การทำขนมเส้นน้ำเงี้ยว
การทำขนมจีน
การทำขนมจีนน้ำเงี่ยว
คำสำคัญ (Tags): #no tag
หมายเลขบันทึก: 106275เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2007 18:36 น. ()ความเห็น (8)
ไม่เห็นมีการทำขนมเส้นน้ำเงี้ยวเลยค่ะ
การทำขนมจีนนำเงี้ยว (ขนมเส้นน้ำเงี้ยว) ครับต้องขอโทษกลุ่มม่วงคำด้วย ผมใช้เวลาในการหมักแป้ง(ตอนนี้กำลังหมักแป้งอยู่ครับ)
ขนมจีนน้ำเงี้ยวเชียงใหม่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว หรือ “ขนมเส้นน้ำเงี้ยว” ในภาษาเหนือคืออาหารอหร่อยและขึ้นชื่อของเมืองเชียงใหม่ ไม่แพ้น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ใส้อั่ว จิ้นทอด หมูทอด หรือแม้กระทั้งข้าวซอยซึ่งเป็นอาหารประเภทเส้นๆ เหมือนขนมจีน ที่สำคัญขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นอาหารที่ราคาประหยัดที่สุด แต่อุดมไปด้วยสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และยังเป็นแหล่งรวมคุณค่าของสมุนไพรหลายชนิด เช่น พริก หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ขมิ้น เป็นต้น โดยทั่วไป ขนมจีนน้ำเงี้ยวจะเป็นที่นิยมรับประทานกันตั้งแต่เด็กวัยรุ่นวัยผู้ใหญ่หรือกระทั้งผู้สูงอายุ สนนราคาก็มีตั้งแต่ราคา จานละ 5 บาท 7 บาท 10 บาท15 บาท และ 20 บาท ร้านขายขนมจีนน้ำเงี้ยวมีอยู่ทุกซอกมุมของเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ร้านที่เป็นเพิงหมาแหน ตั้งโต๊ะเตี้ยๆขายตามฟุตบาท จนถึงฟูดเซ็นเตอร์ของห้างสรรพสินค้าที่ติดแอร์เย็นฉ่ำและอาจพูดได้ว่าขนมจีนน้ำเงี้ยวหารับประทานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เชียงใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตลาดต้นลำใยตลาดสดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเชียงใหม่ จะมีร้านขนมจีนตั้งขายเรียงรายกันบนฟุตบาท หน้าตลาดสด ขายกันตั้งแต่หัวคำจนถึงสว่าง ด้วยเหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวที่ว่า “มาเจียงใหม่ บ่าได้กิ๋นขนมเส้นน้ำเงี้ยว บ่าได้เคี้ยวข้าวซอย บ่าได้ขึ้นดอยสุเทพ เปิ้นว่ามาบ่าถึงเชียงใหม่” เครื่องปรุงขนมจีนน้ำเงี้ยวเครื่องปรุง- พริแห้ง 10-15 เม็ด- กระเทียมเกลีบใหญ่ 2 หัว- หัหอม 3-4 หัว- ข่าซอย 2 โต๊ะ- ตะไคร้ 1 หัว- ขมิ้นผง 2 ช้อนชา- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ- เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ- กระดูกหมู ½ กิโลกรัม- หมูสับ ½ กิโลกรัม- เลือดหมูหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ½ กิโลกรัม- มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 2 ถ้วยวิธีทำ1. นำกระดูกหมูล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำไปต้มจนเดือด2. นำพริกแห้ง กระเทียม หัวหอม ข่า ตะไคร้ ขมิ้น โขลกให้ละเอียดใส่กะปิลงไป แล้วโขลกอีกครั้ง3. นำเครื่องปรุงที่โขลกละเอียดแล้วผัดในน้ำมันจนหอม4. ใส่หมูสับลงผัดจนสุกพร้อมเต้าเจี้ยว5. นำเครื่องปรุงและหมูสับที่ผัดสุขใส่ลงในน้ำต้มกระดูก ใส่มะเขือเทศ และเลือดหมู ต้มต่อไปจนสุก ปรุงรสตามชอบ จะได้น้ำเงี้ยวหม้อใหญ่ สำหรับขนมจีน 2-3 กิโลกรัมขนมจีนน้ำเงี้ยว จะโรยหน้าด้วยผักชีต้นหอมหั่นฝอย และกระเทียมเจียว เสริฟพร้อมเครื่องเคียง ผักกาดดองซอย กระหล่ำปลีซอย หัวปลีซอย ถั่วงอกสด ผักกระถินสด ผักกระเฉดสด ที่ขาดไม่ได้ ก็คือพริกขี้หนูแห้งทอด นอกจากขนมจีนน้ำเงี้ยวจะเป็นที่นิยมรับประทาน โดยทั่วไปแล้ว ขนมจีนน้ำเงี้ยวยังเป็นอาหารจานเดียวที่คนเหนือส่วนใหญ่ มักจะทำเลี้ยงแขกในงานมงคลต่างๆ เช่นงานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ และงานแต่งงาน เชื่อกันว่า เป็นอาหารมงคลจะทำให้ชีวิตยืนยาวมั่นคงแต่จะไม่ทำเลี้ยงแขกในงานศพ เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีงานศพ ต่อๆกันไปเป็นคิวยาวเหมือนเส้นขนมจีน นับเป็นการเชื่อที่ยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ก็ปฏิบัติสืบทอดกันมานานแล้ว สูตรน้ำเงี้ยวบางแห่งผิดเพี้ยนไปบ้าง เช่นน้ำเงี้ยวเชียงราย จะใส่ดอกงิ้วตากแห้ง และน้ำจะเข็มข้นกว่า บางที่เรียกขนมจีนน้ำงิ้ว สำหรับน้ำเงี้ยวแพร่ จะคล้ายกันแต่ไม่ใส่พริก น้ำแกงจะใสกว่า แต่จะปรุงรสด้วยพริกป่น พริกดอง น้ำตาลทีหลัง ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นภูมิปัญญาด้านอาหารของคนเหนือ ซึ่งมากไปด้วยคุณค่าอาหารครบทุกหมู่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อร่อย และประหยัด
เศรษฐกิจพอเพียง “เมล็ดพันธ์แห่งภูมิปัญญา” เป็นการนำเสนอเศรษฐกิจชุมชนแบบพอเพียงในระดับครอบครัว มีตัวอย่างคือ การปลูกพืช ผักสวนครัวไว้กินเอง เช่น พริก มะเขือ ข่า ตะไคร้ ใบโหระพา กะเพรา ฟัก แฟง แตงกวา เป็นต้น รวมทั้งภูมิปัญญาในการเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ ต่างๆ เพื่อขยายพันธ์ในปีต่อไป นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่นข้าวหอมมะลิ การเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ เช่น ไก่ ปลา และการทำอุตสาหกรรมในครัวเรือน ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ หัตถกรรมที่ต้องใช้ฝีมือ ของอุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการจับสัตว์น้ำ เช่น แห ยอ เบ็ด ฯลฯ รวมทั้งเครื่องมือทำการเกษตร ในอดีต เช่น ไถ คราด และอุปกรณ์ที่ใช้ เทียมควายเวลาไถนา เช่น แอก เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิต ของคนในอดีต ที่ผู้คนหาอยู่ หากินกับธรรมชาติ และทำมาหากินเพื่อให้อยู่ดีกินดี อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีการสะสมส่วนที่เกินความจำเป็น ต้องการแต่สิ่งที่จะช่วยให้ยังชีพ หรือที่เรียกกันว่า “เศรษฐกิจยังชีพ” (subsistent economy) ที่ผู้คนอยู่ได้เพราะพึงพาอาศัยกัน ยามขาดแคลน ฝนแล้ง น้ำท่วม เกิดศึกสงคราม หรือเกิดโร คระบาด การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เอาผักปลา ไปฝาก เพื่อแลกข้าว เป็นการแลกเปลี่ยนไม่ใช่เพื่อหวังผลกำไร แต่เพื่อช่วยกันให้อยู่รอด ชีวิตความเป็นอยู่จึงพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ อาศัยภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ และพึ่งพาอาศัยกันเอง และอยู่ได้ด้วยสมดุลแบบพอเพียง เป็นการจัดการชีวิตแบบรอบด้าน ทั้ง ร่างกาย จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สมดุลในความสัมพันธ์ของคน กับธรรมชาติ และสิ่งเหนือธรรมชาติ เศรษฐกิจพอเพียง มุ่งเน้นให้เกิดการพึ่งตนเองให้ได้ทุกระดับ เริ่มจากครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และสำคัญที่สุดของสังคม ครอบครัวจึงต้องพึ่งตนเองได้ในระดับพื้นฐานเป็นอย่างน้อย พออยู่พอกิน ช่วยตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นจนเป็นการสร้างความยุ่งยากลำบากให้คนอื่น พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๑๕๕๐ ความว่า “ถ้าสามารถที่จะเปลี่ยนให้กลับเป็นเศรษฐกิจแบบพอเพียง ไม่ต้องทั้งหมด แม้จะไม่ถึงครึ่ง อาจจะเศษหนึ่งส่วนสี่ ก็สามารถที่จะอยู่ได้” “การแก้ไขจะต้องใช้เวลา ไม่ใช่ง่าย ๆ โดยมากคนใจร้อนเพราะเดือดร้อนแ ต่ว่าถ้าทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ก็สามารถที่จะแก้ไขได้”
ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นอาหารที่อร่อยของคนไทยภาคเหนือ
ยอมรับว่าอร่อย ไปมุมใดของเมืองเชียงใหม่ เมื่อพบแล้วก็อดใจไม่ได้ที่ต้อง "เอาเซี๊ยะซักชามสองชาม"
แต่ก็ชวนให้สงสัยมานาน วานหาคำตอบในบล็อกนี้ด้วยครับว่า
ขนมนะเป็นของจีน (ขนมจีน)
น้ำนะเป็นของเงี้ยว (น้ำเงี้ยว)
นำมารวมกันเป็นอาหารของคนไต(ไทย)
ยังไง...
แต่ก็ดีนะ ทานได้ทั้งคนจีน คนเงี้ยว คนไต และ ฯลฯ
ขนมจีนของกลุ่มเพชรแผ่นดินอร่อยมากเป็นที่ประจักแก่นักชิมทั้งหลายแล้วเมื่อครั้งงานเศรษฐกิจพอเพียงแล้วเมื่อไหร่อีกหนอ?จะได้ชิมอีก..
การทำขนมจีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
น่าจะลองเอาไปทำกันดู
เห็นแล้วอยากทานมากๆ
ขอบคุณที่ติชมขนมจีนน้ำเงี้ยวไว้ถ้าใครสนใจจะทำรับประทานในวันหยุดสู่..ลูกหลานหรือญาติมิตร..ก็เอาสูตรไปทำได้เลยครับ กลุ่มเพชรแผ่นดินไม่สงวนลิขสิทธิ์ ด้วยความยินดีครับ