ประชุมปรับรายการยาใน สอ. ธาตุพนม
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2550 งานเภสัชกรรมได้มีโอกาสนัดประชุมชาว CUP ธาตุพนม ทั้งหมด 15 สอ.และผู้ประสานจาก สสอ.ธาตุพนม เพื่อเสนอวาระการปรับปรุงรายการยาที่ใช้ใน สอ. ซึ่งมีการปรับปรุงครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีก่อน รวมทั้งประชุม แลกเปรี่ยนการทำงานด้านการจัดการยา การประสานงานต่างๆเกี่ยวกับระบบยา
ผู้เข้าประชุม มีท่าน ผอ. น.พ.มนู ชัยวงค์โรจน์ ภก.วราวิทย์ ซึ่งรับผิดชอบงานบริหารและคลังเวชภัณฑ์ และทีมห้องยาอีก 4 คนคือผม เภสัชณัฐพล เภสัชจินดารนุช และพี่เกียรติระพี
ได้ข้อสรุป และแนวทางการดำเนินงานๆ คือ
1.กำหนดรายการยาที่ใช้ใน สอ.มีได้ไม่เกิน 100 รายการ และครั้งนี้มีรายการยาเดิมตัดออก 6 รายการ เสนอเข้าใหม่ 10 รายการ
2.ปีนี้มีพยาบาลวิชาชีพอยู่ใน สอ.มากขึ้น รวมถึงพยาบาลเวชปฏิบัติด้วย 2 คน รายการยาจึงครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิมในทุก สอ. แต่อย่างไรก็ตาม ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์จากโรงพยาบาล
3.เสนอทดลองใช้การบริหารคลังเวชภัณฑ์ แนวใหม่ โดยเริ่มทดลองใช้กับ สอ.นาถ่อน นาหนาด และตาลกุด 3 ที่แรก และนัดประชุมรายระเอียดอีกครั้ง
4.เดือน ส.ค. จะจัดทบทวนวิชาการด้านยา และการตรวจรักษาเบื้องต้น
5.ชี้แจงตัวชี้วัดเกี่ยวกับงานบริหารเวชภัณฑ์ และการติดตามนิเทศของ สสจ.
<table border="0" align="center"><tbody>
ท่าน ผอ.เป็นประธานครับ จนท.สอ.มากันครบ....................หรือเปล่า(นับเอาเอง)
พี่ตุ้ม เตรียมข้อมูลมาอย่างดีเยี่ยม รวมทั้งแนวทางการบริหารเวชภัณฑ์แบบใหม่
หน้าตาเคร่งเครียดไปนะ 2-3 คนเนี้ย........................
O.K. ทำหน้าตาใช้ได้ ครับ
</tbody></table>
ความเห็น (4)
สวัสดีค่ะ
- แวะมาเยี่ยมค่ะ
- ไม่เคยรู้เลยค่ะ ว่า สอ. ก็มีรายการยา เยอะอย่างนี้
ทำยังไงถึงจะได้คลังใหม่...ใหญ่กว่าเดิมเยอะ ๆ
เภสัชกรต๋อม
ชื่นชมพี่ๆนะครับ ในความคิดของผมนะ ผมว่าทิศทางปฐมภูมิมาแรง ถ้าเรามีแนวคิดว่าจะทำให้คนไข้เข้ารับบริการใน รพ.สต.มากขึ้นเราต้องพัฒนาทั้งคนที่อยู่ รพ.สต.และพัฒนากรอบยาให้ตรงกับความต้องการจริงๆ ยกตัวอย่างคนไข้เบาหวานที่ต้องได้รับ ASA ด้วยแล้ว ใน รพ.จ่ายยา omeprazole ให้ และส่งผู้ป่วยไปให้พื้นที่ดูแล สุดท้ายคนไข้ไปตรวจต่อที่ รพ.สต.ไดรับยาทุกอย่าง แต่ต้องไปเอายา omeprazole ที่ รพ.เพราะไม่มีใน รพ.สต. ผมว่ามันก็แปลกดีนะ ตกลงเรากำหนดกรอบยาตามกรอบแพทย์หรือว่ากรอบคนไข้ ถ้ากำหนดกรอบตามแพทย์ผมว่าไม่ควรส่งคนไข้ไปที่ รพ.สต. แต่ถ้าจะส่งก็ต้องส่งยาหรือสิ่งสนับสนุนไปด้วย แต่เรามาวางว่าจะเฝ้าระวังต่ออย่างไรดีกว่า สุดท้ายผมว่าเรามี PTC ระดับ รพ.ก็น่าจะมี PTC ระดับ cup น่าจะดีนะครับ จะได้มาดูแล CPG และกรอบยาของ รพ.สต.ให้เหมาะสม
ขอบคุณน้องต๋อมครับที่ มีแนวคิดดีๆ