียร์ ไวน์...) เนื่องจากเมาแล้วมักจะขาดสติ ลืมตัว เสี่ยงภัยจนสายเกินแก้...
ข่าวประกาศ...
ขอแนะนำ...
แหล่งที่มา:
ไม่มีความเห็น